นับตั้งแต่วันที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ประกบมือเป็นรูปหัวใจกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บรรยากาศความเหนียวแน่นเป็นเอกภาพระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลก็ฟื้นกลับมา ไม่ปรากฏกระแสข่าวความขัดแย้งแทงเหลี่ยมกันระหว่างสองพรรคแกนนำ ยิ่งข่าวที่ว่า ภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ยอมรับหลักการพรรคอันดับ 1 ควรได้ประธานสภา พรรคอันดับ 2 ขอรองประธานสภา บรรยากาศยิ่งสวย รอลุ้นแค่รวมเสียงให้ได้ 376 เสียง
แต่ทันใดนั้นเมื่อมีการประชุมสัมมนา ส.ส. พรรคเพื่อไทย ระเบิดเวลาที่ซุกไว้ก็ทำงาน ส.ส. เพื่อไทยค้านสุดเสียงยกตำแหน่งประธานสภาให้ก้าวไกล ไม่ยอมให้พระบวชใหม่เป็นสมภาร เกมเปิดฟรีโหวตในสภาเลือกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ตำแหน่งประธานสภาในประวัติศาสตร์การเมืองไทยอยู่ที่การตกลงกันในวงเจรจา ไม่มีมาตรฐานชัดเจนว่าต้องอายุเท่าไร บวชมานานแค่ไหน หรือเป็นพรรคอันดับ 1 หรือไม่ ถ้าตกลงกันได้ทุกอย่างก็จบ
แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้แล้วมาลงมติในสภา ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร 8 พรรคร่วมรัฐบาลคือจบเห่ อีกฝั่งที่แพ้เลือกตั้งเฝ้ารอส้มหล่นอย่างมีหวังอีกครั้ง