ศาลสูงสุดแห่งรัฐเดลาแวร์มีคำพิพากษากลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น โดยให้คืนสิทธิ์ในแพ็กเกจค่าตอบแทนมูลค่า 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.76 ล้านล้านบาท) แก่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดคดีความที่ยืดเยื้อและเปิดทางให้มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกรายนี้ได้รับผลตอบแทนมหาศาลอีกครั้ง
คำตัดสินดังกล่าวเป็นการปฏิเสธคำพิพากษาเดิมในปี 2024 ของ แคธลีน แมคคอร์มิค ประธานศาลแห่งศาลชานเซอรีรัฐเดลาแวร์ ซึ่งเคยสั่งเพิกถอนแผนการจ่ายค่าตอบแทนปี 2018 ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าคณะกรรมการของ Tesla มีความใกล้ชิดกับ มัสก์ มากเกินไป และกระบวนการอนุมัตินั้นมีความบกพร่อง
อย่างไรก็ตาม คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดทั้ง 5 ท่านมองว่า แม้กระบวนการอนุมัติจะไม่เหมาะสม แต่การยกเลิกสัญญาจ้างทั้งหมดถือเป็น ‘บทลงโทษที่ไม่ถูกต้อง’ โดยศาลระบุในความเห็นที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (19 ธ.ค.) ว่า “การเพิกถอนสัญญาจะทำให้มัสก์ไม่ได้รับค่าตอบแทนสำหรับเวลาและความพยายามของเขาในช่วงระยะเวลา 6 ปี”
ศาลสูงสุดยอมรับความจริงที่ว่า คณะกรรมการของ Tesla ในปี 2018 ได้อนุมัติการมอบหุ้นหลายร้อยล้านหุ้นให้กับ มัสก์ ผ่านกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎระเบียบ แต่ศาลสรุปว่า “การสั่งยกเลิกแผนตอบแทนทั้งหมดไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสม” สำหรับความผิดพลาดในขั้นตอนดังกล่าว เนื่องจากบริษัทได้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจตามเงื่อนไขแล้ว
เหตุผลสำคัญคือผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์อย่างมากจากความพยายามของ มัสก์ ระหว่างปี 2018 ถึง 2024 ซึ่งเป็นช่วงที่ Market Cap ของบริษัทพุ่งสูงขึ้นเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31.42 ล้านล้านบาท) โดยศาลระบุว่า “เป็นที่ยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งว่ามัสก์ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วนตามสัญญาปี 2018”
สำหรับหุ้นจำนวน 303 ล้านหุ้นที่ มัสก์ ได้รับสิทธิ์คืนกลับมาตามคำตัดสินนี้ ปัจจุบันมีมูลค่าเกือบ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.71 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่มหาศาล และเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จในการบริหารงานของเขาในช่วงเวลาดังกล่าวตามที่ศาลได้พิจารณา
ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2024 ศาลชั้นต้นได้ชี้ขาดว่ากระบวนการอนุมัติแพ็กเกจนี้มีความบกพร่อง เนื่องจากคณะกรรมการมีความสัมพันธ์ส่วนตัวและทางวิชาชีพที่ใกล้ชิดกับ มัสก์ โดยระบุว่า “มัสก์เป็นตัวอย่างของ ‘Superstar CEO’ และครอบงำกระบวนการที่นำไปสู่การอนุมัติแผนค่าตอบแทนของเขา”
ผลพวงจากคำตัดสินในปี 2024 ทำให้คณะกรรมการ Tesla ต้องอนุมัติข้อตกลงค่าตอบแทนฉบับใหม่ในปีนี้ ซึ่งผู้ถือหุ้นได้ลงมติเห็นชอบมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31.42 ล้านล้านบาท) หากทำได้ตามเป้าหมายทั้งหมดที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ Tesla ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากศาลสูงสุดคืนสิทธิ์ในแพ็กเกจปี 2018 บริษัทจะดำเนินการถอนข้อเสนอค่าตอบแทนชั่วคราวและแพ็กเกจใหม่ล่าสุดออกไป ซึ่งรวมถึงเงินตอบแทนชั่วคราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.11 แสนล้านบาท) ที่ตั้งใจจะมอบให้ก่อนหน้านี้
ในส่วนของบทลงโทษ ศาลสั่งให้คณะกรรมการจ่าย ‘ค่าเสียหายเชิงสัญลักษณ์’ เพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31 บาท) สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ได้อนุมัติค่าทนายความจำนวน 54.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.71 พันล้านบาท) ให้แก่ทีมกฎหมายของ ริชาร์ด ทอร์เนตตา ผู้ถือหุ้นที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจนชนะคดี
ทนายความฝั่งโจทก์กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “เราขอขอบคุณผู้พิพากษาสำหรับความใส่ใจ การทำงานหนัก และเวลาที่มอบให้กับเรื่องนี้ เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในคำตัดสินประวัติศาสตร์ ที่เรียกให้คณะกรรมการ Tesla และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดหน้าที่ความไว้วางใจ”
คดีความนี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยก่อนหน้านี้ มัสก์ ได้กล่าวหาศาลว่ามี ‘การทุจริตอย่างร้ายแรง’ และตัดสินใจย้ายการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท Tesla ไปยังรัฐเท็กซัส ซึ่งส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น Dropbox และ Coinbase ทยอยย้ายออกจากรัฐเดลาแวร์ไปยังเท็กซัสหรือเนวาดาเช่นกัน
หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 31.42 บาท ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2568
ภาพ : Max Whittaker/Getty Images
อ้างอิง:


