รายงานจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า อีลอน มัสก์ และทีมงานได้พูดคุยกับนักลงทุนเกี่ยวกับการระดมทุนสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อชำระหนี้บางส่วนของ Twitter จากทั้งหมด 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการซื้อกิจการของมัสก์เอง
ทีมงานของมัสก์กล่าวว่า หากแผนการระดมทุนประสบความสำเร็จ อาจนำไปใช้เพื่อชำระหนี้ส่วนที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของจำนวนหนี้ทั้งหมดของ Twitter มูลค่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์
การชำระหนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาทางการเงินของ Twitter หลังพยายามดิ้นรนเพื่อให้ผู้ลงโฆษณายังอยู่บนแพลตฟอร์ม เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2022 มัสก์เปิดเผยว่า Twitter ได้รับความเดือดร้อนจากรายได้ที่ลดลงอย่างมาก และสูญเสียรายได้มากกว่า 4 ล้านดอลลาร์ต่อวัน นอกจากนี้มัสก์ยังเผยว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะล้มละลาย ซึ่งในภายหลังมัสก์ได้เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยคาดว่า Twitter จะถึงจุดคุ้มทุนของกระแสเงินสดภายในปี 2023 เนื่องจากได้ลดพนักงานลงกว่า 6,000 ตำแหน่ง
ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทีมงานของมัสก์ได้ติดต่อกับนักลงทุนรายใหม่และรายเดิมผ่านอีเมลเรื่องการเพิ่มทุนใหม่ในราคาที่เทกโอเวอร์ Twitter เดิม โดยหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงการระดมเงินสดในราคาซื้อกิจการครั้งแรกภายในสิ้นปี 2022
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางรายเปิดเผยว่าไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ เนื่องจากความกังวลด้านประสิทธิภาพทางการเงินของ Twitter หลังทีมงานของมัสก์ไม่ได้ระบุจำนวนเงินหรือวัตถุประสงค์ในการระดมทุนไว้ในอีเมล
Fidelity หนึ่งในผู้ร่วมลงทุนที่สนับสนุนการครอบครอง Twitter ของมัสก์ ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน Twitter ลงถึง 56% ในเดือนพฤศจิกายน เอกสารที่ยื่นต่อสาธารณะแสดงให้เห็นว่า มัสก์ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบากในการระดมทุนด้วยการประเมินมูลค่าเดิมจากนักลงทุน และธนาคารที่ถือครองหนี้มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ยังไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการว่าจะชำระคืนในเวลาใด
สินเชื่อไม่มีหลักประกันที่มีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ เป็นส่วนที่มากที่สุดในแพ็กเกจหนี้ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ของ Twitter ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อกิจการมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ มัสก์ต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ย 10% ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่มีหลักประกัน ซึ่งอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่กำลังพุ่งขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.3%
จากการวิเคราะห์ของ Jeffrey Davies อดีตนักวิเคราะห์สินเชื่อและผู้ก่อตั้ง Enersection LLC ประมาณการว่า ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยรวมของ Twitter อยู่ที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยประมาณ 3.4 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยคลายความกดดันให้แก่ธนาคารที่สนับสนุนการเข้าซื้อกิจการโซเชียลมีเดียชื่อดังของมัสก์ และตั้งใจที่จะขายหนี้ให้กับนักลงทุนภายนอก แต่ภายหลังต้องยุติไปเนื่องจากสภาวะตลาดที่ทรุดโทรม ทำให้ Wall Street ต้องรับความเสี่ยง ไปจนถึงพันธบัตรและเงินกู้ที่มีความเสี่ยง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตลบหลังเพื่อน ดูดหัวกะทิจากคู่แข่ง ปากแจ๋วไม่เลิก ตกลงแล้ว ‘อีลอน มัสก์’ เก่งจริงหรือสร้างภาพ?
- หรือออฟฟิศจะร้าง? สื่อดังเผย Twitter เหลือจำนวนวิศวกรดูแลระบบไม่ถึง 550 คน ขณะที่ทั้งบริษัทเหลือพนักงานแค่ 1,300 คน จาก 7,500 คนปีก่อน
- ‘ไม่มีความเป็นผู้นำ-อีโก้สูง-ไล่ใครก็ได้ออกตามอำเภอใจ’ เสียงสะท้อนของพนักงาน Tesla ถึง ‘อีลอน มัสก์’
อ้างอิง: