ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนาหูว่า อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อเทคโนโลยีคนดัง อาจกำลังให้ความสนใจเข้าซื้อแอปพลิเคชันวิดีโอชื่อดังอย่าง TikTok ล่าสุดมัสก์ออกมาดับกระแสข่าวดังกล่าวอย่างชัดเจน พร้อมประกาศว่า เขายังไม่มีแผนที่จะเข้าซื้อ TikTok และความสนใจของเขาในตอนนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อแข่งขันกับบริษัท DeepSeek จากประเทศจีนมากกว่า
มัสก์กล่าวถึงประเด็นการซื้อ TikTok เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา ในงานประชุมที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งจัดโดย มาเทียส เดิฟเนอร์ มหาเศรษฐี และซีอีโอของบริษัทสื่อ Axel Springer โดยมัสก์ได้เข้าร่วมงานประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และคลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนโดยหนังสือพิมพ์ DIE WELT เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 กุมภาพันธ์)
“ผมไม่ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อ TikTok” มัสก์กล่าว พร้อมเสริมว่า “ผมยังไม่มีแผนใดๆ ว่าจะทำอะไรหากผมได้เป็นเจ้าของ TikTok” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนตัวแล้วเขาไม่ได้ใช้งาน TikTok แม้แต่น้อย “ผมไม่ได้กระตือรือร้นที่จะเข้าซื้อ TikTok” ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2022 เขาเพิ่งเข้าซื้อ Twitter และเปลี่ยนชื่อเป็น X ในเวลาต่อมา
การเข้าซื้อ Twitter นั้นเป็นข้อยกเว้นสำหรับเขา มัสก์อธิบายว่า เหตุผลที่ซื้อ Twitter เพราะต้องการที่จะรักษาเสรีภาพในการแสดงออก พร้อมย้ำว่า โดยปกติแล้วเขามักจะสร้างบริษัทขึ้นมาเองตั้งแต่เริ่มต้นมากกว่า
ก่อนหน้านี้ Bloomberg News รายงานในเดือนมกราคมว่า เจ้าหน้าที่ของจีนกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่อาจอนุญาตให้มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนดัง เข้าซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ หากบริษัทไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำสั่งแบนได้
โดยสถานการณ์หนึ่งที่ถูกพูดถึงคือ X ของมัสก์จะเข้าควบคุม TikTok US และดำเนินธุรกิจร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เท่านั้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าในวันแรกที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่สั่งระงับการขายบังคับหรือปิดตัว TikTok ในสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว เพื่อให้บริษัทและบริษัทแม่ในจีนมีเวลามากขึ้นในการบรรลุข้อตกลง ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังพิธีเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งมี โจวโซ่วจือ ซีอีโอของ ByteDance เข้าร่วมงานด้วย
คำสั่งดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนล่าสุดในความพยายามหลายปีของสหรัฐฯ ในการแบนแอปด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แม้ว่าทรัมป์จะเคยสนับสนุนการแบนในช่วงแรก แต่ต่อมากลับเปลี่ยนใจ หลังจากที่แอปนี้ช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ “เราชนะคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ ผมคิดว่าผมชนะได้เพราะ TikTok ดังนั้นผมจึงรู้สึกดีกับ TikTok” ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ตาม มัสก์ก็เหมือนกับทรัมป์ที่สามารถเปลี่ยนใจได้เสมอ ทรัมป์เคยกล่าวว่า เขาจะเปิดกว้างให้มัสก์ หรือ แลร์รี เอลลิสัน ประธานบริษัท Oracle เข้าซื้อแอป โดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจการร่วมทุนกับรัฐบาลสหรัฐฯ
ByteDance ออกมาปฏิเสธอย่างเปิดเผยที่จะขาย TikTok แม้ว่าผู้ซื้อที่มีศักยภาพจะกล่าวว่า พวกเขาหวังว่าคำตัดสินของศาลฎีกาที่สนับสนุนกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่บังคับให้บริษัทต้องขายหรือปิดบริการในสหรัฐฯ อาจผลักดันให้บริษัททบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัททั้งหมด เพราะรัฐบาลจีนก็จำเป็นต้องอนุมัติธุรกรรมใดๆ ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการแข่งขันด้าน AI มัสก์กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Axel Springer ว่า เขามุ่งมั่นที่จะแข่งขันกับ DeepSeek แชตบอต AI ที่เปิดตัวในเดือนมกราคมโดยบริษัทซอฟต์แวร์ DeepSeek ของจีน ซึ่ง DeepSeek สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ด้วยโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับแชตบอตอื่นๆ แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่า ส่งผลกระทบต่อหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก และกระตุ้นให้นักลงทุนตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Meta, Microsoft และบริษัทอื่นๆ
“มันเป็นการปฏิวัติ AI หรือเปล่า? ไม่ใช่หรอก” มัสก์กล่าว พร้อมอ้างถึงบริษัท AI ของตัวเองว่า “xAI และบริษัทอื่นๆ จะเปิดตัวโมเดลที่ดีกว่า DeepSeek เร็วๆ นี้”
ภาพ: Kenny Holston-Pool / Getty Images
อ้างอิง: