‘อีลอน มัสก์’ ได้ออกมากล่าวยืนยันว่า พนักงานที่ได้รับเงินเดือนที่ Tesla Inc. จะลดลงประมาณ 10% ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า แต่โดยภาพรวมจะลดลงราว 3.5% เพราะคาดว่าจำนวนพนักงานรายชั่วโมงจะเพิ่มขึ้น
คำพูดนี้เกิดขึ้นในงาน Qatar Economic Forum ซึ่งมัสก์ถูกสัมภาษณ์โดยบรรณาธิการข่าว Bloomberg News โดยเขากล่าวว่า การลดพนักงานนั้น ‘ไม่ใช่สาระสำคัญ’ ซึ่งพนักงานที่ได้รับเงินเดือนคิดเป็น 2 ใน 3 ของพนักงานทั้งหมด
Tesla ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส มีพนักงานทั้งหมด 1 แสนคน โดยก่อนหน้านี้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในออสตินและเบอร์ลิน แต่การลดคนดังกล่าวจะกระทบกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลและวิศวกรซอฟต์แวร์ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆ คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘หุ้น Tesla ดิ่งหนัก-ปัญหาใหญ่ใน SpaceX-เปิดตัวใน Twitter ไม่สวย’ หนึ่งสัปดาห์ที่ อีลอน มัสก์ ไม่อยากจำ
- เดาใจไม่ถูกจริงๆ ‘อีลอน มัสก์’ บอกว่าพนักงานจะเพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ทั้งที่เตรียมปลดพนักงาน 10% เพราะ ‘รู้สึกแย่’ กับภาวะเศรษฐกิจ
- ‘อีลอน มัสก์’ ยื่นคำขาดให้พนักงาน Tesla ‘จะเข้าออฟฟิศ หรือ ลาออก’
พนักงานหลายคนแจ้งว่าพวกเขาจะถูกแจ้งให้ยุติการทำงานทันที ทำให้อดีตพนักงานของ Tesla จำนวน 2 คน ได้ยื่นฟ้องโดยกล่าวหาว่า Tesla ละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับ ‘การเลิกจ้างจำนวนมาก’
“นั่นเป็นคดีเล็กๆ ที่มีผลเล็กน้อย” เขากล่าว “อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ Tesla จะกลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางจักรยานหรือเรื่องร้ายแรงกว่านั้น”
ก่อนหน้านี้มัสก์ได้แจ้งให้พนักงานเข้าทำงานในออฟฟิศอย่างน้อย 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งหากไม่เข้าจะถือว่า ‘ลาออก’ คำสั่งดังกล่าวยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับพนักงาน Twitter ที่มัสก์กำลังจะเข้าซื้อ ซึ่งที่ผ่านมามีนโยบายทำงานจากที่ใดก็ได้ตลอดช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด
มัสก์ได้เสนอแนวคิดที่จะเปลี่ยนสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโกให้เป็นที่พักพิงคนไร้บ้านเพราะ ‘ไม่มีใครปรากฏตัวเลย’
สำหรับการแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก มัสก์กล่าวว่า Tesla ไม่ได้คิดถึงคู่แข่งเลย เพราะปัญหาหลักที่ต้องเผชิญคือซัพพลายเชนและกำลังการผลิตของตัวเอง
“ความต้องการรถยนต์ของเรานั้นสูงมากและคำสั่งซื้อก็รอนาน” เขากล่าว “เราไม่ได้คิดถึงการแข่งขันจริงๆ เราแค่คิดว่าเราจะจัดการกับข้อจำกัดในซัพพลายเชนและในความสามารถทางอุตสาหกรรมของเราเองได้อย่างไร”
“โดยพื้นฐานแล้วเราต้องสร้างโรงงานให้เร็วขึ้น” เขากล่าว “แล้วเราต้องมองไปข้างหน้าถึงความสำคัญของซัพพลายเชนในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั้งหมดด้วย”
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย มัสก์กล่าวว่า ‘ในบางจุดหลีกเลี่ยงไม่ได้’ แต่ถูกตั้งคำถามว่าเมื่อใดที่เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้น เขากลับบอกว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นแต่ยังไม่สามารถประเมินว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร
ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักเศรษฐศาสตร์กังวลเกี่ยวกับโอกาสของ ‘ภาวะเศรษฐกิจถดถอย’ (Stagflation) ซึ่งราคาสินค้าจะสูงขึ้นแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจแย่ลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 เพื่อพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ภาพ: Drew Angerer / Getty Images
อ้างอิง: