วันนี้ (15 มราคม) ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตหลักสี่-จตุจักร หลายพรรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครเดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่
อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัคร เบอร์ 2 พรรคกล้า ลงพื้นที่พบปะพี่น้องพ่อค้าแม่ค้าในตลาดริมบึงเมืองทอง ย่านหลักสี่ พร้อมเน้นย้ำถึงแนวทางการทำงานของพรรคกล้า ที่จะเน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก และให้ความรู้เรื่องการทำบิลสำหรับจ่ายภาษีในโครงการคนละครึ่ง
อรรถวิชช์กล่าวว่า การลงพื้นที่ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนให้การตอบรับดีขึ้น ในเขตจตุจักรมีความคุ้นชินกันดีอยู่แล้ว ส่วนเขตหลักสี่คนเริ่มเปิดใจ และเข้าใจมากขึ้นว่าพรรคกล้าไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์สาขาสอง
ส่วนการหาเสียงในกลุ่มหมู่บ้าน-คอนโด ได้การตอบรับดีมาก หลายคนดีใจที่ตนกลับมาลงสมัคร แม้มีเวลาหาเสียงน้อยแต่จะพยายามไปให้ครบทุกที่ เชื่อว่าพรรคกล้าเรามาถูกทางกับการสร้างพรรคแนวเศรษฐกิจแบบนี้ ซึ่งก่อนจะมีการปราศรัยใหญ่ในวันที่ 28 มกราคม ขณะนี้ก็จะมีการปราศรัยย่อยทุกวันระหว่างลงพื้นที่หาเสียง โดยเน้นให้ความรู้เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ส่วนช่วงเย็นก็สำรวจทางลัด ทางระบายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมและการจัดการน้ำในเขตหลักสี่-จตุจักร โดยวันที่ 30 มกราคม จะเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดี และฝากถึง กกต. ให้รณรงค์เรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง และให้คนออกมาใช้สิทธิเยอะๆ
ด้านพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ได้ลงพื้นที่ช่วย สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครเบอร์ 3 หาเสียงบริเวณตลาดนัดการเคหะท่าทราย เพื่อพบปะทักทายประชาชน หลังจากนั้นได้นั่งร่วมโต๊ะดื่มกาแฟกับผู้คนในชุมชนด้วยบรรยากาศราบรื่นเป็นกันเอง
นพ.ชลน่าน ยกให้ท่าทรายเป็นชุมชนต้นแบบของการต่อต้านการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะประชาชนมีความหวงแหนในสิทธิเสียงของตนเอง โดยเฉพาะการซื้อบัตรประชาชน ซึ่งปัจจุบันเกิดการโน้มน้าวชักจูงกันอย่างมากในหลายพื้นที่ ซึ่งตนมองว่าการขายสิทธิขายเสียงของตัวเองในราคา 3,000-5,000 บาท เชื่อว่าคนในชุมชนนี้ไม่ยอมขายศักดิ์ศรี และพร้อมร่วมกันต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียงอย่างแน่นอน
ขณะที่สุรชาติกล่าวว่า มีความพอใจกับการปราศรัยเมื่อวาน เพราะมีโอกาสได้ถ่ายทอดอุดมการณ์และความรู้สึกของตน พร้อมทั้งขอให้ติดตามการปราศรัยใหญ่ครั้งที่สอง ในวันที่ 28 มกราคมนี้ บริเวณเขตจตุจักร ทั้งยังเน้นย้ำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 30 มกราคมนี้ เชื่อว่าพลังงานบริสุทธิ์ของพี่น้องประชาชนจะเป็นตัวตัดสิน และต่อต้านการทุจริตเลือกตั้งได้ดีที่สุด
ด้าน สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ช่วยลงพื้นที่เดินหาเสียงที่ตลาดหมู่บ้านจัดสรรรถไฟ หรือตลาดสายหยุดภายในซอยวิภาวดี 25 โดยได้เดินทักทายพ่อค้า แม่ค้า ประชาชนที่มาจับจ่ายในช่วงเช้า มีกองเชียร์มาทักทายพร้อมมอบกุหลาบ เพื่อให้กำลังใจในการสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม
ชัยวุฒิกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และคนในพื้นที่ ประชาชนก็รู้จักสรัลรัศมิ์อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีทีมงานคอยช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งชาวบ้านก็คุ้นเคยกับตัวผู้สมัครอยู่แล้ว และพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรครัฐบาล มีผลงานในพื้นที่นี้อย่างชัดเจน อย่างสถานีรถไฟฟ้าทุ่งสองห้อง ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้ประชาชนในพื้นที่เดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนรักและศรัทธาในรัฐบาลมาก เชื่อว่าคะแนนนิยมนี้จะส่งผลต่อตัวผู้สมัคร ที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 30 มกราคมนี้อย่างแน่นอน
ด้านสรัสรัศมิ์ย้ำว่ามั่นใจ 100% เพราะจากการลงพื้นที่เขตหลักสี่ ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี และมีผลงานตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นที่ประจักษ์กับ ประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว จึงไม่มีความกังวลใจใดๆ กับพรรคที่มาแข่งขันในครั้งนี้