×

สำรวจ EICMA 2019 งานมอเตอร์โชว์มอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่สุดในโลก

13.11.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS. READ
  • EICMA มอเตอร์โชว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี จัดขึ้นเป็นปีที่ 77 
  • ภายในงานปีนี้มีการจัดแสดงทั้งหมด 8 ฮอลล์ จากแบรนด์มอเตอร์ไซค์และสินค้าที่เกี่ยวข้องกว่า 1,800 แบรนด์ 
  • Revolution In Motion คือธีมของงานในปีนี้ ซึ่งนอกเหนือจากนวัตกรรมชั้นนำของโลกมอเตอร์ไซค์ที่ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกภายในงานนี้แล้ว EICMA ปีนี้ยังได้รับรองจาก ISO 20121 – Sustainable Event Management ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองว่าผู้จัดได้สร้างความตระหนักถึงการลดใช้ขยะและการรีไซเคิลจากการจัดมหกรรมครั้งนี้ 
  • ปีนี้ยังเป็นงานที่มีแบรนด์มอเตอร์ไซค์ EV เข้ามาร่วมจัดแสดงเพิ่มขึ้น พร้อมกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Harley Davidson ก็ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น LiveWire ภายในงานนี้อีกด้วย

นับเป็นครั้งแรกที่ THE STANDARD ได้มีโอกาสเดินทางเข้าร่วมงาน EICMA มอเตอร์โชว์ของรถจักรยานยนต์สองล้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี 

 

 

โดยในปีนี้เราได้เดินทางเข้าร่วมงานกับทาง เอ.พี.ฮอนด้า จากประเทศไทย ซึ่งภายในงานปีนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Revolution In Motion โดยมีการนำเอาแบรนด์มอเตอร์ไซค์และสินค้าที่เกี่ยวข้องกว่า 1,800 แบรนด์มาจัดแสดงภายใน EICMA ปีที่ 77 นี้ 

 

วันแรกที่เราเดินทางถึงเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ตรงกับวันแรกที่ทาง EICMA เปิดให้สื่อมวลชนและดีลเลอร์จากประเทศต่างๆ เข้าร่วมชมงานระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน ก่อนที่จะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 

 

 

โปรแกรมของเราเริ่มต้นด้วยการเข้าร่วมงานแถลงเปิดตัวทีมของ HRC Honda Racing Corporation โดยมีนักขับของทีมเรปโซล ฮอนด้า อย่างแชมป์โลกปี 2019 มาร์ค มาร์เกซ และฆอร์เก ลอเรนโซ แชมป์โลก 3 สมัยเข้าร่วมงาน เป็นการต้อนรับจากผู้ครองสังเวียนสองล้อที่เป็นเสมือนห้องทดลองนวัตกรรมของมอเตอร์ไซค์ก่อนที่จะออกสู่พื้นถนน ก่อนที่พื้นที่งานจะเปิดให้เราเข้าชมอย่างเป็นทางการในเวลา 12.00 น. 

 

 

ขนาดของ EICMA งานมอเตอร์โชว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ภายในงาน EICMA ปีนี้มีการจัดแสดงทั้งหมด 8 ฮอลล์ที่เต็มไปด้วยแบรนด์และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไซค์​จากทั่วโลก ซึ่งจากการประเมินด้วยสายตา ขนาดของฮอลล์มีขนาดเทียบเท่ามอเตอร์โชว์ที่ประเทศไทย ซึ่งบ่งบอกได้ถึงความใหญ่ของงานมอเตอร์โชว์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่สุดในโลก 

 

 

โดยจากรายงานของ EICMA ในปี 2018 มีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 7.4 แสนคน ซึ่งมีการจัดงานทั้งหมด 6 ฮอลล์จาก 1,200 แบรนด์ ซึ่งภายในปีนี้ที่มีทั้งหมด 8 ฮอลล์ ได้มีการประมาณการจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 8 แสนคน โดยหากเปรียบเทียบกับงานที่มีชื่อเสียงเหมือนกันอย่าง Frankfurt Motor Show ได้เผยว่ามีผู้เข้าชมเพียง 5 แสนคนเท่านั้น 

 

Revolution In Motion กับเป้าหมายที่มีมากกว่านวัตกรรมของมอเตอร์ไซค์
ธีมของงาน Revolution In Motion นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของมอเตอร์ไซค์แล้ว ปีนี้ EICMA ยังได้รับการรับรองจาก ISO 20121 – Sustainable Event Management โดยทางฝ่ายผู้จัดได้มีคำสั่งให้ผู้เข้าร่วมจัดแสดงปฏิบัติตามกฎ เช่น การรณรงค์สร้างความตระหนักเกี่ยวกับความยั่งยืน ทั้งการบริหารจัดการรีไซเคิล ลดขยะต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งจากบูธของผู้จัด ร้านอาหาร และบาร์ต่างๆ ก่อน ระหว่าง และหลังจากงานจบลง  

 

 

รวมถึงงานนี้ยังได้เปิดให้ผู้หญิงสามารถเข้าชมงานได้ฟรีในวันที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้าถึงวัฒนธรรมการขับขี่มอเตอร์ไซค์มากขึ้น ซึ่งตัวเลขจากงานวิจัยของ Motorcycle Industry Council เมื่อปี 2018 เผยว่า 19% ของเจ้าของมอเตอร์ไซค์ในสหรัฐอเมริกาเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นเท่าตัวหนึ่งจากงานวิจัยเดียวกันเมื่อปี 2009 


นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมที่มีชื่อว่า EICMA For Kids ที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้เยาวชนเข้าถึงวัฒนธรรมของยานยนต์สองล้อด้วยความเข้าใจถึงกฎระเบียบบนท้องถนนและความปลอดภัย 

 

 

โดยเป้าหมายสำคัญของการเดินทางมาเข้าร่วมงานครั้งนี้ของสื่อมวลชน ดีลเลอร์ และตัวแทนจากประเทศต่างๆ คือโอกาสในการเรียนรู้เทคนิคและเทคโนโลยีในการนำเสนอและเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ จากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งภายในงานเราได้มีโอกาสพบคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ 

 

 

อนาคตของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใน EICMA ปี 2019
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปีแรกที่มีการจัดบูธมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขึ้นภายในงาน แต่ภายในปีนี้ทาง แอนเดรีย เดลลอโต ประธาน EICMA ได้ย้ำชัดถึงความสำคัญของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยมีแบรนด์ต่างๆ เริ่มพัฒนาเครื่องยนต์ไร้มลพิษมากขึ้น ซึ่งปีนี้ทาง Harley Davidson แบรนด์มอเตอร์ไซค์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า LiveWire ที่สามารถขับขี่ได้ถึง 253 กิโลเมตรหากชาร์จแบตเต็ม 

 

 

ภายใน EICMA ปีนี้ยังมีการจัดฮอลล์เพื่อแสดงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งทาง ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร เอ.พี.ฮอนด้า ได้ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากับสื่อมวลชนที่เดินทางไปร่วมงานในปีนี้ว่า ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ EV จากจีนและอินเดียเข้ามาภายในงานนี้มากขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงแบรนด์สตาร์ทอัพต่างๆ ที่มีมากขึ้น 

 

Cake แบรนด์จากสวีเดน นำรถมอเตอร์ไซค์ออฟโรดไฟฟ้ารุ่น Kalk ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่ามอเตอร์ครอสถึงครึ่งหนึ่งมาจัดแสดง โดยมีคอนเซปต์ที่ว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของพวกเขานั้นขับง่าย เปรียบเหมือนสำนวน A piece of cake

 

ขณะที่เครื่องยนต์สันดาปจะออกไปทางไลฟ์สไตล์และแอดเวนเจอร์มากขึ้น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในแต่ละรูปแบบ นอกจากนี้มอเตอร์ไซค์จากทุกค่ายนำเอาระบบดิจิทัลเข้ามาเป็นมาตรฐานที่มาคู่กับมอเตอร์ไซค์ทั้งหน้าจอและระบบนำทางต่างๆ 

 

ส่วนทางฮอนด้าเองนั้นได้มีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง แต่ในปีนี้ยังไม่มีอะไรใหม่สำหรับมอเตอร์ไซค์ ซึ่งทางฮอนด้าเชื่อว่าสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แม้ว่าจะเป็นอนาคตของมอเตอร์​ไซค์อย่างแน่นอน แต่เป็นสิ่งที่ยังต้องใช้เวลานาน เนื่องจากความคิดของผู้ใช้ยังคงต้องการความสนุกในการขับขี่และเสน่ห์ของเสียงเครื่องยนต์ 

 

 

CBR 1000RR-R มอเตอร์ไซค์ที่เปิดตัวภายในงาน EICMA 2019
CBR 1000RR-R คือซูเปอร์สปอร์ตไบค์รุ่นล่าสุดจากฮอนด้าที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกในงาน EICMA 2019 โดยนับเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยตลอดช่วงเราลงพื้นที่ภายในงาน ไม่ว่าจะเดินกลับมากี่ครั้งก็จะมีคนยืนรายล้อมซูเปอร์ไบค์คันนี้ที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกภายในงาน

 

โดยในโอกาสเปิดตัวของ CBR 1000RR-R นี้ ทาง THE STANDARD พร้อมกับสื่อมวลชนไทยที่เข้าร่วมงานได้มีโอกาสพูดคุยกับ ยูซูรุ อิชิกาว่า หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนา (Large Project Leader) ผู้ดูแลโปรเจกต์ All New CBR 1000RR-R พระเอกของงาน EICMA ในปีนี้อีกด้วย 

 

 

ซึ่งคำถามแรกที่หลายคนสงสัยคือจากปกติซูเปอร์ไบค์ที่เป็นเรือธงของค่ายปีกนกจะมีตัว R เพียง 2 ตัว แต่การเพิ่มตัว R ที่ 3 นี้ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงความหมาย

 

โดยทางอิชิกาว่าเผยว่า R ตัวที่ 3 เป็นการยกระดับของ CBR 1000 ซึ่งก่อนหน้านี้มีเอกลักษณ์คือเป็นการตอบสนองที่ครอบคลุมการขับขี่บนถนนและสนาม แต่การเพิ่มตัว R ที่ 3 คือการยกระดับพัฒนาไปสู่คอนเซปต์ที่เกิดมาเพื่อการแข่งขันหรือ Born to Race ที่เน้นสำหรับการแข่งเป็นหลัก ซึ่งความหมายของตัว R ที่ 3 นั่นก็คือ Racing Version นั่นเอง 

 

หลังจากที่ได้ลงพื้นที่สำรวจงาน EICMA ตลอดช่วงเวลาที่เราได้พูดคุยกับแบรนด์และผู้เชี่ยวชาญ ต่างก็ให้การยอมรับว่าอนาคตของมอเตอร์ไซค์คงต้องเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้า แต่การจะก้าวไปถึงจุดนั้นอาจต้องใช้เวลานาน เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันถือว่าเป็นมากกว่าพาหนะสำหรับการเดินทาง แต่มันคือการบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล 

 

ซึ่งภาพสะท้อนที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากงาน EICMA คือแบรนด์หันมาให้ความสนใจและให้ความสำคัญมากขึ้นจริง พร้อมแบรนด์สตาร์ทอัพที่เกิดขึ้นใหม่อย่างน่าสนใจ 

 

 

แต่สำหรับในปีนี้ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังคงเป็นเพียงอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักเดินทางที่เลือกใช้ยานพาหนะสองล้อ ซึ่งจากที่เราเดินสำรวจในเมืองมิลานก็ได้ค้นพบร้าน Deus Cycleworks Cafe ที่เป็นการผสมระหว่าง Deus Ex Machina แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์มอเตอร์ไซค์ชื่อดังจากออสเตรเลีย กับ Bianchi แบรนด์จักรยานชื่อดังของอิตาลีที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1885 

 

 

ภายในร้านเป็นทั้งคาเฟ่และร้านจักรยานภายในตึกเดียวกัน ซึ่งทั้งสองแบรนด์เหมือนกับแบรนด์มอเตอร์ไซค์ต่างๆ ที่นำเสนอความเป็นไลฟ์สไตล์ของการขับขี่บนพาหนะสองล้อ ภายในชั้นใต้ดินเราได้พบกับพาหนะทั้ง 3 รูปแบบที่บ่งบอกถึงทางเลือกของการขับขี่ในปัจจุบัน ทั้งจักรยานซึ่งเป็นตัวแทนของ Bianchi มอเตอร์ไซค์ที่เป็นตัวแทนของ Deus และมอเตอร์ไซค์ EV ซึ่งเป็นตัวแทนของทางเลือกใหม่ที่หลายคนเชื่อว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising