×

25 ปี DSM: การจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า ผลลัพธ์​ที่คุ้มค่า กับโครงการที่คุ้นเคย [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
14.09.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • การใช้พลังงานไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามเศรษฐกิจที่ขยายตัว โดย กฟผ. คาดว่าปีนี้จะมีความต้องการใช้ทั้งปี 193,771 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้น 2.55% จากปีก่อน
  • โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รวมทั้งอาคารประหยัดพลังงานและอุปนิสัยประหยัดไฟฟ้า เป็นพลังหลักผลักดันให้คนไทยลดการใช้ไฟฟ้า เพื่ออนาคตพลังงานชาติที่ยั่งยืน  

ทุกวันนี้คุณจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละเท่าไร

 

แนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีไหนที่เศรษฐกิจขยายตัวมากๆ ความต้องการใช้ไฟฟ้าก็จะมากตามไปด้วย ซึ่งในปีนี้ การไฟฟ้าการผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณการว่า ตลอดทั้งปีประเทศไทยจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้า 193,771 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 2.55% จากปีที่ผ่านมา ที่มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าสุทธิของระบบอยู่ที่ 188,934.97 ล้านหน่วย

 

ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน เปิดเผยตัวเลข 6 เดือนแรก พบว่า การใช้ไฟฟ้าโดยรวมของไทยรวมอยู่ที่ 109,364 ล้านหน่วยแล้ว เพิ่มขึ้น 2.4% ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและการส่งออก โดยเมื่อแบ่งการใช้ไฟฟ้าของภาคธุรกิจและครัวเรือน จะพบว่าภาคธุรกิจใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2.2% ตามการขยายตัวของการบริโภคจากภาคเอกชนและการท่องเที่ยว ส่วนภาคครัวเรือนใช้ไฟ้ฟ้าลดลง 0.3% จากสภาพอากาศที่ไม่ร้อนจัด ทำให้มีการใช้ไฟฟ้าในเครื่องปรับอากาศลดลง (ข้อมูลล่าสุด 6 เดือนแรก ภาคครัวเรือนใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 0.2%)

 

สอดคล้องกับที่ กฟผ. รณรงค์ให้คนใส่ใจกับการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้การขยับขึ้นของความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเกิดขึ้นสมเหตุสมผล แทนที่จะเพิ่มจากการใช้ไฟฟ้าที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

 

 

ใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่า ทำไมต้องเบอร์ 5

ตลอดระยะเวลา 25 ปี ที่ กฟผ. ดำเนินงานการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า (Demand Side Management: DSM) โดยส่งเสริมด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ด้วยมาตรการและแนวทางต่างๆ เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ลดการนำเข้าเชื้อเพลิง รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ภายใต้กลยุทธ์ 3 อ. ได้แก่ อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า อาคารประหยัดไฟฟ้า อุปนิสัยประหยัดไฟฟ้า

 

การรณรงค์ให้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการด้านการใช้ไฟฟ้าของ กฟผ. ที่ทำมาตั้งแต่ปี 2536 เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น และตอบสนองนโยบายของภาครัฐ

         

นับจากปี 2536 ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ได้รับกระแสตอบรับจากสังคมที่ดีมากมาโดยตลอด ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นโครงการ DSM คือการผลักดันคนไทยหันมาใช้หลอดผอมแทนหลอดอ้วน จากนั้นในปี 2537 ก็มีตู้เย็นเบอร์ 5 ออกมา ตามด้วยปี 2538 มีเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 อีกมากมาย

 

 

เมื่อนับรวมสถิติตั้งแต่เริ่มโครงการ จนถึงปี 2561 พบว่า มีผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แล้วทั้งหมด 30 ผลิตภัณฑ์ โดยมีการจ่ายฉลากไปแล้วประมาณ 353 ล้านดวง สามารถประหยัดพลังงานให้ประเทศไปได้ 4,624.5 เมกะวัตต์ และช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อนด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 15.6 ล้านตัน!

 

ต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ สู่ โรงงาน อาคาร และที่อยู่อาศัย

นอกเหนือจากฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่อยู่บนผลิตภัณฑ์นานาชนิด ยังมีอีก 2 โครงการที่มีส่วนสำคัญต่อการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ อาคารประหยัดพลังงาน และการสร้างอุปนิสัยประหยัดไฟฟ้า

 

ในส่วนของโครงการอาคารประหยัดพลังงานนั้น ครอบคลุมทั้งอาคารสำนักงาน โรงงาน รวมถึงภาคที่อยู่อาศัย โดย กฟผ. สนับสนุน ให้คำปรึกษา ตรวจวัดพลังงาน และวางมาตรการลดการใช้ไฟฟ้า โดยเน้นให้กลุ่มนี้บริหารการใช้ไฟฟ้า ปรับปรุงระบบป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร ใช้ระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง และปรับปรุงระบบแสงสว่าง ผ่านการไปจัดอบรมให้ความรู้ด้านการใช้พลังงานอย่างถูกต้อง    

 

 

ตัวอย่างโครงการที่เพิ่งทำไปไม่นานมานี้คือ การร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ พัฒนาการออกแบบและก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง หรือที่เรียกว่า บ้านเบอร์ 5’ โดยจะประเมินค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในบ้านกับโครงการนำร่องของการเคหะแห่งชาติ พร้อมให้ข้อเสนอแนะการปรับเปลี่ยนวัสดุและการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบ้านในโครงการของการเคหะฯ ให้ดีขึ้น จนผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพที่ กฟผ. กำหนด สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง

 

คาดว่าโครงการนี้จะทำให้การใช้ไฟฟ้าในบ้านลดลงกว่า 0.9 ล้านหน่วย คิดเป็นค่าไฟฟ้าที่ลดลงของผู้อยู่อาศัยกว่า 3.6 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 489 ตัน

 

ปลูกฝังนิสัยประหยัดไฟฟ้าจากเยาวชนสู่ชุมชน

การสร้างอุปนิสัยประหยัดไฟฟ้า เน้นจัดกิจกรรมลดการใช้พลังงานไฟฟ้าผ่านกระบวนการเรียนในโรงเรียน โดยถ่ายทอดความรู้และปลูกฝังอุปนิสัยที่ดีให้เยาวชนใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการชื่อว่า ห้องเรียนสีเขียวโดย กฟผ. ได้จัดทำขึ้นในโรงเรียน 465 แห่งทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าต่อยอดจนเกิดเป็นกิจกรรมลดการใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม และขยายผลไปสู่บ้านของนักเรียนและในชุมชนด้วย

 

 

กิจกรรมตัวอย่างที่ กฟผ. ต่อยอด ได้แก่ ชุมชนประหยัดพลังงาน เป็นการจัดกิจกรรมชุมชนประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ที่ชุมชนบ้านคลองยาง จ.กระบี่ โดยมี 47 ครัวเรือนเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมวางแผนลดการใช้พลังงาน จัดเป็นชุมชนต้นแบบประหยัดพลังงานแห่งแรกของภาคใต้ที่เข้าร่วม ซึ่ง กฟผ. ประเมินว่า หากชุมชนดำเนินการภายใต้กิจกรรมได้ตามเป้าหมาย จะประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้ปีละ 16,920 หน่วย หรือคิดเป็นมูลค่า 67,700 บาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 9.8 ตัน

 

อีกตัวอย่างที่น่าสนใจคือ การร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.ขอนแก่น เขต 3 ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ผ่านเยาวชนสู่ประชาชนในท้องถิ่น

เหล่านี้เป็นตัวอย่างเล็กๆ ที่สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะเป็นเพียงการร่วมมือร่วมใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ ของคนไทย ทั้งในด้านการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 การรวมพลังของภาคธุรกิจ โรงงานต่างๆ ตลอดจนที่อยู่อาศัย ในการเป็นอาคารประหยัดพลังงาน และการสร้างเสริมอุปนิสัยประหยัดไฟฟ้าให้กับคน ก็ล้วนสร้างพลังการประหยัดไฟฟ้าให้กับประเทศได้มาก ซึ่งก็คงต้องเดินหน้าต่อไป

 

ในเมื่อเศรษฐกิจยังเติบโตไม่มีที่สิ้นสุด การจัดการด้านการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพก็สิ้นสุดไม่ได้เช่นกัน

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

FYI
  • ล่าสุด กฟผ. ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 อีกหนึ่งอย่างคือ เสื้อผ้าเบอร์ 5 ที่ผลิตจากผ้าที่ซักแล้วยังเรียบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยมีสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและผู้ประกอบการเข้าร่วม โดยตั้งเป้าหมายให้ประชาชนหันมาใส่เสื้อผ้าเบอร์ 5 รวม 1.7 ล้านตัว เพื่อช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 7 ล้านหน่วยต่อปี หรือ 28 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 3,600 ตันต่อปี
  • โครงการที่เป็นส่วนหนึ่งของ บ้านเบอร์ 5’ ได้แก่ บ้านการเคหะฯ รังสิต ระยอง และศรีสะเกษ ที่คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในปีนี้
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising