ทุกครั้งที่เล่นคอนเสิร์ตจบ เผชิญกับคลื่นมนุษย์นับหมื่น ปะทะกับแสงแฟลชและเสียงกรี๊ด ตูน บอดี้สแลม มักจะนั่งนิ่งๆ บนพื้นในห้องเก็บตัว บ้างก็กินข้าวเหนียวหมูปิ้ง บ้างก็ซึมเหงาหงอย
หลายครั้ง หัวใจของเขาว่างเปล่าเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป
นี่คือคำบอกเล่าจาก กบ บิ๊กแอส (ขจรเดช พรมรักษา) คนใกล้ชิดตูน บอดี้สแลม ในหนังสารคดี ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกข้างในลึกๆ ของร็อกสตาร์อันดับ 1 เมืองไทยในช่วงเวลาหนึ่ง
เดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลาน ท้อแท้กี่ทียังมีหวัง พลาดพลั้งกี่ครั้งยังฝันไกล แม้ล้มก็ยังไม่ตาย ยังคงหายใจ จนก้าวขึ้นมาเป็นคนไทยที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่ง
ฝ่าฟันจนมาถึงจุดสูงสุด แต่ทำไมข้างในหัวใจยังว่างเปล่า
ตูน บอดี้สแลมไม่ใช่คนแรกที่พิชิตยอดเขาแล้วหัวใจยังว่างเปล่า นักฟิสิกส์อันดับ 1 ของโลกอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็เคยเป็น อดีตเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกอย่าง บิล เกตส์ ก็เคยเป็น นักดำน้ำในถ้ำอันดับต้นของโลกอย่าง จอห์น โวลันเธน ก็เคยเป็น
ทางออกของคนเก่งเหล่านี้ล้วนเหมือนกันคือหาเป้าหมายใหม่ แต่เป็นเป้าหมายที่ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียวอีกต่อไป
แม้ว่าตูน บอดี้สแลมจะออกวิ่งเพื่ออยากเอาชนะตัวเองในระยะแรก แต่เมื่อมีโอกาสที่เขาสามารถทำอะไรเพื่อคนอื่นได้ เมื่อนั้นเองหัวใจของเขาก็เริ่มมีเลือดสูบฉีดมากขึ้น
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งขาแหลกละเอียดเพราะถูกรถสิบล้อทับ ความหวังพังทลาย น้ำตาหลั่งรินท่วมวีลแชร์ แต่แล้วเงินที่ทุกคนช่วยกันบริจาคในโครงการก้าวของเขา ก็ทำให้มีเครื่องมือแพทย์ที่ช่วยชุบชีวิตขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาได้
รอยยิ้มของเธอตอนออกมาต้อนรับระหว่างตูนวิ่งกลับมาเจออีกครั้งในการวิ่งครั้งใหม่ ทำให้เขายิ้มปลาบปลื้ม หัวใจพองโต เขาโผเข้าไปกอดเด็กผู้หญิงคนนั้นก่อนอย่างไม่ถือตัว
“มันดีมากเลยที่รู้ว่าสิ่งที่เราทำมีประโยชน์ต่อคนอื่น แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี” เขากล่าวด้วยความซาบซึ้ง
ตูนเคยให้สัมภาษณ์ว่า แม้เขาจะมีความสุขที่เพลงของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนๆ ได้ แต่การวิ่งมันเกิดประโยชน์ที่ชัดเจนและมีคุณค่าในวงกว้างอย่างที่เขาเองก็คาดไม่ถึง
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาด เมื่อเราคิดและตั้งเป้าทำสิ่งใดจนเกิดเป็นแพสชัน เรามักจะมีพลังมหาศาล แต่ที่น่าอัศจรรย์มากกว่านั้น เมื่อเราตั้งเป้าทำสิ่งใดที่ใหญ่กว่าแค่ตัวเอง คือทำเพื่อคนอื่นด้วย พลังอันมหาศาลนั้นจะไม่มีวันสิ้นสุดและไม่มีวันหมดลง
พลังความรักของแม่ คือตัวอย่างที่ดีของการทำเพื่อคนอื่น
พลังในการวิ่ง 2,215 กิโลเมตร ขาแทบแหลกสลาย ข้อเท้าจะแตกระเบิด ร่างกายจะพังพินาศ แต่ก็ต้องเซลฟีกับคนข้างทาง ต้องโบกมือให้เด็ก กอดคนชรา ยิ้มให้คนพิการ มันมาจากความคิดเพียงอย่างเดียวของตูน “เขามาแล้ว เขามารอเรา เขาเอาเงินมาบริจาค เราวิ่งหนีไม่ได้ ถ้าเราทำไม่ได้ก็อย่าออกมา”
เมื่อใดก็ตามที่คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเรา เราก็จะรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง และเมื่อนั้นเอง หัวใจที่ว่างเปล่าก็จะเต็มตื้น เต้นเร้าด้วยความสุข
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ใช้ชีวิตที่ผิดหวังหลังสมการบันลือโลกของเขากลายเป็นมัจจุราชคร่าคน ด้วยการอุทิศตนทำเพื่อสังคม
บิล เกตส์ เปลี่ยนคำวิจารณ์จากเศรษฐีผู้ละโมบเป็นผู้ให้ทุนในมูลนิธิเพื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดของโลก
จอห์น โวลันเธน ตั้งคำถามกับการดำน้ำมาทั้งชีวิตจนมารู้คำตอบตอนที่ได้ช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีในถ้ำหลวง
เราอาจจะหลงลืมไปว่า เราทุกคนไม่ได้สร้างคุณค่าให้ตัวเองได้อย่างเดียว แต่เรายังสร้างคุณค่าให้กับคนอื่นได้ด้วย
ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งยิ่งใหญ่ เสียสละ อุทิศตน หรือแร้นแค้นยากจน ขอแค่สิ่งเล็กๆ ที่คุณกำลังทำมันมีคุณค่ากับใครสักคนก็พอ
เปิดร้านอาหารเพื่อให้คนกินมีความสุขก็คือคุณค่า พิสูจน์อักษรเพื่อให้หนังสือนั้นสมบูรณ์แบบก็คือคุณค่า กวาดถนนเพื่อให้เมืองน่ามองก็คือคุณค่า ขายเครื่องสำอางให้ผู้หญิงมั่นใจก็คือคุณค่า ขายเสื้อผ้าให้คนบุคลิกดีขึ้นก็คือคุณค่า ทำบัญชีเพื่อให้การเงินบริษัทคล่องตัวก็คือคุณค่า
สิ่งที่ทำอาจเหมือนกัน ขายไข่เจียวฟองเดียวกัน ก่ออิฐก้อนเดียวกัน เขียนหนังสือตัวเดียวกัน แต่หากวิธีคิดไม่เหมือนเดิม คิดให้ใหญ่ขึ้น มองให้เห็นถึง core value ที่ได้สร้างคุณค่าบางอย่างให้กับสังคม เมื่อนั้นคุณจะมีพลังในการลุกขึ้นมาทำงานทุกเช้า และสิ่งที่คุณทำมันจะพัฒนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่มีงานไหนที่ไม่มีคุณค่า คุณแค่ต้องหามันให้เจอ
หากอนาคตสามารถบอกอะไรกับคนที่เพิ่งวิ่งเข้าเส้นชัยได้จะบอกอะไรกับเขา ตูน บอดี้สแลม ยิ้มและตอบสั้นๆ แค่ว่า “ก็ดีนะที่ได้ทำ”
ทำสิ่งที่มีคุณค่าให้คนอื่น หัวใจของคุณจะไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
- 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว เปิดให้ชมฟรี 6-16 กันยายนนี้ ที่โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศไทย ติดตามช่องทางการบริจาคได้ที่เพจ ก้าว