ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ส่งสัญญาณว่าจะไม่รีบร้อนตัดสินใจลดดอกเบี้ย หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาส่งสัญญาณหลังการประชุมเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่ากำลังพิจารณาเรื่องของการลดดอกเบี้ยในปีหน้า
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 ธันวาคม) Jerome Powell ประธาน Fed ส่งสัญญาณภายหลังการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ว่า Fed ได้ปรับจุดโฟกัสไปสู่ประเด็นความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของ ECB และ BOE เชื่อว่าเพียงแค่เงินเฟ้อที่เริ่มผ่อนคลายลงยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงในตอนนี้ได้
โดยเฉพาะ BOE ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวต่อไป ไม่เพียงแค่คงดอกเบี้ยเท่านั้น แต่คณะกรรมการ 3 จาก 9 คนที่ตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ถึงขั้นลงมติให้ขึ้นดอกเบี้ยต่อจากการประชุมล่าสุด ขณะที่ธนาคารกลางของนอร์เวย์ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 0.25% สู่ระดับ 4.5%
Carsten Brzeski หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจมหภาคของ ING กล่าวว่า “ECB ยังขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่า Fed ในช่วงที่ผ่านมา เราจะเห็น Fed เริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับยุโรป”
ปัจจุบันนักลงทุนในตลาดต่างคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้สูงกว่ามากที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับโอกาสที่ ECB จะลดดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่ามีโอกาสที่จะเห็น ECB เริ่มต้นลดดอกเบี้ยในเดือนเมษายนของปีหน้า โดยมีการประเมินว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะลดดอกเบี้ยรวม 1.5% ในปีหน้า
ข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า Christine Lagarde ประธาน ECB ยืนยันว่าคณะกรรมการยังไม่ได้มีการหารือเรื่องของการลดดอกเบี้ยแต่อย่างใด
ขณะนี้ ECB กำลังจับตาดูความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจและการเจรจาเพื่อปรับค่าแรง ก่อนที่จะกลับมาวิเคราะห์ถึงความอันตรายของเงินเฟ้ออีกครั้ง
Brzeski กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกลางต้องการมั่นใจว่าจะเห็นเงินเฟ้อลดลงมาเหลือ 2% ซึ่งอาจหมายความว่าพวกเขาจะช้าเกินไปสำหรับการเริ่มต้นลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างมากจากการที่พวกเขาตัดสินใจช้าไปในวงจรการขึ้นและลงของเงินเฟ้อ ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป และปัจจุบันกำลังจะลดดอกเบี้ยช้าเกินไป
อ้างอิง: