×

สรรพสามิตต่อยอดยุทธศาสตร์ ‘EASE Excise’ ดึงนวัตกรรมเข้ามาเสริมกำลังด้าน ESG ทั้งระบบ

09.05.2023
  • LOADING...
EASE Excise

กรมสรรพสามิตเดินหน้ายุทธศาสตร์ EASE Excise เน้น ESG ทั้งระบบ ยกระดับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้เสียภาษี สู่นโยบายในการจัดการของกลางที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ นำนวัตกรรมเข้าจัดการใช้ทุกส่วนของบุหรี่ ทั้งใบยา ก้นกรอง ซองกระดาษ และพลาสติก ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวคิด ‘Zero Waste’ ทั้งยังลดปัญหาผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษ โดยล่าสุดมอบของกลางยาสูบจำนวน 3.4 ตัน และนวัตกรรมองค์ความรู้ให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ จังหวัดนครนายก นำไปแปรรูปสู่น้ำหมักชีวภาพไล่แมลงศัตรูพืช ส่งต่อให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์

 

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามที่กรมสรรพสามิตได้เปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงานตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับเดินหน้าปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้เสียภาษี ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ค้าขายอย่างสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงยังเป็นการดูแลผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยและได้สินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566) กรมสรรพสามิตจับกุมคดีสินค้ายาสูบจากทั่วประเทศได้จำนวนมากถึง 4,809 คดี จำนวน 638,519 ซอง เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 130,000,000 บาท ส่งผลให้มีปริมาณของกลางยาสูบเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากคดีสิ้นสุดแล้ว จะต้องมีการดำเนินการทำลายของกลางให้ไม่สามารถนำกลับมาบริโภคได้อีก 

 

อย่างไรก็ดี ในการทำลายยาสูบของกลางนั้น ต้องคำนึงวิธีการที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ไม่เพียงแค่ควันบุหรี่ที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ แต่ส่วนอื่นๆ ของบุหรี่ยังส่งผลกระทบด้วยเช่นกัน 

 

จากที่กล่าวมาข้างต้น ด้วยยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิต EASE Excise ที่มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) กรมสรรพสามิตจึงมีแนวคิดที่จะนำของกลางยาสูบมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมองในมิติต่างๆ ดังนี้

 

  1. มิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ในการลดมลภาวะ จากเดิมในการจัดการของกลางยาสูบด้วยวิธีการเผาทำลาย  ซึ่งในบุหรี่ 1 มวนประกอบด้วย ใบยาสูบ กระดาษที่ใช้มวน และสารเคมีหลายร้อยชนิด เมื่อเกิดการเผาไหม้จะทำให้เกิดสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และปัญหาการเผาทำลาย นำมาซึ่งการเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนอีกด้วย 

 

จึงได้มีการนำนวัตกรรมการจัดการของกลางยาสูบมาใช้ ด้วยการสร้าง ‘เครื่องทำลายของกลางยาสูบต้นทุนต่ำ’ หนึ่งในตัวอย่างจากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว ซึ่งได้นำมาสาธิตให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ จังหวัดนครนายก โดยนำเลื่อยวงเดือนมาติดตั้งบนโต๊ะเพื่อตัดทำลายพร้อมคัดแยกก้นกรองและยาสูบออกจากกัน มีการติดตั้งเครื่องดูดและถังกักเก็บฝุ่นละอองเพื่อลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถตัดทำลายของกลางยาสูบทั้งแบบซองแข็งและซองอ่อนได้ทั้ง Carton อย่างต่อเนื่อง 

 

โดยใช้แรงงานควบคุมเพียง 1 คน และใช้เวลาในการตัดทำลายเพียง 3 วินาทีต่อ 1 Carton มีประสิทธิภาพกว่าเดิมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก ตัดทำลายได้คราวละ 1 ซอง ใช้เวลาในการตัดทำลาย 10 นาทีต่อ 1 Carton เพื่อบรรเทาปัญหาและอุปสรรคในการจัดการของกลางยาสูบ (การทำลายให้สิ้นสภาพ) และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของกระบวนการจัดการของกลางยาสูบให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดผ่านแนวคิด Zero Waste ในการนำทุกส่วนประกอบของยาสูบไปใช้ประโยชน์ดังนี้  

  • ยาสูบ นำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตยากำจัดศัตรูพืช (ชีวภาพ) 
  • ก้นกรอง สามารถใช้ทดแทนมะพร้าวสำหรับปลูกไม้ดอกไม้ประดับ สร้างพื้นที่สีเขียว 
  • บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระดาษ นำเข้าสู่กระบวนการ Recycle 
  • ซองและพลาสติก สู่กระบวนการคัดแยกขยะเพื่อนำไปกำจัดให้ถูกวิธีต่อไป

 

  1. มิติด้านสังคม (Social) การส่งมอบของกลางยาสูบให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไล่ศัตรูพืช ส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัยแก่บุคลากรในโรงเรียนและประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากการเรียนรู้ และสามารถจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรในราคาถูกแก่ชุมชนอีกด้วย 

 

  1. มิติด้านธรรมาภิบาล (Governance) การบริหารจัดการสินค้ายาสูบของกลางซึ่งมีจำนวนมากให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังเป็นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน รวมถึงยังเป็นการสร้างความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักธรรมาภิบาล

 

“การนำบุหรี่ของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้วมาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ในการไล่ศัตรูพืชนี้ เป็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในการแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทดแทนการใช้สารเคมี (B: Bio) ถือเป็นการนำของเหลือใช้มาหมุนเวียนสร้างคุณค่า (Circular) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เกิดการพัฒนาภาคเกษตรสู่การเติบโตสีเขียว (Green) ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนในการทำเกษตรให้กับเกษตรกร เป็นการต่อยอดนวัตกรรมและองค์ความรู้การทำลายยาสูบของกลาง ให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของกรม EASE Excise ที่กรมมุ่งเน้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งเห็นเป็นรูปธรรมในการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของกรม ซึ่งเป็นทั้งภารกิจหลักของกรม และยังเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน โดยทางสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว มีการสาธิตนวัตกรรมเครื่องตัดทำลายของกลางยาสูบ และมอบองค์ความรู้แลกเปลี่ยนสูตรการทำน้ำหมักเพื่อใช้ในการไล่ศัตรูพืชกับทางโรงเรียนทหารการสัตว์ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนทั้งในด้านองค์ความรู้ในภาคการเกษตร การนำมาแปรรูปเพื่อเป็นยาไล่แมลงศัตรูพืช เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงสู่เศรษฐกิจพอเพียง และสร้างประโยชน์ต่อชุมชนและพี่น้องประชาชนต่อไป” ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว


บทความที่เกี่ยวข้อง


 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising