เป็นเวลา 1 ปีกว่าๆ แล้วที่ The Pizza Company เปิดขายเมนู ‘นิวยอร์กพิซซ่า XXXL 18 นิ้ว’ จากที่เคยคิดว่าจะเป็นเพียง Seasonal Menu ที่วางขายไม่เกิน 3 เดือนหลังจากเปิดตัวในเดือนกันยายน 2563 แต่ที่สุดแล้วด้วยยอดขายที่ดีเกินคาดทำให้เมนูดังกล่าวถูกบรรจุเป็นเมนูประจำในที่สุด
“สิ่งที่เราพบคือ คนไทยมองหาพิซซ่าที่รูปแบบใหม่ๆ และหลากหลายมากขึ้น ตอนแรกคาดการณ์ว่าจะออกแค่ 3 เดือนให้เป็นสีสัน แต่ปรากฏว่าคนไทยชอบแป้งแบบนิวยอร์กมาก ซึ่งที่ผ่านมาเราขายแป้งแบบหนานุ่มเยอะมาก เป็นสไตล์ที่คนไทยชอบ เราเลยมองว่าอันนี้แหละจะขายได้ตลอดไป แต่ปรากฏว่าไปเจอลูกค้ากลุ่มใหญ่อีกกลุ่มที่ชอบนิวยอร์กพิซซ่ามาก เลยทำให้อยู่นานมาจนถึงทุกวันนี้” กิตติเชษฐ์ สถิตย์นพชัย ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH
ช่วงต้นปี 2564 The Pizza Company ทดลองกระแสของนิวยอร์กพิซซ่าอีกครั้ง ด้วยการตั้ง ‘ไอซ์ พาริส’ ให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนิวยอร์กพิซซ่า โดยนี่ถือเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนที่ 2 ของ The Pizza Company และเป็นการกลับมาใช้ในรอบ 10 ปีด้วยกัน พร้อมกันนี้ยังได้มีการปรับราคาให้เข้าถึงได้ จาก 569 บาทในช่วงเปิดตัว ให้เหลือ 399 บาทด้วย
ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งมีโปรโมชัน 1 แถม 1 ปราฏว่า “นิวยอร์กพิซซ่าขายดีมากแม้จะมีขนาดที่ใหญ่ นั่นแปลว่ามีลูกค้าอีกกลุ่มที่รักแป้งแบบนี้ ตอนนี้เราเลยคิดว่าเป็นหนึ่งในเมนูประจำแล้ว นอกจากหนานุ่ม บางกรอบ ขอบชีส ก็จะมีนิวยอร์กพิซซ่าเป็นตัวที่ 4”
ด้วยความที่ The Pizza Company ต้องการทำให้ ‘นิวยอร์กพิซซ่า XXXL 18 นิ้ว’ เป็นเมนูที่ขายประจำ ดังนั้นการสร้าง Awareness หรือการรับรู้ จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการตั้ง ‘เอิร์ท-พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ’ และ ‘มิกซ์-สหภาพ วงศ์ราษฎร์’ ศิลปินจากละครซีรีส์ชื่อดัง นิทานพันดาว ให้มานั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในแคมเปญ New York in Christmas Time ที่ออกในช่วงปลายปีนี้
แม่ทัพการตลาดของ The Pizza Company อธิบายว่า ตอนที่ดึง ไอซ์ พาริส มาในครั้งนั้นต้องการสร้างการรับรู้ เพราะช่วงที่ออกใหม่ๆ นิวยอร์กพิซซ่าเป็นสินค้าวางเป้าหมายที่อยากดึงคนมากินที่ร้าน ขณะเดียวกันขายไปสักพักปรากฏว่ามีลูกค้าเรียกร้องให้ทำเป็นเดลิเวอรี จึงได้เพิ่มช่องทางนี้ ทำให้ทั้ง 2 ปัจจัยเป็นส่วนกระตุ้นให้ยอดขายของนิวยอร์กพิซซ่าดีเกิดคาด
สำหรับการดึง ‘เอิร์ท-มิกซ์’ มานั้น โจทย์ยังเป็น “สร้างการรับรู้เหมือนกัน เพราะนี่เป็นสิ่งที่ต้องสร้างต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่ง แต่กลุ่มเป้าหมายได้ถูกขยายออกไปที่กว้างขึ้น ในขณะที่ไอซ์ พาริสได้ลูกค้าวัยรุ่นที่อยู่ในหัวเมืองจากฐานแฟนเพลง แต่เอิร์ท-มิกซ์ นอกจากจะได้วัยรุ่นแล้ว ยังได้วัยทำงานที่มาจากฐานซีรีส์อีกด้วย โดยเหตุผลที่ต้องมาคู่กัน เพราะต้องการให้แคมเปญสื่อถึงความอบอุ่นของการมารวมตัวกัน ปาร์ตี้กันในช่วงคริสต์มาส”
ภายใต้แคมเปญดังกลาวยังมีการออกนิวยอร์กพิซซ่า 4 หน้าใหม่ ประกอบด้วยสโนว์แมนอินทาวน์, ซานต้ากิฟต์, คริสต์มาส ออน เดอะบีช และเมอร์รี่ชิกเก้น ราคา 399-599 บาท ขณะเดียวกันยังได้มีการออกเมนูไส้กรอกรวม พรีเมี่ยม, สเต็กแฮมโลฟ, เดอร์ตี้ฟรายส์เบคอน, สโนวี่บัฟฟาโลวิงส์ ตลอดจนของหวาน ซานต้า อิน พิงค์อีกด้วย
“ก่อนหน้านี้คิดว่าคนไทยกินแฮม ไส้กรอก เบคอน ซึ่งเป็นเมนูที่เป็นแมส แต่หลังจากที่ออกหน้าที่เป็นหน้าพิเศษขึ้นมา เช่น คาโบนารา พาม่าแฮม ปรากฏว่าคนไทยตอบรับดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ออกหน้าใหม่ๆ กับแคมเปญที่เปิดตัวปลายปี”
นอกจากเมนูแล้ว สิ่งที่แตกต่างไปจากทุกปีคือการที่ The Pizza Company ดีไซเนอร์แบรนด์ PAINKILLER เปิดตัวคอลเล็กชันเสื้อลิมิเต็ดเอดิชันสุดพิเศษ ที่หยิบเอาความพิเศษของเทศกาลคริสต์มาสมาสร้างสรรค์บนเสื้อผ้าสไตล์สตรีทแวร์ ทั้งเสื้อสเวตเตอร์ทั้งหมด 3 แบบ ในราคาเพียง 999 บาท โดยจะจัดจำหน่ายที่ร้าน The Pizza Company ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
“The Pizza Company คาดว่าการจัดแคมเปญครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการรับประทานในร้านเพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และคาดว่าจะสร้างการเติบโตให้ The Pizza Companyให้เติบโตเพิ่มมากขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 15%” กิตติเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
