×

DSI แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง 18 บอสดิไอคอนกรุ๊ป ด้านทนายไม่กังวล-เชื่อข้อหาไม่เข้าองค์ประกอบ

โดย THE STANDARD TEAM
11.11.2024
  • LOADING...
DSI ดิไอคอน

วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทยอยเดินทางเข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตั้งแต่เวลา 08.30 น. เพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ 18 ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และ 1 นิติบุคคล

 

ร.ต.อ. วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่) และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งสำนวนข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จนกระทั่ง DSI รับเป็นคดีพิเศษ อีกทั้งสอบปากคำสำนักงานเศรษฐกิจการคลังและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับพฤติกรรมในการดำเนินกิจการของดิไอคอนกรุ๊ป จนพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและนำมาสู่การที่ DSI มีมติแจ้งข้อกล่าวหาบอสทั้ง 18 รายและนิติบุคคลเพิ่มเติม ในส่วนความผิดฐานแชร์ลูกโซ่และความผิด พ.ร.บ.ขายตรง

 

ร.ต.อ. วิษณุ ระบุอีกว่า การเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ประสานกับ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง ในการจัดสรรผู้ต้องหาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะต้องมีทีมทนายร่วมสืบสวนสอบสวนที่ DSI ประสานไว้แล้วเช่นกัน

 

ร.ต.อ. วิษณุ ยืนยันว่า การจะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่มีองค์ประกอบความผิดตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและ สคบ. ให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน เช่น การประกอบกิจการเป็นลักษณะผิดกฎหมาย คือไม่สามารถนำเงินมาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนหรือนำเงินมาหมุนเวียนจ่ายจริงหรือไม่ โดยมีการสอบสวนไปถึงแผนประทุษกรรม, งบการเงิน, การวิเคราะห์เส้นเงิน และข้อมูลคอมพิวเตอร์หลังบ้าน จนเห็นภาพรวมของคดี ซึ่งเป็นการรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดผู้ต้องหา ส่วนฝั่งผู้ต้องหาต่อสู้โดยระบุว่า มีสินค้าอยู่ก็เป็นสิทธิผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งหากทนายฝ่ายนั้นมีข้อเท็จจริงตรงไหนที่มีประโยชน์ DSI ก็พร้อมรับฟัง

 

เมื่อถามว่า ประเด็นการสอบสวนบอสดาราและบอสคนอื่นๆ จะแตกต่างกันหรือไม่ เพราะว่าลักษณะพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ร.ต.อ. วิษณุ มองว่า ทั้งหมดมีกระบวนการของการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งแม้ว่าทุกคนอาจจะไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดพร้อมกัน แต่เมื่อเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า หน้าที่ของแต่ละคนเมื่อรวมกันแล้วมีวัตถุประสงค์เดียวกันในการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นการฉ้อโกงประชาชน

 

ทนายตั้มยังไม่เจอ 18 บอสในเรือนจำ

 

ด้าน กนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงความพร้อมของกรมราชทัณฑ์ในวันนี้สำหรับการที่ DSI จะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำกลุ่มบอสดิไอคอนกรุ๊ปว่า เรือนจำวางแผนบริหารจัดการอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีการประชุมกันอยู่ในการเข้ามาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา 18 บอสอาจจะแบ่งกันแจ้ง คงแจ้งไม่พร้อมกัน

 

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์กล่าวอีกว่า สภาพความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของ 18 บอส ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวก็ได้รับการดูแลตามมาตรฐานอยู่แล้ว ส่วนที่บอสวินมีรายงานเป็นโรคมะเร็งก็ไม่ได้รับรายงานเรื่องการดูแลที่พิเศษเพิ่มขึ้นมา

 

ขณะที่ทนายตั้มและภรรยาที่เข้าเรือนจำมาได้ 2 วันแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับตัว ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง และไม่มีอะไรน่ากังวลใจ ส่วนความเครียดมีไม่มากและทั้งคู่ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ทั้งนี้ เรือนจำเฝ้าระวังหากทนายตั้มพ้นการกักโรคแล้วต้องแยกแดนจะพบคู่กรณี ไม่ใช่แค่กรณีของทนายตั้มเพียงอย่างเดียว ทุกเรือนจำคำนึงถึงความปลอดภัยและสิทธิของผู้ต้องขัง ซึ่งเรือนจำจะมีข้อมูลการเฝ้าระวังเป็นรายบุคคลอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ทนายตั้มและกลุ่มบอสยังไม่เจอกัน เพราะว่าทนายตั้มอยู่ระหว่างการกักตัวซึ่งอยู่คนละแดน

 

เมื่อถามว่า มีอาชีพเป็นทนายความจะมีการสร้างอิทธิพลภายในเรือนจำหรือไม่ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน และยืนยันว่า การสร้างอิทธิพลในเรือนจำก็ไม่มี

 

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเครือข่ายของผู้กำกับโจ้ที่เป็นคู่กรณีกับทนายตั้ม ซึ่งอยู่ในหลายเรือนจำและต้องการจะจองกฐินทนายตั้มจะมีการป้องกันอย่างไรบ้าง รองโฆษกกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า เรือนจำมีการเฝ้าระวังและมีสายข่าว แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลในประเด็นนี้

 

ส่วนกรณีเรือนจำพิเศษมีนบุรีที่มีผู้ต้องขังทำร้ายร่างกายโดยใช้ของปลายแหลมจนมีผู้เสียชีวิต รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่า เรือนจำมีการตรวจสอบอาวุธ บุคคล และยานพาหนะทุกวัน อีกทั้งเรือนจำก็พยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกัน ประเด็นนี้ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเรือนจำก็มีการประชุมในวันนี้ถึงประเด็นดังกล่าวด้วย และเรือนจำก็มีข้อจำกัดในเรื่องความแออัด จำนวนเจ้าหน้าที่ที่ไม่สัมพันธ์กับตัวผู้ต้องขัง และที่ผ่านมาเรือนจำก็พยายามตรวจสอบอย่างเต็มที่แล้ว

 

ทนายดิไอคอนกรุ๊ปไม่กังวล-เชื่อข้อหาไม่เข้าองค์ประกอบ

 

ขณะที่ วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ DSI ประสานมาว่าจะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหากับ 18 บอสพร้อมกันในวันนี้ ตัวเองก็ตอบรับแบบงงๆ จากนั้นก็ให้ทีมงานช่วยกันจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจทั้งหมด การจัดการจากโรงงานมายังโกดังและจากโกดังไปยังลูกค้า คาดว่าจะเตรียมได้ทัน ส่วนที่เหลือเป็นระบบของดิไอคอนกรุ๊ปซึ่งให้คนที่เข้าระบบได้อย่างเลขาฯ โค้ชแลปและเลขาฯ บอสพอล แยกเข้าไปในเรือนจำ เพื่อเข้ามาเปิดระบบให้กับผู้ต้องหาได้ให้การได้

 

ส่วนวันนี้เห็นว่า DSI บอกว่า เป็นการสอบคำให้การในเบื้องต้นจึงเตรียมข้อมูลมาให้แน่น เพราะคำว่าเบื้องต้นของบอสพอลไม่มีอยู่จริง เขาเองก็อยากจะให้รายละเอียดทั้งหมด เพราะกลัวว่ารับเบื้องต้นไปแล้วจะตัดจบคดี และการมาสอบที่เรือนจำไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เราจะให้การอย่างไรเพื่อจะพิสูจน์กับข้อกล่าวหานี้ได้นั้น วิฑูรย์กล่าวว่า องค์ประกอบแชร์ลูกโซ่คือต้องไม่มีธุรกิจอยู่จริง ต้องมีการเอาเงินของลูกค้า เอาเงินของคนใหม่มาจ่ายคนเก่า และต้องไม่มีสินค้า ซึ่งเรามั่นใจว่าเราไม่เข้าองค์ประกอบนี้ วันนี้จึงจะให้ปากคำโดยละเอียด โดยเรามีความยินดีที่จะเปิดระบบหลังบ้านและชี้แจงให้ดูว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตัวเองก็จะต้องนั่งฟังและสังเกตการณ์ด้วยยาวๆ เพราะตัวเองเป็นทนายให้กับหลายบอส

 

ส่วนพยานที่จะเข้ามาให้ปากคำนั้นนำสำเนาบัตรประชาชนและรายชื่อยืนยันตัวตนส่งมอบให้กับทาง DSI ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ DSI ขอให้ทำใหม่ก็เลยต้องทำการบ้านและบัญชีใหม่ พร้อมเก็บสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของตัวแทนแต่ละคน ขณะนี้ทำได้ 2 วันได้ไปเบื้องต้น 700 คนแล้ว

 

ส่วนพยานผู้เชี่ยวชาญนั้นขอให้ตัวแทนเข้ามาให้ปากคำให้หมดก่อน เนื่องจากรวบรวมได้ประมาณ 2,000-3,000 คน แต่จะให้การได้จริงหรือไม่ หรืออาจจะมีการตัดพยานไป ตัวเองก็แค่ขอความเป็นธรรม แต่พยานจะไม่พอใจไปแจ้งมาตรา 157 ก็ไม่ทราบได้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X