เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีบันทึกข้อความ เลขที่ 007.34/2684 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2562 เรื่อง กำชับการปฎิบัติตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 โดยมีข้อความระบุว่า
ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 กันยายน 2562 มีบางมาตราที่บัญญัติให้ยกเลิกความในมาตราเดิมและบัญญัติใหม่ โดยมีสาระสำคัญในการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานจราจร ดังนี้
1. เดิม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 140 วรรคสอง ในการออกใบสั่ง ให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว โดยบัญญัติว่า “ในการออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้” แต่เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวถูกยกเลิกโดยมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป ในการออกใบสั่ง เจ้าพนักงานจราจรจึงไม่มีอำนาจเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขี่อีกต่อไป
2. ในกรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่งไม่พบตัวผู้ขับขี่ และไม่สามารถติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด มาตรา 140 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้ส่งใบสั่งพร้อมด้วยพยานหลักฐานโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถเพื่อให้ชำระค่าปรับ ดังนั้นในกรณีดังกล่าว การส่งใบสั่ง เจ้าพนักงานจราจรต้องส่งใบสั่งพร้อมด้วยพยานหลักฐาน และต้องส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ จึงจะถือว่าเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งนั้นแล้วเมื่อผลกำหนด 15 วันนับแต่วันส่ง
3. ในการแสดงใบอนุญาตขับขี่ในขณะขับรถ มาตรา 31/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 บัญญัติว่า “ในขณะขับรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ ในกรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวตามวรรคหนึ่งแล้ว”
ดังนั้นการแสดงใบอนุญาตขับขี่ในขณะขับรถ ผู้ขับขี่สามารถแสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ได้ตามที่กฎหมายบัญญัติ จึงให้กำชับเจ้าพนักงานจราจรและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้บังคับบัญชา ผู้มีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแล ศึกษาทำความเข้าใจ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ เพื่อจะได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามที่กฎหมายบัญญัติต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: