วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
“อัปเดตสถานการณ์โลกจาก WHO รายงานล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์) จาก WHO Weekly Epidemiological Update ทั่วโลกมีจำนวนติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ลดลง 19% และจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4% การติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มลดลงชัดเจนในแทบทุกทวีป ยกเว้นภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก แต่การเสียชีวิตนั้นเพิ่มขึ้นทุกทวีป ยกเว้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“อย่างไรก็ตาม หากดูสถิติรายสัปดาห์ของไทยรายสัปดาห์จาก Worldometer จะพบว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 51% และตายเพิ่มขึ้นถึง 22% บ่งถึงสถานการณ์การระบาดที่ยังรุนแรง ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 สรุปข้อมูลวิชาการล่าสุด มีสาระสำคัญดังนี้
- BA.2 สามารถแพร่เชื้อได้ไวกว่าโอมิครอนสายพันธุ์เดิม BA.1 ถึง 30%
- ข้อมูลจากสหราชอาณาจักรและเดนมาร์ก BA.2 สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในสมาชิกครอบครัวได้มากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์เดิม BA.1 ราว 30% (1.3 เท่า)
- ความรุนแรงของ BA.2 ไม่ได้ต่างจาก BA.1
- เรื่องการดื้อต่อภูมิคุ้มกันจากวัคซีนนั้น BA.2 ไม่ได้ต่างจาก BA.1
- การตรวจคัดกรองโรคด้วยวิธีมาตรฐานยังสามารถตรวจการติดเชื้อนี้ได้
“ส่วนเรื่องการรักษานั้นยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าประสิทธิภาพของการรักษาแต่ละวิธีนั้นจะเหมือนหรือแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น
“วันนี้มาฆบูชา ขอให้เราถือโอกาสใช้ในการประเมินวิถีการดำเนินชีวิตปัจจุบันของเราว่าเป็นไปด้วยความมีสติ ไม่ประมาท ดีเพียงพอแล้วหรือไม่ ระมัดระวังเรื่องกิเลสที่จะนำพาไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
“สถานการณ์ระบาดในประเทศยังรุนแรงต่อเนื่อง ควรป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตร ใส่หน้ากากเสมอ เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงที่แออัดหรือระบายอากาศไม่ดี เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น และหากไม่สบาย ควรหยุดงานหยุดเรียน ตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน ถือเป็นความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม”
อ้างอิง: