วรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ปฏิเสธข้อกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ
ที่พาดพิงตนเองและภรรยา โดยยืนยันเตรียมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่กระทรวงการคลังในบ่ายวันนี้ และพร้อมเริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่
วันนี้ (22 ตุลาคม) วรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงผ่านแพลตฟอร์ม Facebook เกี่ยวกับประเด็นที่ถูกกล่าวหาอยู่ในขบวนการสแกมเมอร์ โดยระบุว่า มีขบวนการถ่วงความเจริญของประเทศชาติพยายามดิสเครดิตรัฐบาลโดยใส่ร้ายป้ายสีว่า ผมอยู่ในกระบวนการ scammers ข้ามชาติ และล่าสุดมาพาดพิงถึงภรรยากล่าวหาว่ารับสินบนเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งภรรยาผมยังไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรใดๆ ไม่เคยมีบัญชีคริปโตใดๆ ทั้งสิ้น
โดยวรภัคยังอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตนชี้แจงล่าช้าว่า ในสัปดาห์ก่อน ได้เดินทางประชุมงานประจำปีของธนาคาร World Bank-IMF ที่กรุงวอชิงตันดี.ซี. สหรัฐฯ มา แต่ละวันมีประชุมทั้งพหุภาคีและทวิภาคีเต็มตลอดวัน และที่สำคัญต้องหารือเตรียมงานที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมงานประจำปีของ World Bank-IMF ซึ่งเป็นงานใหญ่ยักษ์ในเดือนตุลาคมของปี 2569 และเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์นี้ ใช้เวลาส่วนใหญ่ขับเคลื่อนผลักดันเรื่องงานเป็นหลัก จึงทำให้การชี้แจงข้อเท็จจริงส่วนตัวล่าช้าไป
วรภัคกล่าวอีกว่า บ่ายนี้ (14.00 น.) จะมีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่กระทรวงการคลัง โดยทีมโฆษกกระทรวงได้นัดหมายนักข่าวไว้เรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่
“น่าเสียดายที่บางคนเป็นนักวิชาการอิสระที่ผมเคยชื่นชม แต่ในปัจจุบันมีอคติในทางการเมือง และพยายามจะเขียนข่าวแบบเอามัน เลยมองภาพทุกอย่างแบบมีอคติ ผมพยายามแผ่เมตตาให้แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเป็นผล คงต้องสวดบทพาหุงมหากา คือ บทปราบมารของพระพุทธเจ้าเสริม”
วรภัคกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านที่เคยร่วมงานกับผมในทุกองค์กรน่าจะยืนยันได้ว่าผมเป็นคนอย่างไร ทำงานอย่างไร ถึงแม้ผมเกษียณจากงานประจำมาหลายปีแล้ว วันนี้ไปที่ไหนเจอลูกน้องเก่าลูกค้าเก่าๆ ไม่มีใครเมินหน้าเดินหนี ทุกคนยังเข้ามาทักทาย โอภาปราศรัยเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมามีกัลยาณมิตรหลายวงการส่งข้อความมาให้กำลังใจผมทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการการเงินการธนาคารรวมทั้งน้องๆ นักข่าวที่รู้จักผมดีอีกหลายๆ คน
“สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณ ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ทีมงานสาขาธนาคารกรุงไทยและทีมงานสายเทคโนโลยีของธนาคารกรุงไทยทุกท่านที่ทุ่มเทสุดตัวในการช่วยรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้ติดลมจากนโยบายโครงการคนละครึ่งพลัส ผมติดตามข่าวในรายละเอียดและทราบว่าทุกสาขาทำงานกันหนักมากๆๆๆ เนื่องจากโครงการคนละครึ่งครั้งสุดท้ายจบไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2565” วรภัคกล่าว