D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ เล่าเรื่องราวเข้ากับเหตุการณ์บ้านเมืองของเรา ที่มักมีข่าวทหารเกณฑ์บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการฝึกซ้อมในค่ายทหารอยู่เสมอ ทั้งที่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นคอนเทนต์ออริจินัล Netflix ที่สร้างสรรค์โดยทีมงานเกาหลีใต้ หรืออาจเป็นไปได้ว่าในบริบทของทหารเกณฑ์แล้วนั้น หลายประเทศบนโลกใบนี้ต่างแชร์ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ด้วยระบบอาวุโส ค่านิยมที่สืบทอดรุ่นต่อรุ่น เอื้อให้ชีวิตของพลทหารที่ต้องเข้ากรมไปรับใช้ชาติ บางครั้งอาจพบเจอเรื่องราวที่เจ็บปวดแสนสาหัส
นอกเหนือจากเรื่องราวใน D.P. ที่มีเพียง 6 ตอนจบ อีพีละประมาณ 50 นาที วิธีการเล่าเรื่อง เขียนบท และกำกับยังเฉียบคม เส้นเรื่องที่เล่าขนานกันไป ระหว่างการตามจับทหารหนีทับ และเหตุผลที่ต้อง ‘หนี’ จนมาบรรจบในช่วงท้ายได้ดี จนต้องบอกว่า D.P. กลายเป็นซีรีส์ขึ้นหิ้งไปอีกหนึ่งเรื่อง ดูจบแล้วเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ ความทุกข์ของการถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าภายใต้โครงสร้างสังคมลำดับขั้น รวมถึงการได้เยียวยาบางอย่างที่ยากจะอธิบาย
ความดีงามของซีรีส์เรื่องนี้ ยังรวมถึงการตั้งคำถามที่อยากให้คนดูคิดตามเพื่อหาคำตอบ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร โดยเฉพาะการปฏิรูปกองทัพ การแก้ปัญหาทหารเกณฑ์ที่ถูกใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรม ชีวิตความเป็นอยู่และอาการบาดเจ็บ หรือบางรายถูกลงโทษจนเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ไปจนถึงจิตใจของผู้คนเจเนอเรชันต่อไปที่ต้องยอมรับว่าความรู้สึกต่อการเป็นทหารได้เปลี่ยนไปแล้ว
สรุปเรื่องราวของ D.P. อย่างย่นย่อ
D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ เล่าเรื่องของนายทหาร อันจุนโฮ (รับบทโดย จองแฮอิน) และ ฮันโฮยอล (รับบทโดย คูคโยฮวาน) สมาชิกของ D.P. หน่วยงานพิเศษซึ่งมีหน้าที่ตามล่าทหารหนีทัพ พวกเขาต้องออกปฏิบัติภารกิจติดตามและไล่ล่าเพื่อนทหารที่หนีทัพ ด้วยการปฏิบัติงานที่คล้ายกับนักสืบ ออกติดตามสะกดรอยว่าเหล่าทหารหนีทัพนั้นไปหลบซ่อนตัวกันอยู่ที่ใด
อันจุนโฮ พลทหารที่เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่สารวัตรทหารได้ไม่นาน เป็นคนตรงไปตรงมา ดูเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ส่วนสิบโทฮันโฮยอล เป็นทหารที่ผ่านประสบการณ์การเป็น D.P. มานาน และเป็นคนรู้จักเอาตัวรอด ไม่เคร่งครัดกับกฎเกณฑ์สักเท่าไร ทั้งสองคนมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และต้องมาเป็นคู่หูในการออกปฏิบัติภารกิจบนเส้นคาบเกี่ยวระหว่างโลกของทหารและโลกของคนทั่วไป พร้อมเรื่องราวการเผชิญหน้ากับทหารหนีทัพแต่ละคน
*บทความนี้เปิดเผยบางส่วนของเนื้อหาซีรีส์
คำถามที่ D.P. ส่งต่อ: ประเด็นการหนีทหาร
‘ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย’ บัญญัติให้ชายอายุ 18-30 ปี ที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลทุพพลภาพ ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร
อย่างที่รู้กันแล้วว่า D.P. คือซีรีส์เล่าเรื่องการตามจับทหารหนีทัพ โดยสารวัตรทหารหน่วย D.P. ซึ่งเป็นหน่วยฝึกหัดให้เหล่าพลทหารด้วยกันมาทำหน้าที่ ซึ่งกรณีการหนีทัพในซีรีส์เกือบทั้งหมดล้วนมีประเด็นปัญหาที่ถูกกดขี่ ถูกกลั่นแกล้ง หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘ถูกซ่อม’ จากรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อน
ซึ่งการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่เกิดขึ้น ซีรีส์สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องราวเหล่านี้ อาจจะเกิดขึ้นในค่ายทหาร ขณะเดียวกันก็อาจเกิดในชีวิตจริง การทำงานจริง ของคนทั่วไปได้เช่นกัน
ค่ายทหารใน D.P. จึงเป็นเหมือนโลกอีกใบที่มีทั้งคนผ่านพ้นมันไปได้ และไม่สามารถก้าวข้ามผ่าน ดังนั้นการ ‘หนีทหาร’ คือทางเดียวที่จะหนีไปให้พ้นจากความทุกข์ทั้งกายและใจ แม้จะรู้ว่าการหลบหนีเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เสี่ยงต่อการโดนจับกุม-ทำร้ายร่างกายก็ตาม
ถ้าคำถามคือ ทำไมเราต้องทำร้ายกันรุนแรง จนราวกับว่าเขาไม่เหลือคุณค่าความเป็นมนุษย์ เพราะแม้เป็นพลทหารยศน้อยก็ล้วนมีความเท่าเทียมในการมีชีวิตไม่ใช่หรือ นำมาซึ่งคำตอบของประเด็นนี้ที่อาจจะตรงกับคำพูดของอันจุนโฮที่ว่า “ถ้าเขาไม่ไปเป็นทหาร เขาก็คงไม่ต้องหนีทหาร”
คำถามที่ D.P. ส่งต่อ: ประเด็นการเปลี่ยนแปลง ปฏิรูประบบทหาร
จ่าสิบโท พัคบอมกู (รับบทโดย คิมซองกยุน) คือนายทหารผู้ดูแลหน่วย D.P. โดยตรง เขามีหัวหน้าที่อายุน้อยกว่าแต่ยศสูงกว่า ก็คือร้อยเอก อิมจีซอบ (รับบทโดย ซนซอกกู) นายทหารที่ย้ายจากกองกลางมาใหม่ พวกเขาคอยดูแลหน่วย D.P. สารวัตรทหาร 103 ด้วยความเชื่อที่ไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไร ส่วนตำแหน่งที่สูงไปกว่าพวกเขาคือนายพลที่ดูแลทั้งหน่วยสารวัตรทหารอีกที
ในซีรีส์ฉายให้เห็นปัญหาการใช้เส้นสายที่คนใหญ่คนโตฝากฝังลูกชายให้มีสิทธิพิเศษ, การเลียแข้งเลียขาเจ้านาย เพื่อความก้าวหน้า การปัดความผิดให้ลูกน้องในบังคับบัญชา ไหนจะเรื่องการกระทำผิดร้ายแรงของทหาร แต่โทษที่ได้รับคือการย้ายหน่วยงาน ไม่ใช่การลงโทษอย่างที่พลเรือนหรือพลทหารได้รับ รวมถึงการปิดข่าวเพราะไม่อยากเสียชื่อในหน้าสื่อ
ซีรีส์ D.P. ย้อนเล่าเรื่องในปี 2014 ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมสืบทอดมายาวนาน ยิ่งในสังคมที่มีลำดับชั้น นับถืออาวุโส รุ่นพี่รุ่นน้องอย่างประเทศเกาหลี รวมถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านการปกครองในแบบเผด็จการยาวนานกว่าจะได้รับประชาธิปไตย เรื่องราวที่เกิดขึ้นในค่ายทหารจึงเหมือนเรื่องที่เกิดซ้ำๆ ส่งต่อรุ่นต่อรุ่นอย่างที่เกิดคำถามขึ้นมาว่า “ทำไมมันถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
พลทหารคนหนึ่งในซีรีส์ก็ยังตะโกนถาม “ผมทำอะไรผิดเหรอ ทำไมผมต้องถูกลงโทษด้วย” การไม่ได้รับความเป็นธรรม และสิ่งนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นคำถามที่ซีรีส์โยนกลับมาให้คนดู เพราะอย่างน้อยๆ มันคือเสียงที่สังคมควรได้ยิน และไม่แน่ มันอาจก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมจนเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างตามมาก็เป็นได้
เพราะในปัจจุบัน ระยะเวลาการประจำการจากเดิมประมาณ 2 ปี ลดลงเหลือเพียง 18 เดือน นอกจากนี้กองทัพยังมีแผนลดจำนวนทหารเกณฑ์ให้เหลือ 500,000 นายภายในปี 2022 จากเดิมที่เคยมีจำนวนทหารเกณฑ์ในกองทัพมากถึง 618,000 นาย นี่คือสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่า การเป็นทหารไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน
คำถามที่ D.P. ส่งต่อ: ประเด็นการเพิกเฉยในสังคม
ทำไมโศกนาฏกรรมในค่ายทหารยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง หรือเพียงเพราะผู้คนต่างเพิกเฉยกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น?
ซีรีส์ D.P. เล่าถึงการทำร้าย ทำโทษ การกลั่นแกล้งในค่ายทหาร โดยเฉพาะในหน่วยสารวัตรทหาร ซึ่งเปรียบได้กับทหารที่ทำหน้าที่ตำรวจ ที่ควรเป็นผู้มีความยุติธรรมรู้จักผิดชอบชั่วดีกว่าหน่วยอื่นๆ แต่มีหลายครั้งหลายหนที่เหล่าตัวละครต้องเพิกเฉยกับการลงโทษ หรือการ ‘ซ่อม’ เพื่อนตรงหน้า เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาจะโดนรุมทำร้ายเสียเอง
ฉากสะเทือนใจเกี่ยวกับประเด็นการเพิกเฉยมีปรากฏอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในฉากพีกช่วงท้ายเรื่อง ที่สะท้อนได้ตรงไปตรงมา ว่าการนิ่งเฉยที่เป็นมาตลอดนั้น กลายเป็นอีกหนึ่งแรงผลักที่ทำให้คนคนหนึ่งกลายร่างเป็นปีศาจ เพราะถ้าไม่ลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง ก็เท่ากับเขายอมแพ้ และยอมให้เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นคนจนไม่เหลือ
“ทำไมถึงไม่เคยช่วย” ไม่ใช่แค่ตัวละครถามคำถามนี้ในซีรีส์เท่านั้น คนดูก็จะรับรู้ได้ว่ามันเป็นคำถามที่ส่งให้เราตอบ เพราะในชีวิตจริงทุกวันนี้ การเพิกเฉย อาจเท่ากับการเห็นด้วยในสิ่งที่เกิดขึ้น
D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ ซีรีส์ 6 อีพี ผลงานกำกับโดย ฮันจุนฮี ผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงที่กำกับภาพยนตร์ Hit and Run Squad (2019) และ Coin Locker Girl (2015) ที่เขาได้รับรางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากเวที Baeksang Arts Awards ในปีนั้น
เขียนบทโดย คิมโบทง ซึ่งเป็นนักเขียน Webtoon ต้นฉบับในเรื่องเดียวกัน โดยที่ฮันจุนฮีร่วมเขียนบทซีรีส์ D.P. ด้วย ทำให้การทำงานของทั้งสองสอดคล้องกันเป็นอย่างดี นำแสดงโดย จองแฮอิน, คูคโยฮวาน, คิมซองกยุน, ซนซอกกู และนักแสดงรับเชิญอีกมาก ผลิตโดย Climax Studio และ Shortcake รับชมได้ทาง Netflix วันที่ 27 สิงหาคม 2564
อ่านต่อ
ตัวอย่างซีรีส์ D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ:
เบื้องหลังซีรีส์ D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ:
Photo: Netflix