D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ ซีรีส์เกาหลีออริจินัลคอนเทนต์จาก Netflix เรื่องนี้ไม่ธรรมดา เพราะอย่างแรกเลยคือผลงานของผู้กำกับฮันจุนฮี ที่เคยสร้างภาพยนตร์นอกกระแสจนกลายเป็นที่นิยมทั้งเงินทั้งกล่อง จากเรื่อง Hit-and-Run Squad (2019)
และ Coin Locker Girl (2015) จนทำให้เขาได้รับรางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากเวที Baeksang Arts Awards 2016 เพราะฉะนั้นเมื่อฮันจุนฮีมีข่าวว่าจะกำกับซีรีส์ 6 ตอนจบเรื่องเกี่ยวกับการหนีทหาร จึงกลายเป็นที่ตั้งตารอของแฟนๆ ทันที
จองแฮอิน คูคโยฮวาน คิมซองกยุน ซนซอกกู และผู้กำกับฮันจุนฮี ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ D.P. เมื่อวานนี้ (25 สิงหาคม) โดยมาในฉากห้องพักทหารเกณฑ์ที่ให้บรรยากาศคล้ายเซ็ตการถ่ายทำ และนี่คือบทสัมภาษณ์แทนใจพวกเขาในการสร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมนี้ให้เราได้รับชมกัน
อย่างแรกเลย คงต้องให้เล่าถึงซีรีส์ D.P. สักหน่อย
จองแฮอิน: D.P. ย่อมาจาก Deserter Persuit เป็นชื่อหน่วยงานสารวัตรทหารที่ตามจับทหารหนีทัพครับ พวกเขาอาจจะดูไม่เหมือนทหาร เพราะอยู่ในชุดนอกเครื่องแบบ
แต่งตัวแบบคนธรรมดา แล้วออกไปสอดแนมว่าคนที่หนีทหารหนีไปอยู่ที่ไหน เว็บตูนเรื่องนี้ดังมาก คนอ่านระดับ 10 ล้านวิวเลยครับ แต่ผมตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้จักเรื่องนี้เท่าไร การทำงานในซีรีส์ D.P. ผมเลยต้องศึกษาเยอะเหมือนกัน
คิมซองกยุน: ผมไม่เคยรู้จักหน่วยนี้มาก่อนเลยครับ ก่อนหน้านี้รู้จักแค่หน่วยสารวัตรทหาร แต่กับ D.P. ซีรีส์นี้เป็นครั้งแรกเลยครับที่ทำให้ผมได้รู้จักหน่วยนี้
คูคโยฮวาน: ผมเองได้ไปพบกับหน่วย D.P. ตัวจริงด้วย แล้วสอบถามเขาเกี่ยวกับการทำงานต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจตัวละครนี้ให้มากขึ้น
ผู้กำกับฮันจุนฮี: ผมมีเพื่อนที่เคยอยู่ในหน่วยนี้ครับ ส่วน คิมโบทง ที่เป็นนักเขียน เขาเองก็ได้เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การเป็น D.P. ที่ตัวเขาพบเจอ แล้วผมก็เจอทีมงานคนหนึ่งที่เคยอยู่ในหน่วย D.P. จริงๆ ทำให้เราได้รู้รายละเอียดต่างๆ ที่มากขึ้นและสร้างซีรีส์นี้ได้เหมือนจริงมากขึ้นด้วย น่าประหลาดใจเหมือนกันครับที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก D.P. แต่กลับมีคนจากหน่วย D.P. อยู่รอบๆ ตัวเราเลย
ผมอยากเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหน่วยนี้มากๆ ผมพยายามมา 5-6 ปีในการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ เพราะวัยหนุ่มที่ต้องเข้ากรมในยุคปัจจุบันมีเรื่องราวมาแชร์กับเราเยอะมาก จนทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกผู้คนในยุคสมัยนี้มากขึ้นด้วย ผมอยากทำให้ซีรีส์ D.P. เน้นไปที่สองพลทหารอันจุนโฮและฮันโฮยอล คนดูจะรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่อาจมีตัวตนจริงในชีวิต ผมเลยเน้นเรื่องปูมหลังชีวิตของอันจุนโฮให้มากขึ้น
ทำความรู้จักตัวละครสำคัญในซีรีส์ D.P.
-
- จองแฮอิน รับบท อันจุนโฮ พลทหารที่เพิ่งเข้าประจำการได้ไม่นาน หลังการฝึกเบื้องต้นแล้ว เขาย้ายไปสังกัดหน่วยสารวัตรทหาร และมีโอกาสเข้าเป็นทีม D.P. ทำหน้าที่ตามหาทหารที่หนีทัพ
- คูคโยฮวาน รับบท ฮันโฮยอล พลทหารรุ่นพี่ที่อยู่ในหน่วย D.P. มาก่อนหน้า จึงมีประสบการณ์สูงกว่า เป็นคนสนุกสนาน รู้จักลูกล่อลูกชน และช่วยเป็นคู่หูให้กับอันจุนโฮ
- คิมซองกยุน รับบท จ่าสิบโทพัคบอมกู นายทหารผู้ดูแลหน่วย D.P. ซึ่งอันจุนโฮ และฮันโฮยอลขึ้นตรงกับเขาโดยตรง
- ซนซอกกู รับบท ร้อยเอกอิมจีซอบ หัวหน้าหน่วย D.P. ที่แม้อายุน้อยกว่าจ่าสิบโทพัคบอมกู แต่ก็มีตำแหน่งสูงกว่า และมีความคิดไม่ลงรอยกันสักเท่าไร
พลทหารฮันโฮยอล เป็นตัวละครที่เพิ่มมาในซีรีส์ D.P. อยากให้เล่าถึงตัวละครของคุณหน่อย
คูคโยฮวาน: ผมเป็นตัวละครใหม่ในซีรีส์นี้ โฮยอลเป็นคู่หูของจุนโฮ เราทำงานเป็นทีมเพื่อตามจับทหารหนีทัพ ตอนที่อ่านบท ผมรู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นเหมือนจดหมายที่เขียนถึงตัวผมเอง ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ผู้กำกับอยากส่งมอบให้กับหนุ่มสาวยุคใหม่
เราไม่ค่อยได้เห็นซนซอกกูรับงานบ่อยๆ ใน D.P. คุณรับบทเป็นอะไร และเป็นตัวละครที่มีความลึกซึ้งอย่างไร
ซนซอกกู: ผมรับบทเป็นร้อยเอกอิมจีซอบ ตัวละครนี้ก็เพิ่มเข้ามาใหม่ในเวอร์ชันซีรีส์ครับ เขาเพิ่งย้ายเข้ามารับตำแหน่งที่หน่วยสารวัตรทหารแห่งนี้ เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานที่อยากจะขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ เหมือนสังคมการทำงานในอาชีพต่างๆ ด้วยความที่ผมเคยอยู่ในกรมทหารมาก่อน ก็จะรู้สึกได้เลยว่าบทเหมือนจริงมากๆ ตอนที่ถ่ายทำ ทุกอย่างมันเหมือนจริงมากจนทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆ เลยครับ
ตัวผมเองยังต้องย้อนกลับไปถามผู้บังคับบัญชาหมวดที่ผมเคยทำงานด้วย แล้วถามรายละเอียดเยอะมากว่าต้องทำอะไรอย่างไร ผมอยากขอบคุณท่านมากๆ เลยครับที่ให้คำแนะนำดีๆ หลายอย่าง ผมยังหยิบยืมคาแรกเตอร์บางอย่างมาเป็นเรเฟอเรนซ์ในการแสดงด้วยครับ
หลายคนรู้ว่าคุณเป็นนักแสดงอารมณ์ดี ที่จำแม่นคือบทพ่อจองฮวันในซีรีส์ Reply 1988 อยากให้เล่าถึงตัวละครของคุณในเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย
คิมซองกยุน: จ่าสิบโทพัคบอมกูที่ผมรับบท ดูจากข้างนอกเขาเหมือนคนไม่สนใจอะไรเลย แต่ข้างในเขาเป็นคนที่ห่วงใยลูกน้อง และกล้าลุกมาทำอะไรเมื่อเกิดความไม่เป็นธรรมกับคนของเขา ตัวละครนี้ทำให้ผมนึกถึงตอนที่เป็นทหาร จำได้ว่าหัวหน้าหน่วยทหารที่ดูแลผมตอนนั้นดูแลพลทหารดีมาก ผมเองยังดึงบางอย่างจากเขามาใช้ในการแสดงเรื่องนี้ด้วย
ผมชอบคาแรกเตอร์นี้นะ จ่าสิบโทพัคบอมกูเป็นเหมือนพี่ของเหล่าพลทหาร ถ้าคุณได้อ่านเว็บตูนก็จะรู้ว่า ‘บอมกูฮยอง’ เป็นคำที่พวกเขาเรียกกัน มันแสดงความเป็นพี่น้องที่เกิดขึ้น และแม้ว่าในค่ายทหารเราจะไม่เรียกพี่-น้องกันแบบนี้ จะเรียกกันเป็นยศตำแหน่ง เพราะค่ายทหารก็เหมือนหน่วยงานในบริษัทต่างๆ มีตำแหน่ง มีหน้าที่ อำนาจที่ชัดเจน ส่วนบรรยากาศตอนถ่ายทำ พวกเราเหมือนเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกันเลยครับ เราเล่นมุกกัน หัวเราะกัน บรรยากาศในเซ็ตก็เป็นแบบนั้น
คูคโยฮวาน: อย่างที่พี่ซองกยุนบอกเลยครับ บรรยากาศเบื้องหลังกองถ่ายสนุกมาก เหมือนมาเล่นสนุกกัน แทนที่จะเครียดกับการทำการบ้านเพื่อเตรียมเข้าฉาก พวกเราค่อนข้างสนิทกัน แล้วมันไม่ใช่แค่นักแสดง แต่กับทีมงาน ผู้กำกับ ก็เป็นเหมือนเพื่อนเราไปแล้ว พวกเขาได้เห็นการแสดงของเราเป็นคนแรก และให้ฟีดแบ็กที่เป็นประโยชน์มากเลยครับ
จองแฮอิน: ตอนที่ผมอ่านบท จะรู้สึกเหมือนอ่านการ์ตูน เพราะมันสนุกและน่าประทับใจมากครับ ตอนนั้นผมยังนึกหน้าตัวละครต่างๆ ฉากต่างๆ ออกมาเป็นภาพ แล้วพอได้ทำงานจริงๆ ผมเองก็รู้สึกว่าพี่ๆ เขากลายเป็นพี่ชายของผมจริงๆ ไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ผมได้ติดตามผลงานพวกเขามาตลอด พอได้ทำงานด้วยกันก็รู้สึกดีมาก ตัวผมเองยังรอได้ร่วมงานกับพี่ๆ เขาอีก เพราะตอนถ่ายทำมันสนุกมากจริงๆ ครับ
แฟนซีรีส์ในไทยคิดถึงกัปตันยู จาก Prison Playbook มากๆ บทใน D.P. คุณเป็นทหารที่แตกต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง
จองแฮอิน: ก่อนอื่นต้องขอบคุณแฟนๆ ที่ชื่นชอบกัปตันยูจากเรื่อง Prison
Playbook ครับ ข้อแตกต่างหลักๆ คือ กัปตันยูเป็นทหารที่ติดอยู่ในเรือนจำ
ส่วนบทอันจุนโฮที่ได้รับในเรื่อง D.P. เป็นพลทหารน้องใหม่ คำพูดหรือบทพูดที่ใช้จะต่างกัน เรียกว่าคำพูดที่พลทหารสามารถพูดได้ตอนอยู่ในกรมมีแค่ไม่กี่คำเองครับ ต้องคอยตอบสนองและตอบคำถามสิบโทและหัวหน้าที่ประจำหน่วยทหารอยู่ตลอด มีข้อแตกต่างกันอยู่หลายข้อ แต่ในเรื่อง D.P. การวางเนื้อเรื่องให้ทหารไปไล่ล่าจับทหารด้วยกันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ ผมเชื่อว่าผู้ชมที่ได้ชมซีรีส์เองน่าจะรู้สึกถึงความแปลกใหม่เช่นกันครับ
นี่เป็นซีรีส์ของคุณที่พลิกบทบาทในรอบหลายปีเลย เพราะมาสายแอ็กชันและตัดผมสั้นเกรียนเป็นทหาร คุณเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
จองแฮอิน: ผมออกกำลังกายหนักมากครับ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย เพราะมีฉากที่ต้องวิ่งเยอะ ถ้าไม่เตรียมตัวให้พร้อมอาจจะมีปัญหาตอนถ่ายทำจริงได้ ก็เลยเตรียมตัวอย่างเคร่งครัดครับ ผมซ้อมต่อยมวย 3 เดือนเต็มๆ ก่อนถ่ายทำ เพราะผู้กำกับและครูฝึกอยากให้ผมแสดงแบบไม่มีคัตมาต่อกันเลย ผมก็ต้องซ้อมหนักมากเพื่อให้เหมือนจริงๆ ว่าจุนโฮเคยเป็นนักมวยมาก่อน
ส่วนการแสดง ผมปรึกษากับผู้กำกับเยอะมากครับ เพื่อเข้าใจตัวละครจุนโฮให้มากขึ้น ตอนที่คุณได้ดูซีรีส์เรื่องนี้น่าจะทำให้ย้อนนึกถึงตัวเองในตอนที่ต้องเข้ากรมเป็นทหารเหมือนกัน
คุณอาจไม่รู้ว่า คิมซองกยุน กับ คูคโยฮวาน เป็นแฟนผลงาน จองแฮอิน ด้วยเหมือนกัน เล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหม
คิมซองกยุน: ผมติดตามเขาตั้งแต่ซีรีส์ Something in the Rain ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ชื่อภาษาเกาหลีคือ Pretty Sister Who Buys Me Food (밥 잘 사주는 예쁜 누나) ตัวผมเองก็รอที่จะได้เป็นพี่ชายที่คอยเลี้ยงข้าวเขาครับ ผมรู้สึกกับแฮอินแบบนี้มาตลอด อยากเลี้ยงอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมที่มีเครื่องเคียงเยอะๆ เหมือนแม่ที่คอยดูเลลูกชายของพวกเขา
คูคโยฮวาน: ผมอยากเดตกับแฮอินครับ ผมเคยให้สัมภาษณ์ไว้แบบนี้มาก่อนแล้วด้วย ผมอยากสนิทกับเขา แล้วเป็นเพื่อนซี้กัน ถ้าได้เดตกันจริงๆ ผมอยากเอาเวลาในการเดตไปเป็นการได้แสดงกับเขาอีก ผมชอบทำงานกับเขามากเลยครับ
ซนซอกกู: สำหรับผม เป็นแฟนของคู่หูดูโอ้นี้เลยครับ อยากเห็นว่าเคมีระหว่างพวกเขาเป็นยังไง เพราะจองแฮอินกับคูคโยฮวานไม่เหมือนใครที่เคยเล่นคู่กันมาก่อน กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ดูซีรีส์แบบไฟนอลเลย อยากดูแล้วครับ เพราะอยากเห็นเคมีของพวกเขานี่ล่ะ
ผู้กำกับฮันจุนฮี: นี่เป็นคู่เคมีที่ควรค่าแก่การดูเลยครับ คนหนึ่งพยายามเติบโตเป็นผู้ชายที่ดี ส่วนรุ่นพี่ก็เป็นคนที่ผ่านประสบการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว พวกเขาจะให้ความรู้สึกใหม่ๆ ในการเป็นคู่ดูโอ้ของซีรีส์แบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างคโยฮวาน เขาเป็นคนตลกมาก ยิงมุกตลอด แต่มีบางครั้งที่มุกแป้กๆ หน่อย แต่ผมกลับเก็ตมันหมดเลยนะครับ
จองแฮอิน: จริงครับ พี่เขาตลกมาก แล้วมันยากมากครับที่ผมมัวแต่ขำกับมุกตลกของพี่เขา มันกลั้นไม่อยู่จนต้องหัวเราะออกมา ยิ่งฉากในโรงพยาบาล พี่เขาทำผมหัวเราะจนปวดท้องเลยครับ
อะไรคือไฮไลต์ที่คุณอยากโฟกัสในการดัดแปลงเรื่องราวจากเว็บตูนมาเป็นซีรีส์
ผู้กำกับฮันจุนฮี: มีประเด็นสังคมที่เรานำมาใช้ในซีรีส์นี้ ที่ผมพยายามทำให้เห็นแง่มุมความเป็นมนุษย์ และถ่ายทอดความคิดของนักเขียนคิมโบทงออกมาบนหน้าจอ
จองแฮอิน: ความแตกต่างก็คือในเว็บตูนจุนโฮมีตำแหน่งเป็นสิบโท แต่ในซีรีส์เขาเป็นพลทหารที่เพิ่งประจำการได้ไม่นาน และในซีรีส์ D.P. จะได้เห็นรายละเอียดของตัวละครจุนโฮเยอะขึ้นมาก เรียกว่าเป็นภาคแยกจากเว็บตูนก็ได้นะครับ
คูคโยฮวาน: ตัวละครนี้ต่างจากงานก่อนหน้าของผมมากเลยครับ ผู้กำกับให้คำแนะนำกับผมว่า ฮันโฮยอล เป็นเหมือนคนที่คอยอยู่รอบตัวจุนโฮ คอยสนับสนุนเขามากกว่าจะเป็นดวงดาวเสียเอง เหมือนผมเป็นดาวเทียมที่โคจรรอบๆ ดวงจันทร์อะไรแบบนั้นครับ
ซนซอกกู: ด้วยความที่ตัวละครร้อยเอกอิมจีซอบเป็นตัวละครใหม่ ผมก็ถามผู้กำกับเยอะมากเลยว่าจะแสดงออกมาอย่างไรดี ตั้งแต่วันแรกที่ถ่ายทำเลยครับ ซึ่งผู้กำกับแนะนำว่าผมไม่ควรพยายามมากเกินไป ให้แสดงไปอย่างที่เข้าใจ ส่วนผู้กำกับจะคอยดูว่าผมแสดงออกได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวละครในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อให้คนดูเข้าใจและเชื่อมโยงกับตัวละครนี้ได้
ระหว่างการถ่ายทำ คุณน่าจะต้องนึกถึงประสบการณ์ของตัวเองตอนที่เกณฑ์ทหาร สำหรับคนดูที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ คุณอยากบอกอะไรกับพวกเขา
ผู้กำกับฮันจุนฮี: ผมเชื่อว่าคนที่ได้ดูซีรีส์ D.P. จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนเป็นทหาร ได้เจอเรื่องราวมากมาย และวิธีการแก้ปัญหาที่เจอ น่าจะมีทั้งคนที่เคยเจอเรื่องแบบนี้ หรือบอกว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีจริงหรอก สำหรับผมมองว่าเรื่องราวเหล่านี้ในชีวิตจริงมันไม่เคยถูกมองเห็น และผมกับนักเขียนอยากทำให้มันถูกมองเห็นขึ้นมา
เบื้องหลังซีรีส์ D.P.:
Photo: Netflix