CNBC รายงานดัชนีดาวโจนส์กำลังเผชิญวันแห่งวิกฤต โดยร่วงลงมากที่สุดในวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2022 กลายเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโรคโควิด ซึ่งเกิดจากรายได้ของบริษัทต่างๆ ที่พลาดเป้า และแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น กระตุ้นการขายจำนวนมาก
ดาวโจนส์ร่วงลง 981.36 จุด หรือ 2.8% สู่ 33,811 จุด ด้าน S&P 500 ลดลง 2.8% ที่ 4,271 จุด ซึ่งเป็นวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ส่วน Nasdaq Composite ลดลง 2.6% มาอยู่ที่ 12,839 จุด การสูญเสียในวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นตัวเลขที่ใหญ่ที่สุดสำหรับดัชนีดาวโจนส์นับตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2020
UnitedHealth ตกลงมากกว่า 3% ขณะที่ Caterpillar ลดลง 6.6% ด้านหุ้น Goldman Sachs, Home Depot และ Visa ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ดัชนีอยู่ในแนวลบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
การร่วงลงมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง HCA Healthcare ลดลง 21.8% และเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดใน S&P 500 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนมองว่าภาคการดูแลสุขภาพอาจไม่ใช่หุ้นที่สดใสอีกแล้ว โดย DaVita ลดลงเกือบ 9.2% และ DexCom ลดลง 6.7%
หุ้น Verizon ลดลง 5.6% หลังจากที่บริษัทรายงานการสูญเสียสมาชิกรายเดือน 36,000 ราย ในไตรมาสแรก
“การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อกำลังจะสร้างความเจ็บปวด” Jeanette Garretty หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Robertson Stephens Wealth Management กล่าว
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสั่นสะเทือนจากคำพูดของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่เผยว่า การประชุม Fed ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการเตรียมความพร้อมของ Fed ในการเข้าควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่หมัด
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP