กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วที่แต่ละเดือนบรรดายักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจะหยิบกลยุทธ์ Double Day มาเป็นกิมมิกเพื่อกระตุ้นผู้บริโภคให้อยากซื้อ
ซึ่งไม่เพียงแต่การทุ่มเม็ดเงินเพื่อสร้างโปรโมชันในแคมเปญ Double Day เท่านั้น แต่ ‘งบโฆษณา’ ก็เป็นอีกส่วนที่ Lazada-Shopee-JD Central ต่างโหมใช้เงินไม่ต่างกัน
เมื่อเทียบกับช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 และปี 2564 ข้อมูลจาก Media Intelligence ชี้ให้เห็นว่า ยักษ์ทั้ง 3 ต่างทุ่มเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น
- Lazada ใช้เงินเพิ่มขึ้น 44% จาก 174 ล้านบาท เป็น 568 ล้านบาท
- Shopee ใช้เงินเพิ่มขึ้น 37% จาก 121 ล้านบาท เป็น 482 ล้านบาท
- JD Central ใช้เงินเพิ่มขึ้น 6% จาก 3.8 ล้านบาท เป็น 76.7 ล้านบาท
“อาจเป็นเพราะปัจจัยการระบาดของโรคโควิด (ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันไปช้อปออนไลน์มากขึ้น) และ Special Package ของสื่อทีวี ที่ดันให้เม็ดเงินโตอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน” ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ Media Intelligence ให้มุมมองกับ THE STANDARD WEALTH
เจาะเข้าไปจะพบว่า Lazada ใช้งบในสื่อทีวีเพิ่มขึ้นกว่า 78% ส่วน Shopee ก็ใช้เพิ่มขึ้น 69% และ JD Central ใช้เงินเพิ่ม 82% กระนั้นภวัตก็ตั้งข้อสังเกตว่า “ในอนาคตแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจะใช้เม็ดเงินโฆษณาน้อยลง เพราะเมื่อสามารถสร้างการรับรู้และดึงผู้บริโภคได้แล้วก็จะหันไปทุ่มกับโปรโมชันส่งเสริมการขายแทน”
สำหรับแคมเปญ 9.9 ที่เพิ่งผ่านไปของปีนี้ ฟาก Lazada ได้ดึงซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีใต้ ‘ฮยอนบิน’ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall โดยให้เหตุผลว่า นักแสดงดังได้รับการยอมรับอย่างมากในด้านบุคลิกที่จริงใจและการทุ่มเทให้กับงานแสดงที่มีคุณภาพ ซึ่งจะสะท้อนไปถึงภาพลักษณ์ของ LazMall ด้วย ตลอดจนเป็นคนที่น่าเชื่อถือ รวมถึงสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม
ในขณะที่ Shopee นั้นได้ดึง ‘แจ็คกี้ ชาน’ หรือคนทั่วไปมักจะคุ้นชื่อ ‘เฉินหลง’ ซูเปอร์สตาร์ระดับตำนานมาโปรโมตแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day ซึ่งภวัตให้มุมมองว่า “อาจเป็นเพราะ Shopee ต้องการเจาะกลุ่ม Gen X และ Baby Boomer ซึ่งเริ่มช้อปออนไลน์เป็นแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ดาราที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้รู้จักกันดีมาโปรโมต”
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
