ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขึ้นแถลงนโยบายประจำปี หรือที่เรียกว่า State of the Union ครั้งที่ 3 ต่อสภาคองเกรสในค่ำคืนวันอังคาร (4 กุมภาพันธ์) โดยเขาใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 18 นาที ประกาศความสำเร็จในการบริหารประเทศตลอด 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เดินหน้าแคมเปญ The Great American Comeback (อเมริกันผู้ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว)
แต่ประเด็นร้อนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดใน State of the Union รอบนี้หนีไม่พ้นช็อตที่ดูเหมือนทรัมป์เมินการจับมือกับ แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต หลังเธอยื่นมือมารอจับภายหลังทรัมป์ส่งแฟ้มสำเนาคำแถลงให้กับเปโลซีก่อนจะเริ่มการแถลงบนโพเดียมในรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าทรัมป์ไม่เห็นเปโลซีที่ยื่นมือมาขอจับมือกับเขาหรือทรัมป์จงใจไม่จับมือด้วยกันแน่ เพราะจากภาพที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศจะเห็นได้ว่าทรัมป์หันหน้าออกจากเปโลซีแทบจะทันทีหลังจากที่ส่งสำเนาสปีช State of the Union ให้เธอแล้ว
ทรัมป์แถลงอะไรบ้าง
ในปี 2020 ที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แน่นอนว่าการแถลงนโยบายประจำปีของทรัมป์ถูกมองว่าเป็นเวทีหาเสียงของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเขาโฟกัสกับสโลแกน The Great American Comeback เพื่อสานต่อภารกิจการทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
“3 ปีที่แล้วเราเริ่มต้นแคมเปญ The Great American Comeback ในคืนนี้ผมยืนต่อหน้าพวกคุณเพื่อแบ่งปันผลลัพธ์ที่เยี่ยมยอด อัตราจ้างงานกำลังเฟื่องฟู รายได้พุ่งสูง ความยากจนลดลง อาชญากรรมลดลง ความมั่นใจกำลังพลุ่งพล่าน และประเทศของเราก็เจริญรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูงอีกครั้ง” ทรัมป์กล่าวขณะเริ่มต้นแถลงนโยบาย
ทรัมป์ยังยกย่องผลงานของเขาว่าภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3 ปี สหรัฐฯ เดินหน้าไปอย่างรวดเร็วและเศรษฐกิจขยายตัวดีที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา นอกจากนี้นโยบายเศรษฐกิจก็แข็งแกร่งที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่กองทัพก็ฟื้นฟูและทรงอำนาจจนไม่มีประเทศใดในโลกเทียบได้
“เรากำลังเดินหน้าด้วยความเร็วที่ไม่สามารถจินตนาการได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ และเราจะไม่มีวันก้าวถอยหลัง”
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ถูกวิจารณ์ว่าใช้การแถลงนโยบายนี้เป็นเวทีหาเสียงให้ตัวเอง ไม่ใช่การรายงานสภาวะของประเทศหรือภารกิจสำคัญของชาติอย่างที่ควรจะเป็นเหมือนกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนอื่นๆ
โดยในระหว่างปราศรัย เขาพยายามชูตัวเองว่าเป็นสถาปนิกของนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจที่ทำให้อัตราว่างงานลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ และยืนยันว่าชาวอเมริกันทุกคนได้รับประโยชน์จากนโยบายของเขา สวนทางข้อครหาที่ว่านโยบายเศรษฐกิจของเขาเอื้อแต่คนร่ำรวย
“ประชากรทุกคนสามารถเข้าร่วมในความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบของอเมริกา ทุกชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในความรุ่งเรืองที่ไม่ธรรมดาของอเมริกา” ทรัมป์กล่าว
ฉีกคำแถลง
สำหรับการแถลงนโยบายครั้งนี้มีการแสดงท่าทีที่เป็นสัญญาณขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับเปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทผลักดันกระบวนการไต่สวนถอดถอนทรัมป์
ช็อตที่เป็นอีกประเด็นร้อนที่ทั่วโลกพูดถึงก็คือตอนที่ทรัมป์กล่าวหาพรรคเดโมแครตว่ากำลังวางแผนบังคับชาวอเมริกันผู้เสียภาษีให้ยอมเปิดช่องให้ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารได้รับสวัสดิการในระบบประกันสุขภาพที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งสื่อหลายสำนักสังเกตเห็นว่าเปโลซีขยับปาก 2 ครั้งพูดว่า “ไม่จริง”
แล้วก็มาถึงช่วงพีกของงาน ในช่วงสรุปการแถลงนโยบายนั้น เปโลซียังสร้างความตกตะลึงแก่ผู้คนทั่วโลกด้วยการฉีกสำเนาถ้อยแถลงของทรัมป์ทิ้งกลางสภา ในขณะที่คนอื่นๆ รวมถึงคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เปโลซีอย่าง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีและประธานวุฒิสภากำลังยืนปรบมือให้กับทรัมป์
ซึ่งเธอชี้แจงกับสื่อมวลชนในภายหลังว่าการฉีกคำแถลงครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความเห็นต่างอย่างสุภาพ
เรื่องยังไม่จบแค่นี้อย่างแน่นอนกับการเมืองสหรัฐฯ ที่กำลังร้อนฉ่าและเข้าสู่ช่วงฤดูเลือกตั้งแล้ว ซึ่งตัวทรัมป์เพิ่งรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในวุฒิสภา และจะลงชิงชัยกับผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตที่ยังมองไม่ออกว่าใครจะมาเป็นผู้ท้าชิง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/world-us-canada-51381625
- https://6abc.com/politics/trump-extols-great-american-comeback-during-state-of-the-union/5901286/
- https://www.straitstimes.com/world/united-states/trump-touts-his-great-american-comeback-in-state-of-union-speech
