ทีมกฎหมายของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐบาลกลาง โดยขอให้ผู้พิพากษาแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (Special Master) หรือทนายความฝ่ายที่ 3 ที่มีความเป็นกลาง เพื่อดูแลการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด รวมถึงเอกสารลับที่เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI ยึดไว้ได้จากการบุกเข้าค้นรีสอร์ต ‘มาร์อาลาโก’ (Mar-a-Lago) ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศหรูของเขา เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา
พร้อมทั้งขอให้ผู้พิพากษาระงับการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหลักฐานดังกล่าวทั้งหมด จนกว่าการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญพิเศษจะเสร็จสิ้น และขอให้มีการพิจารณาว่า เอกสารที่ FBI ยึดไปนั้นได้รับการคุ้มครองจากเอกสิทธิ์ของประธานาธิบดีที่อนุญาตให้ปกปิดข้อมูลการสื่อสารบางอย่างได้หรือไม่
ตามปกติแล้ว ผู้เชี่ยวชาญพิเศษมักได้รับการแต่งตั้งในคดีอาญา กรณีที่มีข้อกังวลว่าหลักฐานบางอย่างอาจได้รับการคุ้มครองภายใต้เอกสิทธิ์ของทนายความ-ลูกความ หรือการคุ้มครองอื่นใดที่อาจไม่เป็นที่ยอมรับในชั้นศาล
โดยการยื่นฟ้องดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังถูกสืบสวนกรณีการจัดการเอกสารรัฐบาลผิดพลาด ซึ่งในจำนวนเอกสารทั้งหมด 11 ชุดที่ FBI ยึดไว้นั้นมีเอกสารลับด้านความมั่นคงรวมอยู่ด้วย
การยื่นฟ้องของทรัมป์ ถือเป็นการตอบโต้ทางกฎหมายครั้งแรกหลังจากที่ FBI บุกเข้าค้นรีสอร์ตมาร์อาลาโก โดยในคำฟ้องทรัมป์ได้โต้แย้งว่า สิทธิตามรัฐธรรมนูญของเขาถูกละเมิดและอาจมีการยึดหลักฐานที่อาจได้รับการคุ้มครองตามเอกสิทธิ์พิเศษ
ทางด้าน แอนโทนี โคลีย์ โฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า ทางอัยการได้ทราบถึงการยื่นฟ้องของทรัมป์ และจะมีการชี้แจงตอบโต้ในศาล พร้อมยืนยันว่าหมายค้นรีสอร์ตมาร์อาลาโกนั้นได้รับการอนุมัติจากศาลรัฐบาลกลาง เพื่อการสืบหาหลักฐานที่มีความจำเป็น
ภาพ: Photo by James Devaney / GC Images
อ้างอิง: