สำนักข่าว CNN รายงานสถานการณ์วงในของครอบครัวทำเนียบขาวว่าเริ่มมีความแตกแยกทางความคิดเกิดขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงไม่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งแก่ โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต
โดยมีรายงานว่า จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยและที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ รวมถึง เมลาเนีย ทรัมป์ ภริยาและสตรีหมายเลขหนึ่ง กำลังพยายามโน้มน้าวให้ทรัมป์ยอมรับผลเลือกตั้งที่ออกมา ขณะที่ลูกชาย 2 คนของทรัมป์ทั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ หรือดอน จูเนียร์ และเอริก ทรัมป์ ต่างผลักดันบิดาและพันธมิตรให้ต่อสู้เพื่อพลิกผลเลือกตั้่ง
CNN อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดทั้งสองคน ระบุว่าเมลาเนียบอกสามีเป็นการส่วนตัวว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ขณะที่คุชเนอร์ได้บอกทรัมป์ให้ยอมรับความพ่ายแพ้
ทางด้านดอน จูเนียร์ และเอริกซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยทรัมป์หาเสียงเลือกตั้ง เรียกร้องให้บิดาและพันธมิตรยังคงเดินหน้าต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อพลิกผลเลือกตั้ง ขณะที่ผลักดันกลุ่มผู้สนับสนุนและสมาชิกพรรครีพับลิกันให้ประกาศปฏิเสธยอมรับผลเลือกตั้งต่อสาธารณะ
โดย CNN เผยว่าเอริกได้บอกแก่พันธมิตรของบิดาเมื่อไม่นานนี้ว่าเขาเชื่ออย่างแท้จริงว่าการเลือกตั้งนั้นถูกขโมย พร้อมประกาศจะต่อสู้และพลิกผลเลือกตั้ง
ขณะที่ดอน จูเนียร์ พยายามล็อบบี้เหล่าวุฒิสมาชิกและผู้ว่าการรัฐให้ออกแถลงการณ์สนับสนุน หลังจากวิจารณ์พรรครีพับลิกันที่ไม่ให้การสนับสนุนอย่างเพียงพอต่อคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่เชื่อมั่นว่ามีความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ CNN ยังอ้างแหล่งข่าว 3 รายโดยไร้หลักฐานว่าทีมหาเสียงของทรัมป์กำลังวางแผนส่งข้อความเพื่อเพิ่มเชื้อไฟแห่งความขัดแย้ง ด้วยการระบุว่าตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ถูกขโมยไปจากทรัมป์ผ่านคะแนนโหวตที่ทุจริตในรัฐสมรภูมิ (Battleground State)
หนึ่งในวิธีส่งข้อความดังกล่าวคือการเปิดเผยชื่อบุคคลที่ทีมหาเสียงของทรัมป์อ้างว่าเสียชีวิตแล้ว แต่กลับไปใช้สิทธิลงคะแนน ซึ่งทีมหาเสียงกำลังพิจารณาขยายข้อความเหล่านี้ด้วยการเดินสายปราศรัยเหมือนหาเสียงเลือกตั้ง
โดยเป้าหมายของความพยายามนี้คือการเพิ่มข้อสงสัยในความไม่โปร่งใสของผลเลือกตั้งที่มากพอ เพื่อให้เลขาธิการแห่งรัฐในรัฐสมรภูมิต่างๆ รู้สึกกดดันจนต้องเปิดการสืบสวนหรือขอให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งจะทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านประธานาธิบดีของไบเดนยืดเยื้อ และให้เวลาทีมหาเสียงของทรัมป์ในการเดินหน้าต่อสู้ทางกฎหมายด้วยการยื่นฟ้องต่อศาล
อย่างไรก็ตาม CNN ระบุว่าจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้ไม่พบกรณีผู้เสียชีวิตไปลงคะแนนเลือกตั้งตามที่สมาชิกครอบครัวและผู้สนับสนุนทรัมป์กล่าวอ้างถึงแม้แต่กรณีเดียว
สำหรับความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการโพสต์ทวิตเตอร์หลายครั้ง อ้างว่าการเลือกตั้งนั้นถูกขโมยและเกิดปัญหาบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จำนวนมากที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเลือกตั้งทั้งหมด โดยหลายข้อความถูกทวิตเตอร์ติดป้ายเตือน
ขณะที่ทรัมป์ยังเปิดเผยว่าเขาจะพูดเรื่องข้อกล่าวหาโกงเลือกตั้งนี้ในรายการวิทยุของ The Mark Levin Show ซึ่งถือเป็นการแสดงท่าทีต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ไบเดนประกาศชัยชนะ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: