บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ประกาศความพร้อมในการยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานสกัดสาร CBD จากกัญชงทันที หลังจากกฎกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. 2563 เริ่มต้นมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564
ธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้รับซื้อกัญชงในโครงการรับสมัครผู้ปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์ของทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเครือข่ายเกษตรผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตเพาะปลูกกัญชงเป็นจำนวนมาก ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากพืชกัญชง ที่กำลังเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน
พร้อมทั้งกล่าวยอมรับว่า การใช้กัญชงจะต้องขออนุญาตกับทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งการแปรรูปผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือสร้างมูลค่าเพิ่ม และการปลูก ขณะที่ปัจจุบันทาง อย. อยู่ระหว่างการสร้างระบบและแฟลตฟอร์มการยื่นสมัครขออนุญาตเพื่อใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งหากแฟลตฟอร์มการยื่นสมัครขออนุญาตแล้วเสร็จ ทางบริษัทก็สามารถยื่นใบอนุญาตตั้งโรงงานสกัดสาร CBD ในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชง
นอกจากเตรียมยื่นใบอนุญาตตั้งโรงงานสกัดสาร CBD แล้ว บริษัทยังเตรียมยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิต (ที่มิใช่การปลูก) ขอนำเข้า-ส่งออกเมล็ดพันธุ์ พร้อมทั้งเตรียมยื่นขอรับใบอนุญาตจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ และขอใบอนุญาตมีไว้ในครอบครองเมล็ดพันธุ์ด้วยเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ หากบริษัทได้รับใบอนุญาตครบตามที่ยื่นขอ และสามารถผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกัญชงเชิงพาณิชย์ได้ตามที่วางแผนไว้ จะช่วยเพิ่มความพร้อมในการเป็นผู้นำการผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกัญชงได้แบบครบวงจร ที่สำคัญจะส่งผลให้รายได้บริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยลดต้นทุนการผลิต ควบคุมคุณภาพวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีโรงงานสกัดที่เป็นของตนเอง ทำให้เกิด Value Chain ตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ สร้างประโยชน์และมูลค่าเพิ่มให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานสกัดสาร CBD เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะเริ่มดำเนินการขยายโรงงานสกัดสาร เพื่อรองรับการสกัด CBD จากกัญชงในเฟสแรก ซึ่งก็จะสามารถนำสารสกัดจากกัญชงมาเข้าสู่ไลน์การผลิตเชิงพาณิชย์ เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าที่เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ชั้นนำในประเทศเป็นลำดับต่อไป และหากโรงสกัดสาร CBD เฟสแรกประสบความสำเร็จ บริษัทก็มีแผนขยายการลงทุนเพื่อก่อสร้างโรงสกัดสารจากกัญชงในเฟสสอง ซึ่งจะเป็นโรงสกัดที่มีขนาดใหญ่กว่าในเฟสแรก ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นและขยายผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดโลก
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล