ในโลกแห่งการลงทุน หลายคนทราบกันเป็นอย่างดีว่าตลาดสหรัฐอเมริกาคือตลาดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่โลกการลงทุนไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น การลงทุนในตลาดสหรัฐฯ ยังมีความผันผวนอยู่มาก และตลาดยังอ่อนไหวกับข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ
Webull โบรกเกอร์ชั้นนำสัญชาติอเมริการายแรกที่ได้รับใบอนุญาตการให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในไทย จัดสัมมนา ‘คว้าโอกาสและจัดการความเสี่ยงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ’ เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้นักลงทุนในไทยเดินหน้าสู่ตลาดแห่งโอกาสของสหรัฐฯ ในทิศทางที่ถูกต้อง แข็งแรง และเติบโตอย่างมั่นคง
Webull บุกไทย เปิดกว้างโอกาสในตลาดสหรัฐฯ
ชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Webull Thailand กล่าวว่า ประเทศไทยมีนักลงทุนกว่า 2.6 ล้านคน ซึ่งเป็นช่องทางให้เติบโตได้อีกมาก ถือเป็นโอกาสของตลาดมากมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งหุ้นอเมริกา, ETF และออปชัน
สหรัฐอเมริกามี GDP ถึง 1 ใน 4 ของโลก หรือ 25.79% และมีสัดส่วนการตลาดของหุ้นจากสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของหุ้นทั้งโลก และประกอบด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Apple ซึ่งมีมูลค่าการตลาดที่มากกว่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยกว่า 6 เท่า และยังมีหุ้นเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงหุ้นสตาร์ทอัพยักษ์ใหญ่ในตลาดสหรัฐฯ ที่เป็นโอกาสแห่งการลงทุนมากมาย
โอกาสในตลาดสหรัฐฯ
ทิม เอ็ดเวิร์ดส์ (Ph.D) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในดัชนี S&P Dow Jones Indices ฉายภาพถึงตลาดการลงทุนในสหรัฐอเมริกาว่า S&P 500 ที่มีขนาด 50% ของหุ้นสามัญทั่วโลก เป็นตลาดแห่งโอกาสที่ใหญ่กว่าที่เราคิด
ดัชนี S&P 500 ถือเป็นดัชนีหุ้นที่มีความแข็งแรงและแข็งแกร่งสูง โดยในปี 2023 กองทุนหุ้นกว่า 60% มี Performance ที่ต่ำกว่า S&P 500 ถึง 14 ปีติดต่อกัน
อีกทั้งในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมาถึงสิ้นปี 2023 กว่า 93% กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ มี Performance ที่ต่ำกว่า S&P 500
S&P 500 ถือเป็นตลาดที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถรอดพ้นจากตลาดหมี หรือช่วงขาลงของการลงทุนมาแล้ว 12 ครั้ง หากนับตั้งแต่การเริ่มต้นของ S&P 500 ในเดือนมีนาคม ปี 1957 สามารถให้ผลตอบแทนต่อปีได้ 7%
S&P 500 เป็นดัชนีที่มีนักลงทุนหลากหลายคอมมูนิตี้ ทั้งนักลงทุน (Investor) และนักซื้อขาย (Trader) ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ S&P 500 ในปี 2023 สร้างมูลค่าไปกว่า 224 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7,500 ล้านล้านบาท
(หมายเหตุ: ค่าเงินอัปเดต ณ วันที่ 20 กันยายน 2024)
หุ้นสหรัฐฯ กับเลือกตั้งใหญ่ปี 2024
ความกังวลของสองขั้วอำนาจในสหรัฐฯ ที่ต้องชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดียังเพิ่มสูงขึ้น ดัชนีความผันผวน หรือ VIX (Volatility Index) ในเดือนกันยายน 2024 พุ่งขึ้นสูงยาวไปถึงเดือนพฤษภาคม 2025
อย่างไรก็ตาม นั่นอาจไม่แสดงถึงธรรมชาติของตลาดในช่วงการเลือกตั้งได้มากนัก เนื่องจากในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา ผลตอบแทนในไตรมาสที่ 4 ของปี การเลือกตั้งอยู่ที่ 2.3% หากรวมไตรมาสที่ 4 ของทุกปี (ตั้งแต่มีการเลือกตั้ง) จะอยู่ที่ 2.9%
หากเจาะลึกลงไปว่าฝ่ายใดชนะการเลือกตั้งจะส่งผลอย่างไร ผลตอบแทนของตลาดสหรัฐฯ ก็ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ หากเป็นพรรคเดโมแครตพรรคเดียวจะอยู่ที่ราว 18-19% หากเป็นฝั่งรีพับลิกันจะอยู่ที่ 17-22% หากผลจบลงที่ชนะกันในคนละสภา ผลตอบแทนจะอยู่ที่ระดับ 10-15% แสดงให้เห็นว่าผลการเลือกตั้งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ น้อยมาก แม้จะเกิดความผันผวน แต่ผลตอบแทนยังอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
ความเสี่ยงที่ถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งในปี 2016 ที่ต้องติดตามคือ กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม และทำผลงานขึ้นและลงสวนทางกัน ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงคืออาวุธที่จะต้องใช้ในช่วงเวลาอันใกล้นี้
0DTE สัญญาออปชัน ทางเลือกใหม่ในตลาด
ชารอน อัง CFA, หัวหน้าฝ่ายขายตราสารอนุพันธ์ระดับโลกประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจาก Cboe กล่าวแนะนำให้รู้จักกับ Cboe ผู้เชี่ยวชาญด้านตราสารอนุพันธ์จากสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของ Cboe
ชารอนกล่าวว่า ตลาดตราสารอนุพันธ์ของสหรัฐฯ มีการเติบโตอย่างรวดเร็วใน 4 ปีติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาออปชันที่หมดอายุในวันเดียว หรือ ‘0DTE’ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
ชารอนเปิดเผยว่า สัญญาออปชัน 0DTE เติบโตมากถึง 21% ในเวลาเพียง 5 ปี เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า สามารถย้ายเปลี่ยนสินทรัพย์ได้คล่องตัวกว่า สามารถหลบหลีกความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การพัฒนาของการซื้อขายของ 0DTE ในปี 2022 ทำให้การเติบโตของออปชันนี้พุ่งขึ้น 43% ในปี 2023
เมื่อต้นปี 2023 วอลุ่มสัญญา 0DTE มีเกือบ 50% หรือราว 1.19 ล้านวอลุ่มของปริมาณการซื้อขายในออปชันของดัชนี S&P 500 (SPX) ปัจจัยที่ทำให้การซื้อขายในสัญญานี้เพิ่มขึ้น รวมถึงการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ลดลงและความสะดวกในการเข้า
ชารอนกล่าวถึงความร่วมมือกับ Webull Thailand ว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ Cboe มีตัวเลือกออปชันมากมาย รวมถึง 0DTE ให้กับคนไทย ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญอย่างมาก และร่วมมือกับทาง Webull Thailand ในการสร้างคอนเทนต์ความรู้และการลงทุนที่เหมาะกับไทยและนักลงทุนโดยเฉพาะว่าสนใจอะไร อยากลงทุนอะไร เพื่อให้มีความรู้ก่อนจะไปลงทุน โดยร่วมมือกับ KOL เพื่อให้ความรู้ต่างๆ กับนักลงทุนผ่านกูรูและสร้างคอมมูนิตี้ของการลงทุน
Webull โอกาสที่คนไทยจะได้เทรดแบบคนอเมริกัน
การมาของ Webull สู่ประเทศไทยในครั้งนี้ ชลเดช เขมะรัตนา เล็งเห็นถึงโอกาสในการเปิดโลกการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้แก่คนไทยมากขึ้น มีการวางเป้าหมายในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้าเอาไว้ว่า จะต้องมีการเปิดบัญชีแอ็กทีฟในประเทศไทยเป็นจำนวน 2 แสนบัญชีเป็นอย่างน้อย
Webull เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำสำหรับการเทรดหุ้นของสหรัฐฯ รายแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งยังมีจุดแข็งและความพิเศษที่จะเข้ามาตอบโจทย์นักลงทุนไทยในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกมากมาย
- การมีตัวเลือกลงทุนหุ้นสหรัฐฯ โดยตรงกว่า 15,000 บริษัทชั้นนำ
- มีกองทุน ETF รวมถึงสัญญาออปชันในรูปแบบดัชนี
- การอัปเดตราคาสินทรัพย์แบบเรียลไทม์
- บริการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและบาทไทยตลอด 24 ชั่วโมง
- เก็บอัตราค่าคอมมิชชันที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.10% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานสัมมนาคือ โปรโมชันพิเศษสำหรับผู้เปิดบัญชีกับทาง Webull
- ค่าคอมมิชชัน 0% ในช่วง 90 วันแรกทันทีหลังการเปิดบัญชีสำเร็จ
- ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้ เวลา 17.00 น. – 31 ตุลาคม 2024 เวลา 16.59.59 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
- สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่เทรดผ่าน Webull อยู่แล้ว รับฟรีค่าคอมมิชชัน 0% ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2024*
*แคมเปญค่าคอมมิชชัน 0% สำหรับผู้ใช้เดิม:
- ผู้มีสิทธิ์: ผู้ใช้ทุกคนที่มียอดเงินฝากแล้วก่อนวันที่ 16 กันยายน 2024 เวลา 17.00 น. (ไม่ต้องดำเนินการใดๆ)
- รางวัล: ช่วงเวลาปลอดค่าคอมมิชชันตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน เวลา 17.00 – 15 ธันวาคม 2024 เวลา 16.59.59 น.
**แคมเปญค่าคอมมิชชัน 0% สำหรับผู้ใช้ใหม่:
- ผู้มีสิทธิ์: ผู้ใช้ทุกคนที่เปิดบัญชีสำเร็จหลังวันที่ 16 กันยายน 2024 เวลา 17.00 น.
- รางวัล: ช่วงเวลาปลอดค่าคอมมิชชัน 90 วันนับจากวันที่เปิดบัญชีสำเร็จ
***รายละเอียดแคมเปญฝากเงิน:
1. ระยะเวลาแคมเปญ: วันที่ 16 กันยายน เวลา 17.00.00 น. – 31 ตุลาคม 2024 เวลา 16.59.59 น.
- เงื่อนไข:
(1) ฝากเงินสุทธิสะสมจำนวน 20,000 บาทภายในระยะเวลาแคมเปญ และรักษายอดเงินฝากนี้เป็นเวลา 30 วันนับจากวันที่มียอดเงินฝากสุทธิครบ 20,000 บาท
(2) ซื้อขาย 5 รายการภายในระยะเวลาแคมเปญ
- รางวัล:
-
- หุ้นฟรีมูลค่า 1,000 บาท (สุ่มจาก NVDA, MSFT, BRKB, GOOG, AAPL และ TSLA)
- ทั้งหมดนี้เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยชาวไทยสามารถเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากตลาดสหรัฐฯ ได้มากยิ่งขึ้น ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลต่อนักลงทุนเป็นหลัก