×

จับตาดีล Disney ซื้อ Fox กับอาณาจักรที่ใหญ่กว่าจักรวาลหนัง Marvel

28.06.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • Disney บรรลุข้อตกลงซื้อธุรกิจบันเทิงของ 21st Century Fox มูลค่า 7.13 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นเงื่อนไขว่า Disney ต้องขายเครือข่ายช่องกีฬาท้องถิ่นของ Fox ซึ่งสร้างรายได้ราว 1 พันล้านเหรียญต่อปี เพื่อป้องกันการผูกขาดธุรกิจบรอดแคสติ้งรายการกีฬาในสหรัฐฯ เพราะ Disney มี ESPN ครองตลาดอยู่ก่อนแล้ว
  • การควบรวมกิจการกับ Fox จะช่วยขยายอาณาจักรของ Disney ทั้งในด้านแฟรนไชส์ภาพยนตร์และรายการทีวีของ Fox ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งกันกับผู้เล่นที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง Netflix และ Amazon.com
  • ดีลนี้ยังเพิ่มความหวังให้กับสาวกหนัง Marvel ที่อาจได้เห็นตัวละคร X-Men ของ Fox ไปโลดแล่นในจักรวาลภาพยนตร์ Marvel ของ Marvel Studios และ Disney

ดีลควบรวมธุรกิจบันเทิงครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง 2 บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Disney และ 21st Century Fox กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว หลังกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ไฟเขียวให้ Disney ซื้อกิจการทีวีและภาพยนตร์ของ Fox ได้ แต่หน่วยงานแอนตี้ทรัสต์ของสหรัฐฯ ได้กำหนดเงื่อนไขให้ Disney ต้องขายเครือข่ายช่องกีฬาท้องถิ่นของ Fox ก่อน เพื่อป้องกันการผูกขาดธุรกิจแพร่ภาพการแข่งขันกีฬาแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจาก Disney เป็นเจ้าของ ESPN ซึ่งครองตลาดสหรัฐฯ อยู่ก่อนแล้ว

 

สำหรับดีลที่ Disney ตกลงกับ 21st Century Fox นั้นมีมูลค่าประมาณ 7.13 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าเมื่อตอนที่ตกลงกันที่มูลค่า 5.24 หมื่นล้านเหรียญในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดย Disney จะชำระในรูปเงินสดและหุ้นที่ราคา 38 เหรียญต่อหุ้น อย่างไรก็ตามคาดว่า Comcast คู่แข่งตัวเป้งของ Disney อาจยังไม่ยอมยกธงขาวยอมแพ้เพียงแค่นี้ และพร้อมที่จะทุ่มเงินตัดหน้า Disney ด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า

 

ถึงแม้กระทรวงยุติธรรมจะอนุมัติดีลนี้ แต่มีข้อแม้ว่า Disney จะต้องขายเครือข่ายช่องกีฬาท้องถิ่นของ Fox รวม 22 เครือข่ายก่อน ซึ่งตามข่าวล่าสุด Disney ก็ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว หลังจากที่เคยเปรยในเอกสารถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ก่อนหน้านี้ว่าพวกเขามีความประสงค์จะขายเครือข่ายช่องกีฬา ซึ่งสร้างรายได้เฉลี่ย 1 พันล้านเหรียญต่อปีให้กับ Fox

 

ก.ล.ต. มีความกังวลว่า Disney อาจผูกขาดตลาดสื่อกีฬาในสหรัฐฯ เนื่องจาก Disney เป็นเจ้าของเครือข่าย ESPN ที่ครองตลาดอยู่ก่อนแล้ว ด้วยจำนวนสมาชิก (Subscribers) ถึง 88 ล้านราย ขณะที่การควบรวมธุรกิจสื่อกีฬาจะทำให้ตลาดไม่เกิดการแข่งขัน ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าสมาชิกแพงขึ้นและไม่เป็นผลดีต่อผู้บริโภค

 

“ผู้บริโภคชาวอเมริกันจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันกันซึ่งหน้าระหว่างผู้ให้บริการบรอดแคสต์รายการกีฬาของ Fox กับ Disney เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าสมาชิกเคเบิลทีวีแพงขึ้น” มาคาน เดลราฮิม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประจำกรมป้องกันการผูกขาดธุรกิจแถลงต่อสื่อมวลชน “ข้อตกลงในวันนี้จะช่วยสร้างหลักประกันว่า การแข่งขันในธุรกิจบรอดแคสต์รายการกีฬาในตลาดท้องถิ่นสหรัฐฯ ยังคงถูกสงวนอยู่”

 

สำหรับปฏิกิริยาในตลาดต่อข่าวความคืบหน้าของดีลนี้นับว่าคึกคักทีเดียว โดยหุ้นของ Fox ทะยานขึ้น 2% แตะ 48.59 เหรียญในการซื้อขายที่ตลาดหุ้น Wall Street เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้มูลค่าทางการตลาดของบริษัท Fox ซึ่งมีอภิมหาเศรษฐีและเจ้าพ่อสื่ออย่าง รูเพิร์ต เมอร์ด็อก เป็นเจ้าของ พุ่งแตะระดับ 8.96 หมื่นล้านเหรียญ

 

Disney ได้อะไรจากดีล Fox

นอกจากสตูดิโอผลิตรายการทีวีและภาพยนตร์ของ Fox แล้ว Disney ยังต้องการซื้อธุรกิจสื่ออื่นๆ ของ Fox ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ประกอบด้วยบริษัทสื่อ Star India ในอินเดีย, ช่องเคเบิลทีวี National Geographic และ FX รวมถึงสินทรัพย์ที่เป็นหุ้น แบ่งเป็นหุ้นจำนวน 30% ของ Fox ในธุรกิจบริการสตรีมมิง Hulu และหุ้น 39% ของ Fox ใน Sky ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบรอดแบนด์และธุรกิจ Pay-TV ยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ

 

แต่ดีลดังกล่าวไม่ได้รวม Fox News และ Fox Business ซึ่งเป็นธุรกิจสื่อสำคัญของ Fox

 

นอกจากอาณาจักรธุรกิจบันเทิงที่ใหญ่ขึ้นของ Disney แล้ว พวกเขายังได้ลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ภาพยนตร์และรายการทีวีจาก Fox ด้วย ซึ่งหมายถึงการเพิ่มขีดความสามารถของ Disney ในการต่อกรกับคู่แข่งที่เติบโตอย่างรวดเร็วบนแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Netflix และ Amazon.com รวมถึง Facebook ด้วย

 

ความหวังในการขยายจักรวาลภาพยนตร์ Marvel

แน่นอนว่าดีลระหว่าง Disney กับ Fox เป็นที่จับตาไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นการควบรวมกิจการระหว่าง 2 บริษัทสื่อและค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของฮอลลีวูด โดยเหล่าสาวกหนัง Marvel ต่างก็ลุ้นอย่างใจจดใจจ่อให้ดีลนี้เกิดขึ้นเสียที เพราะพวกเขาอยากเห็นเหล่าซูเปอร์ฮีโร่กลุ่ม Fantastic Four และมนุษย์กลายพันธุ์ X-Men ซึ่งเดิมเป็นลิขสิทธิ์ของ Fox ไปโลดแล่นอยู่ในจักรวาลภาพยนตร์ Marvel (Marvel Cinematic Universe) หรือ MCU ร่วมกับ Avengers ของ Marvel Studios ที่มี Disney เป็นเจ้าของ

 

ล่าสุดมีข่าวดีเพิ่มว่า Marvel และผู้ถือลิขสิทธิ์ตัวละคร X-Men ใกล้บรรลุข้อตกลงร่วมกันแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Disney เคยแย้มว่าการซื้อกิจการของ 21st Century Fox จะช่วยให้ Disney มีตัวละครและเรื่องราวเพิ่มขึ้นในการนำไปสร้างหนัง

 

นอกจาก X-Men และ Fantastic Four แล้ว Fox ยังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แฟรนไชส์หนัง Avartar และ The Simpsons ด้วย ลองนึกภาพดูว่าถ้าดีลนี้เกิดขึ้นจริง อาณาจักรภาพยนตร์ของ Disney จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน เมื่อรวมกับของเดิมที่มีอยู่อย่าง Marvel Studios, ABC, Pixar และ Lucasfilm ซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์มหากาพย์ฟอร์มยักษ์อย่าง Star Wars ด้วย

 

และที่สำคัญดีลนี้จะทำให้ Disney ครอบครองตัวละครดังที่เป็นขวัญใจของผู้คนทั่วโลกตั้งแต่ Mickey Mouse, เจ้าหญิง Disney, ปลาการ์ตูน Nemo, ชาวนาวีใน Avartar, Luke Skywalker และเหล่าอัศวินเจไดจาก Star Wars รวมทั้ง Iron Man และ Captain America จาก Avengers ไปจนถึง Wolverine ซึ่งทั้งหมดนี้ Disney จะสามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้อีกมหาศาล

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดีลจะผ่านฉลุยแต่ยังไม่เสร็จขั้นตอนที่สมบูรณ์ เพราะภายใต้ข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ Disney มีเวลา 90 วันนับจากวันที่ปิดดีลกับ Fox ในการขายเครือข่ายเคเบิลทีวีและดาวเทียมช่องกีฬาของ Fox ซึ่งครอบคลุมเครือข่ายเคเบิลทีวี Fox Sports West and Prime Ticket, YES (ทีวีดาวเทียมและเคเบิลที่ถ่ายทอดการแข่งขันของทีมเบสบอล New York Yankees), และ Fox Sports Ohio and SportsTime Ohio ด้วย

 

นอกจากนี้กรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Fox ยังต้องโหวตเห็นชอบดีลนี้ก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งการโหวตจะมีขึ้นในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้

 

Comcast สู้ต่อไหม

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Comcast กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและเคเบิลทีวียักษ์ใหญ่ยอมยื่นข้อเสนอจำนวน 6 หมื่นล้านเหรียญให้ Fox พิจารณา ซึ่งมากกว่าที่ Disney เสนอให้ Fox ในตอนแรก (5.24 หมื่นล้านเหรียญ) แต่ Disney ได้ตัดสินใจเกทับเพิ่มให้อีกเป็น 7.13 หมื่นล้านเหรียญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

อย่างไรก็ดี Comcast ยังไม่ได้ประกาศว่าจะเพิ่มวงเงินสู้กับ Disney หรือไม่ แม้มีกระแสข่าวว่าพวกเขาอาจฮึดสู้อีกสักตั้งก็ตาม ขณะที่หนังสือพิมพ์ธุรกิจชั้นนำอย่าง The Wall Street Journal รายงานว่า Comcast กำลังเจรจาหาพาร์ตเนอร์รายอื่นๆ เพื่อนำเงินสดมาสมทบเพิ่มก่อนยื่นข้อเสนอใหม่ให้ Fox พิจารณาอีกครั้ง

 

ส่วน Fox ก็แย้มเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าพวกเขายังคงเปิดรับข้อเสนอจากบริษัทอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนั้นดีลนี้จึงอาจยังไม่จบลงง่ายๆ และยังต้องตามดูกันต่อไป

 

แต่ดูแล้วรัฐบาลสหรัฐฯ เองก็สนับสนุนดีลนี้อยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อพิจารณาจากกรอบเวลาที่หน่วยงานแอนตี้ทรัสต์อนุมัติภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนนับจากวันที่ 2 บริษัทประกาศบรรลุข้อตกลงแล้ว ก็ถือว่าเร็วมากหากเทียบกับดีลควบรวมกิจการของบริษัทอื่นๆ ในอดีต ขณะที่นักวิเคราะห์เคยคาดไว้ว่าอาจต้องใช้เวลามากถึง 18 เดือนเลยด้วยซ้ำ

 

ก่อนหน้านี้ Comcast ต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีก่อนที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ จะอนุมัติดีลการควบรวมกิจการกับ NBCUniversal หลังจากที่ 2 บริษัทประกาศบรรลุข้อตกลงตั้งแต่ปลายปี 2009

 

ขณะที่ดีลระหว่าง AT&T กับ Time Warner บริษัทแม่ของ CNN ก็เผชิญกับอุปสรรคไม่น้อย หลังกระทรวงยุติธรรมพยายามขัดขวางด้วยการส่งเรื่องให้ศาลตัดสิน หลังจาก AT&T ใช้เวลากว่า 18 เดือนในการยื่นขออนุมัติ

 

ฮอล ซิงเกอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันนโยบายสาธารณะแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน มองว่าดีลนี้ได้ข้อสรุปเร็วกว่าที่คาด ขณะที่ Disney ต้องการปิดดีลนี้โดยเร็วที่สุด เพราะถ้ายิ่งช้า โอกาสที่ Comcast จะยื่นข้อเสนอใหม่เข้ามาก็มีสูงขึ้น

 

ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Comcast แล้วว่าจะยอมสู้อีกเฮือกไหม ถ้ายอมยกธงขาว ก็หมายถึง Disney จะเป็นฝ่ายคว้าเค้กชิ้นโต ซึ่งสำหรับแฟนๆ Marvel แล้ว เชื่อว่าพวกเขาเทใจเชียร์ Disney อย่างแน่นอน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising