ก่อนหน้านี้กลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบด้วย 1.บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP, 2. บริษัท บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด, 3. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), 4. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ 5. บริษัท โอเรียนท์ ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้เพิกถอนมติไม่รับซองข้อเสนอบางส่วน
ใจความสำคัญของการยื่นฟ้องคือ การยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งได้กำหนดเปิดการยื่นซองในวันที่ 21 มีนาคม 2562 เวลา 09.00 น. และปิดการรับซองในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ซึ่งกลุ่มธนโฮลดิ้งและพันธมิตร ได้ยื่นซองข้อเสนอ ประกอบด้วย เอกสารซองที่ไม่ปิดผนึก เอกสารซองที่ 1 คุณสมบัติทั่วไป เอกสารซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ เอกสารซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา และเอกสารซองที่ 4 ข้อเสนออื่นๆ รวม 11 กล่อง พร้อมกล่องสำเนาและเจ้าหน้าที่ได้ออกหลักฐานรับรองแล้ว
แต่ปรากฏว่า ทางกลุ่มได้มีหนังสือแจ้งผลการยื่นข้อเสนอจากคณะกรรการคัดเลือกที่ระบุว่า มีมติไม่รับข้อเสนอในส่วนของซองที่ 2 คือข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 เนื่องจากเป็นเอกสารที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นข้อเสนอ กลุ่มธนโฮลดิ้งและพันธมิตรมองว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล และขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติดังกล่าว และรับซองข้อเสนอไว้พิจารณาตามขั้นตอนการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนต่อไป
ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลักเกณฑ์การคัดเลือกดังกล่าวได้กำหนดขึ้นเพื่อให้การแข่งขันในการยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเสมอภาคและเป็นธรรม และเพื่อป้องกันมิให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกัน อันเป็นหน้าที่ของผู้ถูกคณะกรรมการในฐานะผู้ทำหน้าที่คัดเลือกคู่สัญญาจะต้องวางตัวเป็นกลางและรักษากติกา กล่าวคือต้องดำเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยไม่เลือกปฏิบัติ
สำหรับข้อเท็จจริงนั้นปรากฏว่า ในวันยื่นซองข้อเสนอเวลาประมาณ 12.21 น. กลุ่มผู้ฟ้องได้นำข้อเสนอซองไม่ปิดผนึกมายังสถานที่รับซอง และเวลา 13.52 น. มีการนำซองข้อเสนออีกจำนวน 8 กล่อง ต่อมาในเวลา 15.00 น. คณะทำงานรับและจัดเก็บเอกสารข้อเสนอตรวจสอบหมายเลขซองข้อเสนอที่ระบุบนกล่องข้อเสนอทั้งหมด ซึ่งตอนแรกแจ้งความประสงค์ที่จะยื่นข้อเสนอจำนวนทั้งหมด 11 กล่อง แต่ข้อเสนอมีเพียง 9 กล่องเท่านั้นที่มาถึง โดยขาดข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 (ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ) และกล่องที่ 9 (ซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา)
ต่อมาเวลาประมาณ 15.09 น. ซองข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 มาถึงยังสถานที่รับซอง ซึ่งมีการชี้แจงเพิ่มเติมว่า การส่งมอบเอกสารดังกล่าวล่าช้า เนื่องจากการจราจรติดขัด ศาลเห็นว่าเอกสารซองข้อเสนอจำนวน 2 กล่องมาถึงยังสถานที่รับซองภายหลังเวลา 15.00 น. อันเป็นกำหนดเวลาปิดการรับซองตามที่ระบุไว้แล้ว
คณะกรรมการคัดเลือกย่อมมีหน้าที่ปฏิเสธไม่รับกล่องดังกล่าวไว้พิจารณา โดยไม่สามารถพิจารณายกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนรายใดรายหนึ่ง และทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้น มติของคณะกรรมการในการประชุม ครั้งที่ 6/2562 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 ที่ไม่รับซองข้อเสนอร่วมลงทุน จึงชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนข้ออ้างที่ว่าคณะกรรมการได้รับซองข้อเสนอทั้งหมดไว้แล้วในวันนั้น โดยไม่ได้อิดเอื้อนหรือมีท่าทีปฏิเสธ และได้เลื่อนการเปิดซองข้อเสนอซองที่ 1 (คุณสมบัติทั่วไป) ของผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายออกไป และยังมีการชำระค่าธรรมเนียมประเมินซองข้อเสนอและหลักประกันซอง ศาลเห็นว่ากรณีนี้คณะกรรมการไม่ต้องปฏิเสธไม่รับข้อเสนอที่ยื่นเกินเวลา ในเวลาที่มีการยื่นแต่อย่างใด หากข้อเท็จจริงปรากฏชัดในภายหลัง ย่อมมีสิทธิ์ปฏิเสธไม่รับได้ ข้ออ้างของกลุ่มธนโฮลดิ้งและพันธมิตรไม่อาจรับฟังได้ ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
