เมื่อโลกธุรกิจเปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation: DX) ได้กลายเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลและทรัพยากรบุคลากร บทความนี้จะสำรวจแนวทางของ FUJIFILM Business Innovation ที่เป็นผู้นำด้าน DX พร้อมเจาะลึกถึงกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรปรับตัวและเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง
ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของ DX มีผลอย่างมากต่อการเติบโตของรายได้
‘Digital Disparity’ หรือ ‘ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล’ หมายถึงช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและองค์กรที่ไม่สามารถทำได้ ซึ่งคำนี้ถูกบัญญัติโดยหนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น
องค์กรในปัจจุบันต้องสร้างการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลเพื่อสร้างแต้มต่อ
ในปี 2021 บริษัทขนาดใหญ่ที่สามารถนำการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมีอัตราการเติบโตสูงกว่าบริษัทที่ไม่ทำถึง 5 เท่า และแนวโน้มนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในวิธีการดำเนินธุรกิจของบริษัทกำลังจะมาถึง แม้จะมีความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็เปิดโอกาสสำคัญสำหรับผู้ที่เตรียมพร้อม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมีศักยภาพในการสร้างสภาพแวดล้อมขององค์กรที่เอื้อต่อการใช้ศักยภาพของบุคลากรให้สามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ สิ่งนี้จะกระตุ้นให้องค์กรพัฒนาเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ปี 1962 เป็นปีที่ Fuji Xerox ก่อตั้งขึ้น และได้รีแบรนด์เป็น FUJIFILM Business Innovation ในปัจจุบัน บริษัทเดินหน้าเพื่อก้าวไปสู่แนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัล ซึ่งเรียกว่า ‘Business DX’ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มคุณค่าของข้อมูลและทำให้การสื่อสารรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ องค์กรของเรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลสำคัญสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับทุกคน
ทรัพย์สินที่สำคัญที่สุด 2 อย่างของธุรกิจ คือข้อมูลและบุคลากร เราอาจสงสัยว่าการให้ความสำคัญกับทั้ง 2 สิ่งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร?
FUJIFILM Business Innovation ภายใต้การนำของ นาโอกิ ฮามะ ประธานและซีอีโอ ได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่แท้จริง และวิธีที่จะนำไปสู่การปฏิวัติธุรกิจที่ลึกซึ้ง
การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่แท้จริงหมายถึงอะไร?
นาโอกิ ฮามะ Director และ Chief Executive Officer แห่ง FUJIFILM Business Innovation
เป็นระยะเวลากว่า 60 ปีที่ นาโอกิ ฮามะ เห็นกระบวนการทำงานของบริษัทและองค์กรในเอเชียแปซิฟิกอย่างใกล้ชิดและมุ่งมั่นสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลเหล่านี้ นำมาซึ่งประโยชน์และสร้างคุณค่าให้กับผู้คนต่อไป
กว่า 60 ปีที่ผ่านมา FUJIFILM มุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพของความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลและบุคลากร
“แม้หลังจากที่เราเปลี่ยนชื่อเป็น FUJIFILM Business Innovation ในปี 2021 เราก็ยังคงมุ่งเน้นความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างข้อมูลและบุคลากร” ฮามะกล่าว
ข้อมูล บุคลากร: ทรัพย์สินองค์กรที่ต้องสร้างความสัมพันธ์กัน
“เมื่อ 30 ปีก่อน ธุรกิจของเราส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในรูปแบบหนึ่ง แม้ปัจจุบันธุรกิจของเราได้เปลี่ยนไปสู่โซลูชันและบริการต่างๆ แต่ความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพยังคงเหมือนเดิม”
คำว่า ‘DX’ มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งหมายความว่าต้องแสวงหาคำตอบที่ตอบโจทย์ในแต่ละช่วงเวลาอยู่เสมอ
ฮามะกล่าวต่อว่า “เราจะผสานความรู้ด้านการใช้ข้อมูลที่เปรียบเสมือน DNA ของเราให้เข้ากับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดัน DX อย่างแข็งแกร่งและเพิ่มคุณค่าของข้อมูลให้สูงสุด”
DX ที่แท้จริงต้องนำเสนอคุณค่าที่เหมาะสมให้กับแต่ละองค์กร
เมื่อพูดถึง DX ผู้คนมักเข้าใจว่าคือการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิทัล แต่ นาโอกิ ฮามะ ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ไม่ควรหยุดเพียงแค่นั้น
“สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบรรลุการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในวงกว้าง อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและการสร้างคุณค่า เมื่อรูปแบบการทำงานมีความหลากหลายมากขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานในรูปแบบที่ยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ สิ่งนี้จะช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีความซับซ้อนและมีคุณค่ามากขึ้นต่อองค์กร ผมเชื่อว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ด้วยความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจที่เราได้สั่งสมมาเป็นเวลานานในฐานะองค์กร รวมถึงโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมที่เรานำเสนอ แทนที่จะหยุดอยู่เพียงการแปลงข้อมูลให้เป็นดิจิทัล เป้าหมายสูงสุดควรเป็นการพัฒนาแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร”
การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลต้องมากกว่าการเปลี่ยนเทคโนโลยี
“เราจะปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจและสร้างโซลูชันที่ดีที่สุดได้อย่างไร สำหรับแต่ละองค์กร การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างแท้จริงหมายถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมและการปรับระบบที่มีอยู่ให้เหมาะสม”
ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่กระบวนการนี้จะต้องได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร เพราะการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือที่มีอยู่มาใช้เพียงอย่างเดียว
ความสำเร็จ DX ที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศและภูมิภาค
แม้ FUJIFILM Business Innovation จะมีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในหลายประเทศ นาโอกิ ฮามะ ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างมีนัยสำคัญ
“เรามีพื้นฐานในการขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ แต่เหตุผลสำคัญคือภูมิภาคนี้มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวเพื่อรองรับกับ DX ได้อย่างรวดเร็ว”
เมื่อมองถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด FUJIFILM Business Innovation เห็นถึงพื้นที่แห่งโอกาสที่สามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด
“การลอกเลียนแบบความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือเราต้องพัฒนาและเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละประเทศหรือภูมิภาคอย่างลึกซึ้ง จากนั้นจึงจะประเมินว่าแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลแบบใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบริษัทแต่ละแห่งในพื้นที่นั้น”
นาโอกิ ฮามะ ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในเอเชียแปซิฟิก โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะสามารถช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ การพัฒนาองค์กร และวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เร่งความสำเร็จขององค์กรด้วยการบูรณาการและการใช้ข้อมูลอย่างมีกลยุทธ์
นาโอกิ ฮามะ อธิบายเกี่ยวกับปัจจัยที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างแท้จริงภายในองค์กร โดยกล่าวว่า
“เพื่อยกระดับความสำเร็จขององค์กรอย่างแท้จริง สิ่งสำคัญคือการก้าวข้ามการเชื่อมต่อรูปแบบข้อมูลและระบบต่างๆ เพียงอย่างเดียว เราจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่บูรณาการอย่างสมบูรณ์ โดยจัดระเบียบและแบ่งปันข้อมูลที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการสื่อสารระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร แนวทางนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและตัดสินใจได้อย่างคล่องตัว”
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือสมาชิกทุกคนในองค์กรต้องจัดการข้อมูลภายใต้สภาพแวดล้อมและเงื่อนไขเดียวกัน
“การแสดงข้อมูลในรูปแบบที่มองเห็นได้สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่อาจมองข้ามไป เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่การค้นพบมุมมองใหม่ๆ และการสร้างคุณค่าในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยกระบวนการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ จัดการ และการใช้ข้อมูลอย่างเหมาะสม เราจะเพิ่มมูลค่าของข้อมูลนี้ให้สูงสุด ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นขององค์กร”
เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ FUJIFILM Business Innovation ได้นำเสนอโซลูชันล้ำสมัยที่พัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญที่โดดเด่น
“ในปัจจุบัน เรานำเสนอ FUJIFILM IWpro บริการที่พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงแนวคิด ‘พลังแห่งการร่วมสร้างสรรค์’ (Co-Creation) ซึ่งช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เรายังมีบริการ IT Expert Services ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ‘การสนับสนุนด้านไอทีอย่างครอบคลุม’ โดยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านไอที และรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมทางด้านไอทีของพวกเขา เราเชื่อว่าความมุ่งมั่นที่ยาวนานต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กรทำให้เราสามารถนำเสนอบริการที่โดดเด่นเหล่านี้ได้”
FUJIFILM IWpro ‘พลังแห่งการร่วมสร้างสรรค์’
FUJIFILM IWpro เป็นบริการคลาวด์ที่มอบ ‘สภาพแวดล้อมแบบบูรณาการ’ ซึ่งช่วยให้การเก็บรวบรวมข้อมูล การใช้ประโยชน์จากข้อมูล และการจัดเก็บข้อมูล เป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมกับยกระดับคุณภาพการทำงานในแต่ละด้านได้อย่างรวดเร็ว
FUJIFILM IWpro
บริการนี้มีศักยภาพในการ ‘ร่วมสร้างสรรค์’ สามารถนำเข้าข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และแบ่งปันข้อมูลสำคัญจากแหล่งต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล โทรสาร รูปภาพ ไฟล์ดิจิทัลหรือเอกสารในรูปแบบกระดาษ โดยการรวมระบบที่มีอยู่ทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มเดียว FUJIFILM IWpro ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการและส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กร ช่วยให้การแบ่งปันข้อมูลและการตัดสินใจเป็นไปอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมการทำงานที่รวมเป็นหนึ่งเดียว
FUJIFILM IWpro เป็นบริการที่ล้ำสมัยด้านการร่วมสร้าง ซึ่งลดความจำเป็นในการแทรกแซงของมนุษย์ในทุกขั้นตอน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานแบบใหม่จาก ‘การเชื่อมงานด้วยคน’ สู่ ‘การเชื่อมคนด้วยข้อมูล’
IT Expert Services ‘พลังแห่งการเดินเคียงข้าง’
IT Expert Services สร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ปลอดภัย ด้วยการสนับสนุนด้านไอทีแบบครบวงจร IT Expert Services เป็นการให้บริการสนับสนุนด้านไอทีที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน ได้แก่
- การให้ความช่วยเหลือแบบครบวงจร ตั้งแต่ติดตั้งอุปกรณ์ไอทีไปจนถึงดูแลการใช้งาน
- การบริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีนี้ยังครอบคลุมถึงการให้บริการแบบระยะไกลและการให้บริการที่สำนักงานของลูกค้า เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือด้านการใช้งาน รวมถึงสามารถวิเคราะห์สาเหตุเมื่อเกิดปัญหา ตอบคำถามจากลูกค้า ช่วยเหลือด้านการใช้งาน จัดการสินทรัพย์ และรายงานสถานะ
- สามารถผสมผสานบริการที่จำเป็นโดยสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการตามแต่ละสถานการณ์ได้
- สร้างสภาพแวดล้อมด้านไอทีที่ยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพ
- ช่วยลดภาระงานด้านไอทีและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านไอทีของบริษัท
สิ่งเหล่านี้คือ ‘พลังแห่งการเดินเคียงข้าง’ จะคอยสนับสนุนการบริการด้านไอทีในทุกๆ ด้านเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลและบุคลากรเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
นาโอกิ ฮามะ กล่าวถึงเป้าหมายสูงสุดไว้ว่า “การเพิ่มมูลค่าของข้อมูลสูงสุดจะช่วยให้องค์กรยังคงสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จได้ นี่คือพันธกิจของเรา และด้วยวิธีนี้เราจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่ทำงานในองค์กรเหล่านี้”
ไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงเลยที่จะบอกว่า ในโลกปัจจุบันหากไม่สามารถก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้ องค์กรอาจเผชิญกับความล้มเหลวในที่สุด
การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลคือทางรอดในโลกปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่าในโลกธุรกิจ ผู้คนจะเปิดรับการเปลี่ยนแปลงนี้และสามารถเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้นได้ “ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเราจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองเช่นกัน ด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ผมหวังว่าจะช่วยให้องค์กรมีศักยภาพที่จะบรรลุผลลัพธ์และการเติบโตในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน”
นาโอกิ ฮามะ กล่าวด้วยความมุ่งมั่นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนี้ เราจะศึกษาจากบริษัทที่ได้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงแล้ว เพื่อเรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลต่อการพัฒนาธุรกิจโดยรวมอย่างไร ผู้บุกเบิกในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเหล่านี้อาจมอบข้อมูลเชิงลึกที่ทรงคุณค่าต่อสิ่งที่อนาคตจะนำพามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: