โลกธุรกิจในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้วัดกันที่ขนาดของบริษัทเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เป็นการวัดกันที่ ใครเข้าใจการเปลี่ยนแปลงและลงมือปรับตัวได้เร็วกว่า
เอเชียแปซิฟิก (APAC) คือสมรภูมิหลักของการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล โดยไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์กำลังก้าวกระโดดใช้เทคโนโลยีสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ตอบโจทย์คนยุคดิจิทัล เช่น การชำระเงินด้วย QR และระบบนิเวศดิจิทัลที่ซับซ้อน
ไทยเองมีเป้าหมายเชิงนโยบาย “Thailand 4.0” ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนถึง 30% ของ GDP ภายในปี 2030 ทำให้ตลาดนี้มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อทั้งภาครัฐและเอกชน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมบริษัท IT Solutions ระดับโลกอย่าง Dexian จึงเลือก “ปักหมุด” การเติบโตในเอเชียแปซิฟิก โดยใช้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานสำคัญ
THE STANDARD มีโอกาสสนทนากับสองผู้บริหารหลักของ Dexian ได้แก่ Ashu Bhatia, ITS Practice Global Lead และ Vikram Motiani, Managing Director APAC เพื่อเจาะลึกมุมมองว่า Dexian กำลังมองตลาด การแข่งขัน และอนาคตของ Digital Transformation อย่างไรในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวรวดเร็วที่สุดในโลก
มองตลาด APAC ผ่านเลนส์ Dexian
“เอเชียแปซิฟิกไม่ใช่ตลาดที่กำลังไล่ตามโลก แต่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล” Ashu Bhatia กล่าวย้ำในช่วงต้นการสนทนา

Ashu Bhatia, ITS Practice Global Lead
กว่า 35 ปีที่ Dexian ทำงานในอเมริกาเหนือ บราซิล เม็กซิโก และยุโรป ประสบการณ์เหล่านั้นทำให้พวกเขาเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน เมื่อหันกลับมามองเอเชีย
“สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยหรือสิงคโปร์วันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงระบบ แต่เป็นการก้าวกระโดดสร้างสิ่งใหม่ เช่น PromptPay ของไทย หรือการสร้าง Digital Twin ในภาคการผลิต ซึ่งไม่เพียงทัดเทียม แต่บางครั้งยังเหนือกว่าสิ่งที่โลกตะวันตกทำอยู่”
สำหรับ Dexian นี่คือโอกาสในการเปลี่ยนภูมิภาคนี้ให้เป็นพื้นที่ทดสอบนวัตกรรมระดับโลก “ลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกฉลาดและรู้ว่าต้องการอะไร พวกเขาต้องการ Customer Experience ที่ดีขึ้น ต้องการการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และต้องการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดแข็งของ Dexian คือเราเล็กพอที่จะฟังเสียงลูกค้าทุกราย แต่ใหญ่พอที่จะลงมือทำให้สำเร็จ” Vikram กล่าว

Vikram Motiani, Managing Director APAC
วิธีคว้าโอกาสลูกค้าใหม่ APAC ในตลาดที่แข่งขันสูง
ลูกค้าในภูมิภาคนี้ไม่เพียงต้องการระบบที่เสถียรแบบเดิม แต่ยังมองหาโซลูชันที่ยืดหยุ่น ปรับตัวเร็ว และสอดคล้องกับชีวิตดิจิทัลของผู้บริโภคยุคใหม่
Ashu ยกตัวอย่างว่า แม้ Core Banking ของธนาคารใหญ่ในไทยยังเป็นระบบเดิม แต่ Mobile Banking หรือ Embedded Finance กลับมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นทุกวัน “วันนี้คุณสามารถเรียกบริการรถรับส่ง แล้วซื้อประกัน Micro Insurance ได้ในไม่กี่คลิก สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณว่าผู้บริโภคพร้อมจะยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เร็วกว่าสหรัฐอเมริกา หรือยุโรปด้วยซ้ำ”
Dexian เชื่อว่าในตลาดเอเชียแปซิฟิกที่แข่งขันสูง พวกเขามีความได้เปรียบในการสร้างและนำ Insight ไปปฏิบัติได้จริง “เรานำมาตรฐานระดับโลกมาปรับใช้ แต่ไม่ยัดเยียด เราฟังเสียงลูกค้า เคารพกฎหมายท้องถิ่น และทำให้โซลูชันให้เหมาะสมกับลูกค้าท้องถิ่นจนใช้ได้จริง นี่คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างออกไป” Ashu กล่าว
3 จุดแข็ง Dexian ที่ทำให้โดดเด่นและแตกต่าง
Dexian โดดเด่นด้วยการลงมือทำจริง สร้างแบรนด์ที่จดจำในฐานะพันธมิตรที่ “พูดแล้วทำจริง” Vikram สรุปจุดแข็ง 3 ข้อชัดเจน
- Leadership การมีผู้นำที่เข้าใจธุรกิจ และทำงานใกล้ชิดกับลูกค้า
- Hybrid Delivery Model การทำงานผสมผสาน Onshore, Offshore และ Nearshore ได้อย่างยืดหยุ่น
- AI-first Mindset การนำ AI มาเป็นหัวใจในการคิดและส่งมอบ ไม่ใช่แค่เครื่องมือเสริม
“เราคือบริษัทที่เติบโตมาจากความเชี่ยวชาญเรื่อง AI เราไม่เพียงใช้ AI กับลูกค้า แต่ยังใช้ภายในองค์กรเอง เพื่อทำให้พนักงานคิดค้นนวัตกรรมและส่งมอบได้เร็วขึ้น เหตุผลที่ลูกค้าเลือกเรา ไม่ใช่เพราะเรามีเครื่องมือ แต่เพราะเราสามารถทำให้เครื่องมือเหล่านั้น ‘ทำงานได้จริง’ ในตลาดท้องถิ่น” Vikram กล่าว
“ลูกค้าหลายรายเคยผิดหวังจากผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สัญญาไว้แต่ทำไม่ได้ แต่เมื่อทำงานกับ Dexian เราส่งมอบตามเวลาและคุณภาพที่ตกลงไว้ นี่คือสิ่งที่สร้าง Trust และทำให้เราได้สัญญาต่อเนื่อง”
จาก Staffing Firm สู่ IT Solution Partner
หลายคนยังคงจดจำ Dexian ในฐานะ บริษัทจัดหาบุคลากร (Staffing Firm) แต่ Ashu ยืนยันว่า วันนี้บริษัทได้ก้าวไปไกลกว่านั้นแล้ว
“คน (People) ยังคงเป็นหัวใจหลักของเรา แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เราต่อยอดด้วย แพลตฟอร์ม (Platform) และ กระบวนการ (Process) เพราะถ้าคุณมีคนเก่ง แต่ขาดเครื่องมือและระบบที่เหมาะสม คุณก็ไม่สามารถสร้างคุณค่าจริงให้ลูกค้าได้” Ashu อธิบาย

โมเดลที่ Dexian ใช้คือการผสมผสานทั้งสามเสาหลัก People, Platform และ Process เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถออกแบบโซลูชันที่ครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาคนเก่ง การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม (เช่น ServiceNow, Salesforce, SAP) ไปจนถึงการออกแบบกระบวนการทำงานที่สร้างคุณค่าเพิ่ม
อีกก้าวสำคัญของ Dexian คือการซื้อกิจการ Conga Technologies ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน Automation และ Contract Management Ashu เล่าว่า ทุกบริษัทต้องบริหารสัญญา เช่น การต่ออายุสัญญากับซัพพลายเออร์ หรือการเจรจาเงื่อนไขใหม่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ Conga ใช้ Automation และ AI-first เพื่อให้กระบวนการเหล่านี้รวดเร็วขึ้น
ถือเป็นการสร้าง Strategic Synergy ที่ทำให้ Dexian นำเสนอโซลูชัน Intelligent Contract Management ได้กับทุกอุตสาหกรรม ทั้งน้ำมัน การเงิน ค้าปลีก และอื่น ๆ อีกมากมาย
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้จากตัวเลขสู่ความเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
ในโลกธุรกิจ เทคโนโลยีจะมีความหมายก็ต่อเมื่อสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ทั้งการลดต้นทุน เพิ่มรายได้ หรือทำให้ธุรกิจเร็วขึ้น Dexian เข้าใจและใช้ผลลัพธ์จากลูกค้าเป็นเครื่องยืนยันคุณค่า Vikram เล่าตรงไปตรงมาว่า ผ่าน 3 ตัวอย่างว่า
- ลูกค้าสถาบันการเงินรายหนึ่ง เราช่วยเขาปรับโมเดล IT Delivery ทำให้ประหยัดต้นทุนได้กว่า 24%
- ลูกค้าอุตสาหกรรมการผลิต เรานำ Predictive AI เข้าไปใช้ วิเคราะห์เครื่องจักรล่วงหน้า จนเขาเติบโตได้ 30%
- บริษัทโลจิสติกส์ในไทย เราตั้งระบบให้เสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว ลูกค้าประทับใจมากจนขอให้เราขยายไปช่วยในประเทศอื่นด้วย”

Ashu อธิบายเพิ่มเติมว่า หลักการที่ Dexian ใช้ไม่ใช่แค่การ “ติดตั้งเทคโนโลยี” แต่คือการออกแบบระบบที่ทำงานร่วมกันอย่างครบวงจร ตัวอย่างชัดเจนคือ Preventive Maintenance ในโรงงานผลิต
“ในอุตสาหกรรมที่เครื่องจักรหยุดเพียง 1% ก็หมายถึงความสูญเสียมหาศาล ลูกค้าหลายรายต่างต้องการระบบที่ช่วยทำนายความเสี่ยงล่วงหน้า เราใช้เซนเซอร์เก็บข้อมูล เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และความร้อนจากการใช้งานหลายปี นำข้อมูลเข้าสู่แพลตฟอร์ม แล้วระบบสามารถบอกได้ว่า ‘ชิ้นส่วนนี้มีโอกาสพังภายในอีก 1 เดือน’”
สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ลูกค้าวางแผนซ่อมบำรุงได้ล่วงหน้า แต่ยังเชื่อมเข้ากับ ซัพพลายเชนและทีมช่าง ระบบจะสั่งอะไหล่และเรียกช่างมาเปลี่ยนตรงเวลาโดยอัตโนมัติ ผลคือ ลด Downtime และสร้าง ROI 15–20%
หลากหลายอุตสาหกรรมยังเติบโตด้านดิจิทัลได้อีก
Dexian ไม่ได้จำกัดอยู่แค่อุตสาหกรรมการเงินหรือการผลิต แต่ยังขยายไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่กำลังเติบโต เช่น Healthcare และภาครัฐ
“Healthcare จะเป็นคลื่นลูกใหม่ของ Digital Transformation เพราะมันเกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คน ตั้งแต่การนัดหมายหมอ ไปจนถึงการลดเวลารอคิวในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ หรือการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล การใช้ดิจิทัลจะสร้างผลกระทบมหาศาล” Ashu กล่าว
Vikram เสริมว่า อุตสาหกรรม Manufacturing และ Semiconductors ก็เป็นอีกสองกลุ่มที่จะเติบโตเร็วในเอเชีย เพราะต้องการทั้งความแม่นยำและการทำงานแบบ Data-driven
ความท้าทายของตลาด APAC ที่ต้องก้าวข้าม
สำหรับ Dexian การเติบโตในเอเชียแปซิฟิกคือความท้าทายสำคัญ Ashu เผยว่าอุปสรรคไม่ใช่เทคโนโลยี แต่คือการสร้างการยอมรับและการปรับใช้จากลูกค้า
“ลูกค้าในเอเชียมักถามเราก่อนเสมอว่า ‘คุณเคยทำแบบนี้ที่ยุโรปหรือสหรัฐฯ ไหม? มีเคสสตัดดีให้ดูหรือเปล่า?’ เพราะพวกเขา Risk Averse มาก ต่างจากตะวันตกที่พร้อมลองสิ่งใหม่ ๆ เราจึงต้องสร้าง Trust ผ่านผลงานจริง ไม่ใช่คำพูด” Ashu กล่าว
นอกจากนี้ Vikram ขยายความว่า ความท้าทายของลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกสามารถสรุปได้ 3 เรื่องหลัก
- Legacy Systems ระบบเก่าที่ใช้งานมานาน ทั้งแพง ซับซ้อน และเต็มไปด้วยแรงต้านจากทีมงาน
- Talent & Skills Gap การขาดบุคลากรที่มีทักษะด้าน Cloud, Data, AI ทำให้องค์กรต้องลงทุนอย่างมากในการ Upskill และ Reskill
- Culture & Readiness แม้จะมีเทคโนโลยี แต่ถ้าวัฒนธรรมองค์กรยังไม่พร้อมเปลี่ยน ความพยายามก็อาจล้มเหลว
ความท้าทายใหญ่ขององค์กรในภูมิภาคนี้คือความเข้าใจผิดเรื่อง AI หลายคนเชื่อว่า AI แก้ได้ทุกปัญหา แต่ Ashu เตือนว่า AI ต้องมี Data Platform ที่แข็งแรง มิฉะนั้นจะเป็น Garbage In, Garbage Out ทำให้ Dexian จึงเน้นช่วยลูกค้าสร้าง Data Platform & Data Cleaning ก่อนการใช้ AI เต็มรูปแบบ ซึ่งคิดเป็น 70% ของรายได้
Vikram เสริมว่า “อีกความเข้าใจผิดคือ AI จะทำให้คนตกงานทั้งหมด ความจริงคือมันจะทำให้งานบางส่วนหายไป แต่จะมีงานใหม่เกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการ Upskill และ Reskill เพื่อให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้”
การเปลี่ยนแปลงที่ดีต้องเริ่มต้นได้ดีก่อน
สิ่งที่ Dexian เลือกทำคือ ไม่ผลักดัน Big Bang Transformation แต่เริ่มจาก Pilot Project ขนาดเล็กที่ลูกค้าเห็นผลลัพธ์ได้จริง
“เราบอกลูกค้าเสมอว่า ไม่ต้องเปลี่ยนทุกอย่างในครั้งเดียว เริ่มจากโครงการเล็ก ๆ ที่พิสูจน์คุณค่าได้ก่อน แล้วค่อยขยาย นี่คือวิธีที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจ และทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริง” Vikram กล่าว
Dexian ดำเนินการ Change Management ให้ลูกค้าแบบคู่ขนาน ทั้งการอบรมผู้บริหารให้มี AI Fluency และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อสร้าง Talent Pipeline เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และเปลี่ยนวิธีคิดทั้งองค์กร
การเติบโตทางดิจิทัลขององค์กรต้องครบรอบด้าน
ช่วงท้ายของการสนทนา Vikram และ Ashu มักกล่าวถึง “Growth” ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเติบโตเชิงปริมาณเท่านั้น แต่เป็นการเติบโตทั้งในด้านความกว้างและความลึก โดย Vikram ชี้แจงว่า Dexian มองการเติบโตในสามมิติหลัก
- Geographic Expansion การขยายไปยังตลาดใหม่อย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ดาวรุ่ง” ของ Digital Transformation
- Industry Expansion จากการเงิน น้ำมัน ก๊าซ และการผลิต ไปสู่ Healthcare, Government และ Public Sector ที่กำลังเปิดรับการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล
- AI & Data Deepening การลงทุนเชิงลึกเพื่อทำให้ Dexian เป็น AI-first Company อย่างแท้จริง ใช้ AI ทั้งกับลูกค้าและภายในองค์กรเอง
“เราไม่ได้มองแค่การเติบโตในเชิงพื้นที่ แต่ยังมองเชิงลึกเพื่อทำให้ Dexian ก้าวสู่การเป็น Top 5 Global IT Solutions และ Talent Firm” Vikram กล่าว
วิสัยทัศน์ต่อประเทศไทยในเรื่องเติบโตด้านดิจิทัล
Ashu ย้ำว่าไทยเป็น Hub สำคัญในภูมิภาค โดยกำลังสร้าง Center of Excellence (CoE) ในกรุงเทพฯ เพื่อขยายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน Dexian ยังลงทุนใน Talent Development ร่วมกับมหาวิทยาลัยไทย เช่น จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ และมหิดล เพื่อสร้าง Talent ด้าน AI, Data และ Cloud ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวที่สร้างประโยชน์ทั้งต่อ Dexian และระบบนิเวศของประเทศ
แม้จะตั้งเป้าใหญ่ในระดับโลก แต่สิ่งที่ทำให้ Dexian แตกต่างคือการไม่ลืมความเป็นท้องถิ่น “เราไม่ใช่แค่บริษัทที่ขายเพียงสไลด์นำเสนอหรือรายงาน ลูกค้าต้องการคนที่ลงมือทำ และส่งมอบผลลัพธ์จริง Dexian ทำสิ่งนี้ได้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราต่างจากคู่แข่ง” Ashu กล่าว
ในตอนท้ายของการสนทนา ทั้งสองผู้บริหารฝากข้อความถึงลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกที่กำลังมองหาพันธมิตรด้านดิจิทัล “เราพร้อมที่จะเดินไปกับคุณ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นโครงการเล็ก ๆ หรือกำลังทำ Transformation ครั้งใหญ่ เรามีทั้งความเชี่ยวชาญระดับโลกและความเข้าใจท้องถิ่น และเราจะอยู่กับคุณในระยะยาว” Vikram กล่าว
Ashu เสริมว่า “หลายบริษัทกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและความเสี่ยง สิ่งที่ผมอยากบอกคือ Dexian สามารถเริ่มเล็ก ๆ ให้คุณเห็นผลจริงก่อน แล้วค่อยขยายไปเรื่อย ๆ และอย่าลืมว่า เราไม่ได้มาแทนที่ทีมของคุณ แต่เรามาเสริมศักยภาพให้คุณโฟกัสในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด”
เส้นทางของ Dexian อาจเริ่มจากการเป็น Staffing Firm แต่วันนี้บริษัทกำลังยืนในฐานะ Digital Transformation Partner ตัวจริง ที่มีทั้งเทคโนโลยีระดับโลก ความเข้าใจท้องถิ่น และการลงมือทำที่พิสูจน์ได้
“เราไม่ใช่บริษัทที่บินลงมาแล้วบินกลับ แต่เราอยู่ที่นี่จริง ๆ และจะเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า” สะท้อนตัวตนชัดเจนว่า บริษัทที่ไม่เพียงมองเห็นอนาคต แต่กำลังสร้างให้เป็นจริงในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นหัวใจของการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลโลก

ทีม Dexian (Thailand) ที่กรุงเทพ
รู้จัก Dexian ให้มากขึ้น
Dexian คือบริษัทระดับโลกที่เชี่ยวชาญทั้ง Talent Solutions และ IT Solutions โดยมุ่งผสาน “คน” และ “เทคโนโลยี” เข้าด้วยกันเพื่อช่วยองค์กรปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ บริษัทมีเครือข่ายครอบคลุมกว่า 70 สาขาทั่วโลก พนักงานกว่า 12,000 คน และประสบการณ์ยาวนานกว่า สามทศวรรษ ในการทำงานร่วมกับองค์กรตั้งแต่ Fortune 500 ไปจนถึงภาคธุรกิจท้องถิ่น
ด้วยโมเดลการทำงานที่ยืดหยุ่นทั้ง Onshore, Offshore และ Nearshore Dexian สามารถส่งมอบโซลูชันที่ครอบคลุมตั้งแต่การสรรหาบุคลากร การวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure, Cloud) การพัฒนาแอปพลิเคชัน ไปจนถึง AI, Data Analytics และ Cybersecurity เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายขององค์กรยุคใหม่ได้อย่างครบวงจร


