×

เลือกตั้งสหรัฐฯ 2020: ไฮไลต์ดีเบตรองประธานาธิบดี เพนซ์-แฮร์ริส โต้เดือดปมรับมือโควิด-19 ปัญหาแบ่งแยกเชื้อชาติ

โดย Master Peace
08.10.2020
  • LOADING...

การดีเบตประชันวิสัยทัศน์คู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากพรรครีพับลิกัน และคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต จัดขึ้นเมื่อค่ำวานนี้ (7 ตุลาคม) ที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ ในเมืองซอลต์ เลกซิตี้ มลรัฐยูทาห์ โดยมีพิธีกรคือซูซาน เพจ จากหนังสือพิมพ์ USA Today

 

ภาพรวมบรรยากาศการดีเบตตลอด 90 นาที พบว่ามีความสงบ ชัดเจน และเคารพกติกา มากกว่าการดีเบตระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน คู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ก่อน 

 

ขณะเดียวกันก็มีการติดตั้งแผ่นกระจกใสกั้นระหว่างเพนซ์และแฮร์ริส พร้อมเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม แผ่นกระจกกั้นดังกล่าวไม่อาจหยุดยั้งการปะทะคารมอย่างดุเดือดระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยประเด็นหลักที่ถูกหยิบยกมาดีเบต คือนโยบายรับมือการระบาดของโควิด-19 รวมถึงปัญหาความแปรปรวนของสภาพอากาศ การค้า และการจ้างงาน รวมถึงท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน 

 

ซึ่งแฮรริส เป็นฝ่ายออกหมัดก่อนในประเด็นนโยบายโควิด-19 ด้วยการโจมตีความล้มเหลวของรัฐบาลภายใต้การนำของทรัมป์และเพนซ์ 

 

“ชาวอเมริกันได้เห็นว่าอะไรคือความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการบริหารประเทศของประธานาธิบดีในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา” 

 

ปมร้อนนโยบายโควิด-19 

คำถามแรกในการดีเบตเปิดฉากด้วยนโยบายการรับมือโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคระบาดที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 210,000 คน โดยซูซาน เพจ โยนคำถามให้แฮร์ริส ว่ารัฐบาลของโจ ไบเดน จะรับมือการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้อย่างไร 

 

ขณะที่แฮร์ริส ชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายและยอดผู้เสียชีวิตจากการระบาดในสหรัฐฯ ก่อนจะถล่มรัฐบาลทรัมป์และเพนซ์ ที่ล้มเหลวในการรับมือการระบาดตั้งแต่วันแรกๆ

 

“พวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาไม่ได้บอกคุณ พวกเขารู้ แต่พวกเขาปกปิดมันไว้” เธอกล่าว

 

ด้านเพนซ์ปกป้องการทำงานของรัฐบาลในการรับมือวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยโต้แย้งว่า รัฐบาลของไบเดนก็ไม่สามารถทำได้ดีกว่าหากเผชิญสถานการณ์ในแบบเดียวกัน

 

“ประเทศของเราผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายมากในปีนี้ แต่ผมอยากให้ชาวอเมริกันรู้ว่า นับตั้งแต่วันแรก ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนอเมริกันมาเป็นอันดับแรก” เพนซ์ กล่าว

 

นอกจากนี้ แฮร์ริสยังถูกถามว่า เธอจะยอมรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ผ่านการอนุมัติก่อนเลือกตั้งหรือไม่ โดยแฮร์ริสตอบว่าเธอจะไม่ยอมรับการฉีดวัคซีนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ผลักดันให้อนุมัติ โดยไม่ผ่านการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

ขณะที่เพนซ์ ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานด้านโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า”ข้อเท็จจริงคือคุณต้องการบ่อนทำลายความมั่นใจของประชาชนในเรื่องวัคซีนต่อไป หากว่าวัคซีนนั้นเกิดขึ้นในระหว่างรัฐบาลทรัมป์ ผมคิดว่ามันไร้เหตุผล” 

 

เพนซ์-แฮร์ริส เลี่ยงคำถามอายุของคู่ชิงประธานาธิบดี

เพจ ยังถามทั้งเพนซ์และแฮร์ริส ถึงความกังวลเกี่ยวกับอายุของ 2 ผู้ท้าชิงประธานาธิบดี คือทรัมป์ วัย 74 ปี และไบเดน วัย 77 ปี แต่ทั้งเพนซ์และแฮร์ริส กลับไม่มีใครตอบคำถามนี้แบบตรงๆ 

 

ที่ผ่านมา ทีมหาเสียงของทรัมป์พยายามนำเรื่องอายุของไบเดนมาเป็นประเด็นโจมตีในการเลือกตั้ง แต่กลายเป็นฝ่ายทรัมป์ที่ติดเชื้อโควิด-19 และอาการทรุดจนต้องเข้าโรงพยาบาล แม้ล่าสุดจะแข็งแรงดีขึ้นและกลับมารักษาตัวในทำเนียบขาวแล้ว แต่อายุของเขาก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 

 

ช่วงสำคัญของการดีเบต ประเด็นร้อนการแบ่งแยกเชื้อชาติ

ในคำถามเรื่องการแบ่งแยกเชื้อชาตินั้น เพนซ์กล่าวว่าเขารู้สึกช็อกต่อเหตุการณ์ที่ตำรวจทำให้ จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิต ในรัฐมินนิโซตา แต่ยืนยันว่านั่นไม่ใช่เหตุผลในการก่อจลาจล และลักขโมยข้าวของที่เกิดขึ้นตามมา

 

จากนั้นเขาได้ชี้ไปยังหนึ่งในแขกที่เข้าชมการดีเบต ชื่อ ฟลอรา เวสต์บรูกส์ หญิงผิวดำที่ร้านทำผมของเธอถูกทำลายจากเหตุจลาจลในเมืองมินนิแอโปลิส 

 

“ข้อสันนิษฐานนี้ คุณได้ยินมาบ่อยครั้งจากโจ ไบเดน และคามาลา แฮร์ริส คำที่โจ ไบเดน เคยบอกว่า อเมริกานั้นมีการแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ และการบังคับใช้กฎหมายมีอคติต่อชนกลุ่มน้อยนั้น เป็นการดูหมิ่นอย่างยิ่ง” เพนซ์ กล่าว

 

ขณะที่แฮร์ริส ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นหญิงผิวสีคนแรกที่ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า

 

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ขึ้นเวทีดีเบตต่อหน้าชาวอเมริกันกว่า 70 ล้านคน แต่กลับปฏิเสธที่จะประณามการกระทำของกลุ่มเชิดชูคนผิวขาว (White Supremacist) และมันไม่ใช่ว่าเขาไม่มีโอกาส แต่เขาไม่ยอมประณาม และเมื่อถูกกดดัน เขายังบอกให้คนกลุ่มนี้เตรียมพร้อมให้ดี นั่นคือส่วนหนึ่งในตัวตนของโดนัลด์ ทรัมป์” เธอกล่าว ขณะที่เพนซ์พยายามแย้งว่าไม่เป็นความจริง

 

ความวุ่นวายเล็กน้อยระหว่างดีเบต

การดีเบตระหว่างสองฝ่ายร้อนแรงขึ้น เมื่อแฮร์ริสหยิบยกเรื่องรายงานเกี่ยวกับทัศนคติและท่าทีของทรัมป์ที่มีต่อกองทัพมาพูด พร้อมชี้ถึงกรณีอ้างอิงที่ระบุในรายงานว่ารัสเซียเสนอค่าหัวให้กองกำลังติดอาวุธในอัฟกานิสถาน หากสังหารทหารอเมริกันได้ โดยแฮร์ริสชี้ว่าไบเดนจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว 

 

ขณะที่เพจพยายามจะผ่านประเด็นนี้ไป แต่เพนซ์ยืนยันว่าเขาได้รับอนุญาตให้ชี้แจงได้ ทำให้เพจให้เวลาเขาพูดอีก 15 วินาที แต่เพนซ์ยืนยันว่าเขาต้องได้เวลามากกว่านั้น และจะไม่ยอมผ่านประเด็นนี้โดยไม่มีการโต้แย้ง 

 

“การใส่ร้ายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับชายและหญิงในกองทัพของเรานั้นเป็นเรื่องไร้สาระ” เพนซ์ กล่าว ขณะที่เพจพยายามแทรกแต่เขาไม่สนใจและยังคงพูดต่อไป 

 

“คุณได้เวลามากกว่าที่เธอ (แฮร์ริส) ได้ มากแล้ว” เพจกล่าว ในขณะที่มีเสียงวิจารณ์หลังดีเบต ว่าเพนซ์พยายามเอาชนะทั้งแฮร์ริสและเพจ และมองว่าเพจนั้นควรต้องทำมากกว่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เพนซ์พูดอีก หลังจากที่เวลาของเขาหมดไปแล้ว

 

คำถามจากเด็กเกรด 8: หากคุณยังสามัคคีกันไม่ได้ และประชาชนจะสามัคคีกันได้อย่างไร

เพจถามคำถามสุดท้ายของการดีเบตแก่เพนซ์และแฮร์ริส ซึ่งเป็นคำถามที่ถูกส่งมาจากเด็กนักเรียนเกรด 8 จากเมืองสปริงวิลล์ รัฐยูทาห์ 

 

“เมื่อฉันได้ดูข่าว ทั้งหมดที่ฉันเห็นคือสองผู้สมัครจากพรรคฝ่ายตรงข้าม พยายามจะทำลายกันและกัน หากผู้นำของเรายังไม่สามารถสามัคคีกันได้ และประชากรจะสามัคคีกันได้อย่างไร” เพจอ่าน พร้อมให้ทั้งสองฝ่ายยกตัวอย่างที่สามารถสร้างความแตกต่างเพื่อทำให้ประชาชนสามัคคีกันได้” 

 

เพนซ์ตอบกลับว่า “อย่าสรุปเอาว่าสิ่งที่หนูเห็นในเครือข่ายสำนักข่าวท้องถิ่นนั้นตรงกับชาวอเมริกันทุกคน” เพนซ์กล่าว และยกตัวอย่าง รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก อดีตผู้พิพากษาศาลสูงผู้ล่วงลับ กับแอนโทนิน สกาเลีย อดีตตุลาการสมทบของศาลสูง ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แม้จะมีความเห็นต่างในมุมมองทางการเมือง

 

ด้านแฮร์ริสใช้โอกาสนี้พูดถึงคาแร็กเตอร์ของไบเดน “โจ นั้นเป็นที่รู้จักมานานจากการทำงานกับฝ่ายตรงข้าม เขามีประวัติในการอุ้มชูชีวิตของประชาชน และต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของพวกเขา” เธอกล่าว

 

และนี่คือภาพรวมประเด็นสำคัญบางส่วนที่มีการถกกันบนเวทีดีเบตรองประธานาธิบดี ซึ่งหลายคนมองว่าได้น้ำได้เนื้อมากกว่าการดีเบตประธานาธิบดีรอบแรกเสียอีก 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising