ทีม ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ หลังจากที่เอาชนะ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 3-1 โดยเกมนี้ ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสเปน แจกของขวัญให้คู่แข่งอีกครั้ง
เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเกมฟุตบอลเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศลงสนามต่อเนื่องอีกนัด โดยเป็นการพบกันระหว่างเชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผู้ชนะจะได้ผ่านไปพบกับอาร์เซนอล ซึ่งมีชัยเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเป็นทีมแรกไปเรียบร้อยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในเกมที่เวมบลีย์นัดนี้ เชลซีซึ่งได้เปรียบจากการที่ได้พักมากกว่า 2 วัน จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ไม่แพ้ติดต่อกันมา 19 นัด วันนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ สั่งพักผู้เล่นตัวหลักอย่าง อองโตนี มาร์กซิยาล กองหน้าที่กำลังร้อนแรง รวมถึง เมสัน กรีนวูด, ปอล ป็อกบา ด้วย พร้อมปรับระบบการเล่นมาใช้กองหลัง 3 คนแทน เพื่อหยุดเกมรุกที่ร้อนแรงของคู่แข่งจากลอนดอน
อย่างไรก็ดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเสีย เอริก ไบยี ปราการหลังที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ต้องออกจากการแข่งขันโดยต้องเปลี่ยนเอามาร์กซิยาลลงมาแทน และปรับระบบการเล่นมาใช้ 4-3-3 ตามปกติ แต่ก่อนหมดครึ่งแรก เชลซีได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา หลุดไปเปิดมาให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ สอดมาเข้าฮอสในระยะเผาขน ซึ่ง เด เคอา พลาดปล่อยให้บอลผ่านมือไปแบบง่ายๆ
จากนั้นเมื่อกลับมาลงสนามใหม่ในครึ่งหลังได้นาทีเดียว เชลซีก็ได้ประตูหนีห่างออกเป็น 2-0 ทันทีจาก เมสัน เมาต์ ที่ยิงเรียด และเป็น เด เคอา ที่รับพลาดอีกครั้ง ก่อนที่ แฮร์รี แม็กไกวร์ จะสกัดเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 74 ให้ทีมของ แฟรงก์ แลมพาร์ด หนีห่างไปไกลถึง 3-0 แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตีตื้นคืนได้ 1 ลูกจากจุดโทษของ บรูโน แฟร์นันด์ส ที่วันนี้โดนประกบติดทั้งเกมทำให้เล่นไม่ออก สุดท้ายเกมจบลงที่เชลซีชนะด้วยสกอร์ 3-1 ทำให้เชลซีได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพไปพบกับ อาร์เซนอล ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
หลังจบเกม ทางด้านโซลชาร์กล่าวถึงความพ่ายแพ้และปกป้องประตูชาวสเปนว่า “แน่นอนว่าการที่ต้องพักครึ่งพร้อมกับประตูที่ตามหลังซึ่งเกิดขึ้นหลังเกมหยุดไปนานเป็นเรื่องที่กระทบกับเราอย่างมาก เราเสียสมาธิและมันน่าผิดหวังมาก
“เชลซีได้พักมากกว่าเรา 48 ชั่วโมง ตรงนั้นคือข้อเท็จจริงแต่ไม่ใช่ข้ออ้าง ผมจะไม่ใช้มันเป็นข้ออ้าง
“ผมคงพูดแทน เด เคอา ในเรื่องความมั่นใจของเขาไม่ได้ แต่สภาพจิตใจของเขาแข็งแกร่งมาก เขารู้ว่าเขาควรจะเซฟลูกยิงนั้นได้ ต่อให้ยิงอีก 100 ครั้งก็จะเซฟได้ทั้ง 100 แต่ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้ ผมตัดสินจะเลือกใช้เขา และสภาพจิตจของเขาก็พร้อม
“เรารู้อยู่แล้วว่าชิรูด์จะเคลื่อนไปที่เสาแรก และเราก็ควรจะป้องกันได้ดีกว่านั้น เราช้าเกินไปในสถานการณ์นั้น ส่วนประตูที่ 2 ก็น่าจะเลี่ยงได้
“ไม่มีเวลาให้เราเสียใจแล้ว เรายังมีอีก 2 นัดในสัปดาห์นี้ และจากนั้นก็ยังมียูโรปาลีก เราต้องเตรียมทั้งหัวและขาของเราให้พร้อมเพื่อลุยกันต่ออีกครั้ง”
สำหรับผลฟุตบอลคู่อื่นที่น่าสนใจ เลสเตอร์ ซิตี้ บุกไปพ่ายต่อสเปอร์สขาดลอย 0-3 ทำให้ความหวังในการลุ้นติด Top 4 เลือนราง และต้องไปวัดนัดสุดท้ายกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนทีมท้ายตารางอย่างบอร์นมัธ เจอเรื่องดราม่า เมื่อ VAR ปฏิเสธจะให้ประตูตีเสมอในเกมเจอกับเซาแธมป์ตันในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนจะเสียประตูที่ 2 ทำให้พ่ายทีม ‘นักบุญ’ ไป 0-2 โอกาสจะอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกแทบไม่เหลือ
อย่างไรก็ดี วัตฟอร์ด คู่แข่งที่ต้องร่วมลุ้นหนีตกชั้น ประกาศปลด ไนเจล เพียร์สัน ผู้จัดการทีมพ้นจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่นำทีมหนีพ้นโซนตกชั้นได้สำเร็จ และยังเหลืออีก 2 นัดหนักๆ กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และอาร์เซนอล ทำให้การลุ้นหนีตกชั้นระหว่างวัตฟอร์ด, บอร์นมัธ และแอสตัน วิลลา น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: