ปรากฏการณ์ Daft Punk แยกวง ดันราคา BE@RBRICK สูงขึ้น 1 เท่าตัว

ทันทีที่ Daft Punk ประกาศแยกวงไปเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน ตุ๊กตา BE@RBRICK Daft Punk ที่เปิดประมูลในกลุ่ม Facebook ของนักสะสม BE@RBRICK ทำราคาจาก 110,000 บาท ขึ้นไปถึง 210,000 บาทอย่างรวดเร็ว และเพิ่งจะค่อยๆ ลดความร้อนแรงไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ความน่าสนใจอยู่ตรงที่วัฒนธรรมป๊อปทำไมสร้างแรงกระเพื่อมให้กับราคาของ BE@RBRICK ได้ถึงเพียงนี้ เราลองไปทำความรู้จักเจ้าตุ๊กตาหมีที่เป็นมากกว่าของเล่น แต่เป็นของสะสมที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมป๊อป และสร้างผลตอบแทนได้อย่างงาม

BE@RBRICK ผลิตครั้งแรกโดย บริษัท MEDICOM ของญี่ปุ่น เพื่อเป็นของที่ระลึกในงาน World Character Convention ที่โตเกียวในปี 2001 จากนั้นก็เริ่มคอลแลบกับศิลปินและแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น KAWS, Nike, Chanel, Bape ฯลฯ โดยให้ผลิตเป็นแบรนด์ของตัวเองในรูปแบบลิมิเต็ดเอดิชัน ส่วนใหญ่จะมีความเชื่อมโยงกับศิลปะ แฟชั่น สตรีทอาร์ต และดนตรี จึงทำให้ราคา BE@RBRICK ปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปตามวัฒนธรรมป๊อป

BE@RBRICK หลายๆ รุ่นราคาพุ่งสูงขึ้นในตลาดรีเซล ขึ้นอยู่กับความหายาก ขนาดและวัสดุที่ใช้ ไซส์ของ BE@RBRICK จะบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ 50-1,000% โดยแยกรายละเอียดของแต่ละไซส์ดังนี้

50% 35 มิลลิเมตร เป็น BE@RBRICK ขนาดกะทัดรัด ใช้เป็นพวงกุญแจ

70% 50 มิลลิเมตร ผลิตครั้งแรกในปี 2006 ใช้เป็นของสะสมมาพร้อมกับ BE@RBRICK ไซส์อื่นๆ

100% 70 มิลลิเมตร ไซส์มาตรฐานที่มักจะมีใน BE@RBRICK เกือบทุกซีรีส์

200% 145 มิลลิเมตร เป็นขนาดพิเศษที่มีเฉพาะในซีรีส์ Chogokin หรือหุ่นเหล็กที่ทำร่วมกับค่าย Bandai ทำจากโลหะน้ำหนัก 400 กรัม

400% 280 มิลลิเมตร ไซส์ยอดนิยมของนักสะสม

1000% 700 มิลลิเมตร ไซส์ใหญ่ที่สุด ผลิตจำนวนจำกัดและเป็นที่ต้องการในตลาดของสะสม

BE@RBRICKS รุ่น 100% จะบรรจุอยู่ในกล่อง Blind Box ทำให้ไม่รู้ว่าตุ๊กตาหมีที่อยู่ด้านในเป็นอย่างไร จะมีบอกแค่ขนาดของตุ๊กตา มีจำหน่ายแบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ MEDICOM ซึ่งไม่ได้เปิดรับออร์เดอร์และจัดส่งนอกญี่ปุ่น ทำให้การหาซื้อ BE@RBRICKS รุ่นหายากยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ตลาดการประมูลจึงเป็นทางเลือกที่จะทำให้ได้เห็นตุ๊กตาแบบที่ชอบ ราคาของ BE@RBRICKS จึงมักขยับสูงขึ้นหลังจากที่จำหน่ายเลยทีเดียว

Coco Chanel BE@RBRICK ขนาด 1000% เคยทำราคาในการประมูลไปสูงถึงราว 908,000 บาท เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2019 ส่วนเจ้าของสถิติ BE@RBRICK ที่แพงที่สุดโลกก็คือ Yue Minjun ‘Qiu Tu’ 1000% BE@RBRICK ได้รับการประมูลไปในราคา 181 ล้านบาท

สิ่งที่ควรคำนึงสำหรับมือใหม่หัดสะสม BE@RBRICK ก็คือ เลือกแบบที่ชอบ มีความสุขที่คุณจะได้เห็นมันอยู่ในมุมใดๆ ของบ้าน และน่าสังเกตว่าซีรีส์ที่คอลแลบกับ KAWS และ Bape มักจะได้ราคาดีเมื่อเข้าสู่ตลาดรีเซล

Coco Chanel BE@RBRICK (2007)

สร้างขึ้นเพื่อระดมทุนให้กับ Hong Kong Blood Cancer Foundation ออกแบบโดยคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ผู้ล่วงลับ ได้แรงบันดาลใจจาก Coco Chanel ในชุดผ้าทวีดและไข่มุกอันเป็นซิกเนอเจอร์ของแบรนด์ ผลิตออกมาเพียง 1,000 ตัว และเคยได้รับการประมูลไปในราคาตัวละ 908,000 บาท

Yue Minjun ‘Qiu Tu’ 1000% BE@RBRICK (2008)

เจ้าของสถิติ BE@RBRICK ที่แพงที่สุดในโลกจากผลงานของ Yue Minjun ศิลปินร่วมสมัยชื่อดังของจีน เอกลักษณ์ของผลงานของเขาก็คือมนุษย์สีชมพูหัวเราะในเชิงเสียดสีสังคมและการเมือง BE@RBRICK ก็เลยหัวเราะแบบเห็นฟันเป็นแผงอย่างที่เห็น โดยผลิตอออกมาเพียงตัวเดียว มีราคาในการประมูลสูงถึง 181 ล้านบาท

Karimoku Wood 1000% BE@RBRICK (2020)

Karimoku เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีอายุมากกว่า 80 ปี และเคยคอลแลบกับ MEDICOM มาบ้างแล้ว แต่นี่ถือเป็น BE@RBRICK ไซส์ 1000% ตัวแรกๆ ที่ทำจากไม้ โดยใช้เทคนิคงานไม้แบบญี่ปุ่นที่ทำจากมือทั้งหมด จึงรับผลิตแบบเมดทูออร์เดอร์ ในราคาราว 390,000 บาท และในตลาดรีเซลเคยมีคนเสนอซื้อในราคาสูงถึง 1.2 ล้านบาท

BE@RBRICK x Van Gogh Museum Van Gogh Self Portrait (2021)

BE@RBRICK x Van Gogh Museum Van Gogh Self Portrait เพิ่งปล่อยออกมาสดๆร้อนๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จจาก BE@RBRICK ภาพ Sunflowers ที่มีชื่อเสียงของแวน โก๊ะในปี 2019 โดยซีรีส์ใหม่นี้นำภาพวาด Self Portrait สีน้ำของแวน โก๊ะมาเพนต์ลงบน BE@RBRICK

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: