Changpeng Zhao หรือ ‘CZ’ เผยว่า กำลังทำตามแนวทางคำแนะนำของ วิทาลิก ผู้ก่อตั้ง Ethereum ที่เสนอ ไอเดียเกี่ยวกับ ‘safe CEX’ ซึ่งจะทำให้เอ็กซ์เชนจ์มีความปลอดภัยต่อลูกค้ามากขึ้น
วันเสาร์ที่ผ่านมา (19 พฤศจิกายน) วิทาลิก บูเทอริน ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Ethereum ได้ออกมาเสนอไอเดีย ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ที่เรียกว่า ‘safe CEX’ (Centralized Exchange) โดยใช้เทคโนโลยีอย่าง ‘Zero-Knowledge Succinct Non-Interactive Argument of Knowledge’ (zk-SNARK) เพื่อให้แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคริปโตเกิดเสถียรภาพมากขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX จนทำให้ผู้ใช้งานสูญเงินฝากไปในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum และทิศทางในอนาคตของเหรียญ ETH
- สรุปการล่มสลายของ FTX ที่อาจจุดชนวนวิกฤตในตลาดคริปโต
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
ซึ่งล่าสุด ทาง Changpeng Zhao หรือ ‘CZ‘ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Binance แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange: CEX) เบอร์ 1 ของโลก ไ้ด้ออกมาตอบรับผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า กำลังทำตามคำแนะนำของวิทาลิกอยู่ในขณะนี้
ซึ่ง zk-SNARK คือแนวคิดการยืนยันธุรกรรม ผู้ที่มีการทำธุรกรรมระหว่างกันสามารถตรวจสอบกันได้ เพียงแค่อีกฝ่ายมีชุดข้อมูลหนึ่งๆ โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลภายในออกมา
โดยวิทาลิกได้อธิบายว่า หลังจากได้แลกเปลี่ยนไอเดียกับ บาลาจิ ศรีนิสาสาน นักลงทุนอิสระ และพนักงานของ Coinbase และ Kraken จึงได้เกิดเป็นไอเดียอย่าง ‘safe CEX’ (Centralized Exchange) ขึ้นมาไว้สำหรับการสร้างระบบการยืนยันแบบ Proof of On-Chain Fund ซึ่งจะสามารถครอบคลุมหนี้สินของนักลงทุนได้เมื่อจำเป็น
ซึ่งแนวคิดหลักของ ‘safe CEX’ ก็คือการที่ระบบถูกออกแบบมาไม่ให้ทางแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตต่างๆ สามารถถอนเงินของนักลงทุนที่มาฝากเงินกับแพลตฟอร์ม โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ฝากเงินได้
ในระยะแรก ก่อนไอเดียดังกล่าวจะเป็นรูปเป็นร่างนั้น วิทาลิกได้เกิดแนวคิดที่เรียกว่า ‘Proof of Solvency’ ที่ให้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่างๆ ลิสต์รายชื่อของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม พร้อมทั้งสัดส่วนการถือทั้งหมดของผู้ใช้เหล่านั้น แต่จากความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ทำให้แนวคิดดังกล่าวยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ แต่ก็ได้ไปจุดประกายให้กับเทคนิคอย่าง ‘Merkle Tree’
วิทาลิกมองว่าแม้เทคนิค Merkle Tree สามารถลดปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้ และดีเทียบเท่าแนวคิด ‘Proof of Liabilities’ (PoL) แต่ไอเดียการเก็บรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของเทคนิคดังกล่าวก็ยังไม่สมบูรณ์
โดย Proof of Liabilities (PoL) คือระบบที่ออกแบบไว้สำหรับบริษัทในการรับเงินฝากของลูกค้า (หนี้ของบริษัทที่รับฝาก) โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
ซึ่งในที่สุด วิทาลิกก็มองว่าควรนำระบบ zk-SNARK มาใช้ด้วย โดยเขาได้อธิบายว่า เมื่อลูกค้านำเงินมาฝากก็จะถูกเก็บผ่าน Merkle Tree ก่อน และใช้ zk-SNARK ในการพิสูจน์ปริมาณเงินที่ถูกฝากไว้ และเพิ่มเลเยอร์ของแฮช ก็จะช่วยเสริมการปกป้องข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณเงินของผู้ใช้งานได้อีกชั้นหนึ่ง
วิทาลิกได้สรุปปิดท้ายว่า ในระยะยาวเขาหวังว่าเราจะเข้าใกล้การเป็น Non-Custodial Crypto Exchange (ศูนย์การแลกเปลี่ยนที่ไม่ต้องมีการนำเงินไปฝากผู้ดูแลต่อ) ได้ทั้งหมด ในขณะที่การเป็นระบบรวมศูนย์ (Centralized) จะใช้กับกรณีวอลเล็ตที่เป็นเงินจำนวนน้อยเท่านั้น
อ้างอิง:
