กว่า 3 ปีหลังจากที่ อีลอน มัสก์ ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องตกตะลึงด้วยรถกระบะไฟฟ้าที่ดูเหมือนเครื่องบินรบล่องหน ล่าสุด Tesla ได้ออกมาประกาศว่า กำลังจะมีการผลิตจริงในช่วงปลายปี 2023
การประกาศดังกล่าวนอกจากช่วยกระตุ้นราคาหุ้นของ Tesla แล้ว ยังได้จุดชนวนข้อถกเถียงเรื่อง ‘รถบรรทุกไฟฟ้า’ ที่ล่าช้าจากกำหนดการเดิมอย่างมากนั้นเป็นผลงานอัจฉริยะหรือความโอหังของมัสก์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Tesla เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck วิ่งได้ 800 กม. เริ่ม 1.2 ล้านบาท พร้อมกันกระสุน แต่ช่วงสาธิตกระจกดันแตก!
- อีลอน มัสก์ เผยยอดจองรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ทะลุ 146,000 คันแล้ว อวดคลิปทดสอบรถกระจกไม่แตก
- หลังเปิดตัวมา 5 ปี! ในที่สุด Tesla ได้ส่งมอบ ‘Semi’ รถบรรทุกไฟฟ้าที่รับน้ำหนักได้ 37,000 กิโลกรัม และวิ่งได้ 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ด้วยตัวถังเหล็กกล้าไร้สนิมที่มีเหลี่ยมมุมและไม่เหมือนกับ Ford F-150, Chevrolet Silverado หรือ Ram 1500 อันเป็นรถกระบะ 3 รุ่นที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตัว Cybertruck ได้เป็นความพยายามที่จะกำหนดนิยามใหม่ของรถกระบะในลักษณะเดียวกับที่ Tesla พลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ดั้งเดิมด้วยการพิสูจน์ว่ารถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่สามารถนำไปใช้ได้จริงและให้ผลกำไร
Tesla โฆษณาว่า รถรุ่นท็อปจะสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 14,000 ปอนด์ และเร่งความเร็วได้เร็วกว่า Porsche 911 แถมประตูของ Cybertruck จะเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อคนขับเข้าใกล้
การเปิดตัว Cybertruck นั้นถูกมองว่าจะเป็นรถที่เข้ามาเป็นสีสันให้กับยักษ์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่ถูกมองว่าล้าสมัยกว่าคู่แข่งอย่าง Ford, General Motors และ Hyundai ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่หลายรุ่น ขณะที่รถรุ่นล่าสุดของ Tesla คือ Model Y ที่ออกจำหน่ายในช่วงต้นปี 2020
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างส่ายหัวคือ Cybertruck จะใช้ตัวถังเป็นเหล็กกล้าไร้สนิมที่ทนต่อการกัดกร่อนและไม่ต้องทาสี ช่วยลดค่าใช้จ่ายและไม่ต้องเคลือบสารเคมีที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็แลกมากับราคาแพงมากขึ้น แถมยังมีกระบวนการผลิตที่ยุ่งยาก โดยนี่อาจเป็นคำตอบว่าทำไม Tesla ถึงช้ากว่ากำหนด 2 ปีในการผลิต Cybertruck ซึ่งวางแผนที่จะผลิตที่โรงงานในออสติน รัฐเท็กซัส
ที่ผ่านมา Tesla เลื่อนการผลิตออกไป 3 ครั้ง ตั้งแต่ปลายปี 2021 มาเป็นปลายปี 2022 จากนั้นถึงขยับเป็นต้นปี 2023 และครั้งล่าสุดได้เลื่อนไปปลายปีแทน ซึ่ง Reuters รายงานว่า การขาดแคลนชิ้นส่วนถูกยกมาเป็นข้ออ้างของความล่าช้า
ในเดือนพฤษภาคม 2022 Tesla หยุดรับคำสั่งซื้อ Cybertruck นอกอเมริกาเหนือ ซึ่งมัสก์ได้ออกมากล่าวว่า บริษัทมี ‘คำสั่งซื้อ Cybertruck มากกว่าที่สามารถผลิตในช่วงเวลา 3 ปีหลังจากนี้’
ความล่าช้าของ Tesla ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมสามารถเอาชนะตลาดด้วยรถกระบะไฟฟ้าได้ และปล่อยให้ Tesla ไม่มีอะไรจะเสนอให้กับคนอเมริกันจำนวนมากที่ชอบรถกระบะมากกว่ารถเก๋งหรือรถอเนกประสงค์
“ความได้เปรียบของผู้ที่นำเสนอนวัตกรรมใหม่ของ Tesla ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง” ราม ราชกุมาร ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมแห่งมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กล่าว “มันเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่สูญเสียไป”
อย่างไรก็ตาม Tesla ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการที่จะเอาชนะความท้าทายในการนำเหล็กกล้าไร้สนิมมาผลิตรถยนต์ รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะเหล็กที่ใช้ในรถยนต์ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาให้ยุบตัวเมื่อเกิดการชน ดูดซับพลังงานและปกป้องผู้โดยสาร แต่เหล็กกล้าไร้สนิมไม่ได้ยุบตัวง่าย ทำให้ผู้โดยสารจะได้รับแรงกระแทกที่มากขึ้น
แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมบางคนมั่นใจว่า Tesla ได้พัฒนาโลหะผสมที่จะเอาชนะความท้าทายของเหล็กกล้าไร้สนิมได้
เมื่อ Tesla เปิดตัว Cybertruck ได้มีการระบุว่า รถจะมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 4 หมื่นดอลลาร์ แต่รายงานของ The New York Times มองว่า ราคาที่จำหน่ายจริงอาจสูงกว่านี้มาก
ภาพ: Courtesy of Tesla
อ้างอิง: