Photo: Antonin THUILLIER/AFP
รอยยิ้ม ความเป็นกันเอง และการไม่หลงระเริงในโลกมายา…
นาทีนี้ดูเหมือนนักแสดงสาว แอล แฟนนิง (Elle Fanning) กำลังเป็นขวัญใจฮอลลีวูดและแฟนหนังทั่วโลก เธอเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์บางอย่างที่ไม่ใช่ว่าสร้างขึ้นมาง่ายๆ แต่เกิดจากการบ่มเพาะและสะสมประสบการณ์ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่วงการบันเทิง
THE STANDARD ได้รวบรวมเรื่องราวที่จะทำให้คุณได้รู้จักหญิงสาววัย 19 ปีคนนี้ และหลงรักเธอมากยิ่งขึ้น
หนังเรื่อง Somewhere (2010)
จุดเริ่มต้นจากจอร์เจียไปสู่แคลิฟอร์เนีย
แมรี แอล แฟนนิง (Mary Elle Fanning) เกิดวันที่ 9 เมษายน 1998 ที่เมืองคอนเยอร์ส (Conyers) รัฐจอร์เจีย ที่มีประชากรราว 15,000 คน คุณพ่อของแอล สตีเ วน เจ. แฟนนิง (Steven J. Fanning) เคยเป็นนักเล่นเบสบอลระดับสมัครเล่น ส่วนคุณแม่ เฮเทอร์ จอย (Heather Joy) มีดีกรีเป็นนักเล่นเทนนิสมืออาชีพ แต่ที่มีชื่อเสียงสุดๆ ก็ต้องเป็นคุณตา ริก อาร์ริงตัน (Rick Arrington) ที่เคยเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ตำแหน่งกองหลังของทีม Philadelphia Eagles ในลีก NFL
ครอบครัวแอลตัดสินใจย้ายไปอยู่เมืองลอสแอนเจลิส ตอนเธออายุแค่ 2 ขวบ เพราะพี่สาวดาโกต้า แฟนนิง (Dakota Fanning) เริ่มมีชื่อเสียงและต้องปักหลักอยู่ที่นั่น แอลเคยให้สัมภาษณ์กับ สกาเล็ต โจแฮนสัน ในนิตยสาร Interview ว่า ช่วงแรกเธอเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านแบบโฮมสคูล แต่พอเกรด 4 (หรือประมาณ ป.3) เธอเริ่มอึดอัดที่ไม่ค่อยมีเพื่อน คุณแม่เลยส่งไปโรงเรียนตามปกติ และเธอก็ได้ค้นพบตัวเองในหลากหลายแง่มุม เช่น พบว่าวิชาโปรดคือวิชาวิทยาศาสตร์ และเริ่มหลงรักการเต้นบัลเลต์ ถึงขั้นบอกว่าถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงก็อยากจะเอาดีในการเป็นนักเต้นบัลเลต์นี่ล่ะ
หนังเรื่อง I Am Sam (2001)
นักแสดงที่ชื่อแอล แฟนนิง
ด้วยวัยเพียง 19 ปี แอลมีผลงานหนังและทีวีมาแล้วกว่า 50 เรื่อง โดยหนังเรื่องแรกของแอลคือ I Am Sam (2001) ที่เธอเล่นเป็นตัวละครลูซี่ ในขณะนั้นเธออายุ 18 เดือน ส่วนพี่สาวของเธอ ดาโกต้าก็เล่นตัวละครเดียวกันในวัยที่โตขึ้นมา
หนังที่ช่วยสร้างชื่อให้กับแอลมีทั้งเรื่อง Super 8 (2011) หนังอินดี้เรื่อง Phoebe in Wonderland ที่เล่นเป็นตัวเอกในวัย 9 ขวบ และหนังฟอร์มยักษ์ Maleficient (2014) ที่เธอรับบทเด่นคู่กับ แอนเจลีนา โจลี ส่วนผลงานที่เข้าฉายในบ้านเราอยู่ตอนนี้คือ 20th Century Women (2016) ของผู้กำกับไมค์ มิลส์ (Mike Mills) ที่เข้าชิงรางวัลสาขา Best Original Screenplay เวทีออสการ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
หนังเรื่อง Maleficent (2014)
ในปีนี้ แอลยังมีผลงานหนังเรื่อง Mary Shelley (2017) ของผู้กำกับหญิงชาวซาอุดีอาระเบีย ไฮฟา อัล มันซูร์ (Haifaa al-Mansour) ที่ผลงานมักเป็นกระแส เพราะสะท้อนสังคมและบทบาทของผู้หญิงซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในหนังเรื่องนี้แอลรับบท แมรี เชลลีย์ นักประพันธ์หนังสืออมตะเรื่อง Frankenstein
ลูกรักวงการแฟชั่นและความงาม
ความโด่งดังของแอลในช่วงนี้ทำให้เรานึกถึงนักแสดงอย่าง โคลอี เซเวอนี (Chloë Sevigny) ที่เป็นไอคอนของยุค 90s ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากวงการแฟชั่นเป็นประจำอย่างเช่นแบรนด์ Opening Ceremony ที่แอลเองก็เคยเป็นนางแบบให้ในคอลเล็กชัน Spring/Summer 2015
ปีที่แล้ว แอลได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์เครื่องประดับไฮเอนด์ Tiffany & Co. เธอได้ร่วมงานกับสไตลิสต์ระดับตำนานอย่าง เกรซ คอดดิงตัน (Grace Coddington) ซึ่งเป็น Creative Director at Large ที่นิตยสาร Vogue อเมริกา และเป็นคนสไตลิ่งแอลขึ้นปกเล่มเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในชุดกูตูร์ของแบรนด์ Valentino ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม
แคมเปญ Tiffany & Co.
แคมเปญ Miu Miu Spring/Summer 2017
แคมเปญ Marc by Marc Jacobs Fall/Winter 2011
มีอีก 2 แบรนด์ที่แอลได้กลายเป็นมิวส์ แบรนด์แรกคือ Miu Miu ที่แอลขึ้นแคมเปญในซีซัน Spring/Summer 2014 และ Spring/Summer 2017 ส่วน Marc Jacobs แอลก็เคยขึ้นแคมเปญไลน์ Marc by Marc Jacobs สำหรับซีซัน Fall/Winter 2011 ซึ่งมาร์ก เจค็อบ ก็เป็นเพื่อนรักของโซเฟีย คอปโปลา ผู้กำกับหนังเรื่อง Somewhere (2010) และ The Beguiled (2017) ที่แอลแสดงทั้งคู่
https://www.youtube.com/watch?v=2yOAX9fV77U&feature=youtu.be
การได้แคมเปญ L’Oréal ก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดให้เห็นความนิยมของคนในวงการบันเทิงที่มีต่อแอล ล่าสุดเธอเพิ่งรับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ให้กับมาสคาร่ารุ่น Paradise ของ L’Oréal ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเทศกาลหนังเมืองคานส์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
แอล แฟนนิง, เคิร์สเทน ดันสต์ และนิโคล คิดแมน เทศกาลหนังเมืองคานส์
ทำไม แอล แฟนนิง ถึงมาไกลขนาดนี้
ในวงการฮอลลีวูด คนมักพูดกันว่านักแสดงเด็กจะเจออาถรรพ์ของแสงสีเสียงในวงการจนทำให้เสียคน หรือไม่ได้รับความนิยมเมื่อโตขึ้น เพราะผู้ชมติดภาพตัวละครเด็กไปแล้ว แต่ทำไมแอลสามารถก้าวข้ามผ่านอาถรรพ์นี้ ทั้งยังลบคำสบประมาทเหล่านั้นไปได้อีก
ต้องบอกว่าแอลมีความเป็นธรรมชาติในแบบของเธอ ที่ไม่ใช่ ‘แอล แฟนนิง นักแสดงฮอลลีวูดที่แตะต้องไม่ได้’ แต่กลับเป็น ‘แอล แฟนนิง นักแสดงฮอลลีวูดที่เป็นเพื่อนคุณได้’ หากย้อนไปดูการสัมภาษณ์ของเธอในรายการ The Ellen DeGeneres Show ในปี 2009 และเอามาเปรียบเทียบกับบทสัมภาษณ์ในรายการ Conan ในปี 2017 (ที่เธอบอกว่าชอบใช้บริการรถอูเบอร์เป็นประจำ) เธอยังคงมาพร้อมเสียงหัวเราะและเรื่องราวที่บอกว่าเธอเป็นคนติดดินในแบบที่จะมาเฟกกันไม่ได้
แอล แฟนนิง และนิโคล คิดแมน ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ / Credit: Facebook: The Beguiled
แอลเคยบอกว่า “เราต่างอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ มันสำคัญมากที่เราจะเลือกทำอะไรตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ รวมทั้งช่วงเวลาระหว่างนั้น เพื่อทำให้ชีวิตของเราเติมเต็ม นาทีนี้แหละคือโอกาสที่คุณต้องคว้ามันเอาไว้ และเลือกที่จะทำในสิ่งที่ต้องการ”
ในภาษาฝรั่งเศส ‘แอล’ แปลว่า ‘เธอ’ ซึ่งเราเชื่อว่าเธอนี่แหละที่จะขับเคลื่อนวงการป๊อปคัลเจอร์ต่อไป และได้แต่หวังอยู่ในใจว่า “ถ้านักแสดงผู้หญิงทุกคนเป็นได้แบบเธอ…”
อ้างอิง:
- en.m.wikipedia.org/wiki/Elle_Fanning
- www.interviewmagazine.com/film/elle-fanning-1/#_
- www.elle.com/beauty/news/a45272/elle-fanning-new-face-loreal-paris/
- www.independent.co.uk/arts-entertainment/films/features/live-by-nigth-elle-fanning-ben-affleck-sienna-miller-zoe-saldana-loretta-figgis-warner-bros-a7507711.html
- เว็บไซต์ ancestry.com ได้ออกมาเปิดเผยว่าแอลเป็นญาติกับแคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ (เคต มิดเดิลตัน) ซึ่งถ้าดูตามสายเลือดบรรพบุรุษจะต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ของอังกฤษ และแอลเป็นญาติห่างๆ กับดัชเชสราว 21 ลำดับ
- อาหารโปรดของแอลคือ Cobb Salad (เมนูต้นตำรับคิดค้นโดย บ็อบ คอบบ์ เจ้าของร้านอาหาร Brown Darby ในฮอลลีวูด)