×

แอล แฟนนิง และอีกหลายเหตุผลที่ไม่ควรพลาดการรับชม 20th Century Women ในโรงภาพยนตร์

27.06.2017
  • LOADING...

     หลังจากสัปดาห์ของหุ่นยักษ์ Transformers ผ่านพ้นไป สัปดาห์นี้ก็ถึงคิวของหนังอินดี้ที่น่าสนใจหลายเรื่อง ทั้งหนังไทยอย่าง Pop Aye, Driver คนขับรถ และหนังต่างประเทศอย่าง 20th Century Women ซึ่งเป็นเรื่องที่เรายกให้เป็นไฮไลต์เด่นประจำสัปดาห์นี้

 

     1. หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง โดโรเธีย ฟิลด์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว (แอนเน็ตต์ เบนนิง) กับเจมี (ลูคัส เจด ซูมานน์) ลูกชายวัยกำลังโตที่เริ่มเรียนรู้เพื่อจะก้าวไปสู่การเป็นวัยรุ่นเต็มตัว ด้วยอายุที่ห่างกันมากพอสมควร และสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาต่างยุคสมัย ทำให้มีกำแพงบางอย่างกั้นกลางความรู้สึกของทั้งคู่เอาไว้ คนเป็นแม่หวังที่จะให้ผู้หญิงที่วัยใกล้เคียงและสนิทสนมกับลูกชายมากกว่ามาคอยดูแล จึงฝากฝังให้จูลี (แอล แฟนนิง) เพื่อนผู้หญิงที่เจมีหลงรัก และแอ๊บบี้ (เกรต้า เกอร์วิก) ช่างภาพฮิปสเตอร์ผมแดงที่กำลังต่อสู้กับมะเร็งปากมดลูกมาช่วยลดช่องว่างนี้ลง แต่ดูเหมือนว่าความ ‘ซับซ้อน’ ทางอารมณ์และความคิดของตัวละครทั้งหมดกลับทำให้ช่องว่างที่ควรหดแคบขยายวงกว้างออกไปทุกที

 

 

     2. ไมค์ มิลส์ คือ ผู้กำกับที่หากินกับเรื่องคนใกล้ตัวได้เก่งสุดๆ เพราะก่อนหน้านี้ไมค์ มิลล์ เพิ่งสร้างชื่อจากการเอาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและพ่อที่เป็นเกย์มาเป็นเส้นเรื่องหลักใน Beginners (2010) แล้วก็เลือกเอาความสัมพันธ์กับแม่ที่อายุห่างกันมากๆ (และเป็นฮิปสเตอร์รุ่นใหญ่) มาเล่าใน 20th Century Women ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์แต่รวมทั้งคาแรกเตอร์ของตัวละคร โดโรเธีย ฟิลด์ ที่เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก เจเน็ต โดว์ แม่ของเขาแทบจะทั้งหมด ทั้งทำงานในบริษัทที่มีแต่ผู้ชาย มีลูกตอนแก่ สูบบุหรี่จัด อยากเป็นนักบิน และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 1999 ฯลฯ แอบลุ้นนิดๆ ว่าต่อไปเขาอาจจะหยิบเรื่องภรรยาของเขา มิแรนดา จูลาย ผู้กำกับหญิงที่ติสต์สุดๆ มาเล่าให้ฟังบ้างก็น่าสนุกดีเหมือนกัน

 

 

      3. ตัวละครหลักอีก 2 ตัว อย่าง แอ๊บบี้ ก็ได้คาแรกเตอร์มาจากพี่สาวของมิลส์ ส่วน จูลี ก็มาจากเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบปีนเข้ามาที่ห้องนอนของเขาเพื่อเล่าให้ฟังว่าเพิ่งไปมีอะไรกับใครมาบ้าง การที่เขาใช้ชีวิตรายล้อมด้วยผู้หญิงมาตั้งแต่เล็ก ทำให้มิลส์เข้าใจความเป็นผู้หญิงได้ดีอย่างที่เราจะเห็นในหนัง

 

 

      4. จริงๆ นักแสดงในเรื่องนี้เล่นดีทุกคน แต่ แอนเน็ตต์ เบนนิง คือที่สุดของที่สุดแล้ว เนื่องจากแม่ของมิลส์เสียชีวิตไปแล้ว เธอเลยใช้วิธีศึกษาคาแรกเตอร์แม่ของมิลส์ผ่านหนังคลาสสิกที่เธอชอบดูอย่าง Stage Door (1937) และ Casablanca (1942) ฯลฯ โดยเฉพาะหลายๆ ซีนที่เรารู้สึกว่าเธอทำได้ดีมากๆ เวลาต้องแสดงเป็นคนที่ไม่มั่นใจแต่ต้องทำเหมือนมั่นใจ ไม่ยี่หระกับอะไรอยู่ตลอด แบบที่เคยทำได้ดีมากๆ ใน American Beauty (1999) มาแล้ว

 

 

      5. แอล แฟนนิง สวยมาก! จากปกติที่สวยอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้คือสวยสะกดแบบสุดๆ เป็นคนที่ไม่ว่าจะพูด เดิน นอน นั่งเฉยๆ ปีนหน้าต่าง ปั่นจักรยาน สูบบุหรี่ ฯลฯ ก็มีเสน่ห์ไปหมดเลยจริงๆ

 

 

     6. เป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่เซตให้เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในปี 1979 เพราะเขาคิดว่าปีนั้นคือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยหลายๆ อย่าง เช่น เป็นปีที่มีอุปกรณ์ตรวจครรภ์วางขายครั้งแรกในร้านขายยา, เริ่มมีการรักษาอาการทางจิตด้วยวิธีการบำบัดแบบกลุ่ม, ดนตรีพังก์เริ่มเป็นที่นิยม, นิวเคลียร์เริ่มรั่วไหลจากโรงงานในอเมริกา, การเป็นประธานาธิบดีของจิมมี คาร์เตอร์ ฯลฯ ทำให้นอกจากจะได้ดูบันทึกพัฒนาการตัวละครต่างๆ แล้ว เราจะได้เห็นบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับย่อจากในหนังที่แทรกมาเป็นกิมมิกให้เห็นถึงความเลื่อนไหลของยุคสมัยที่วุ่นวายและมีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดอยู่เป็นระยะ

 

 

     7. 20th Century Women ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์แบบถล่มทลายมาก โดยกวาด ‘มะเขือสด’ จากเว็บ Rotten Tomatoes ไปได้ 89 เปอร์เซ็นต์ และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 7.4 คะแนน นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 หนังอิสระที่ดีที่สุดในปี 2016 จาก National Board of Review (สมาคมคณะกรรมการวิจารณ์แห่งชาติ) อีกด้วย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising