×

Pitti Uomo 92 งานแฟชั่นที่มีมากกว่าสูทสีฉูดฉาดแข่งกับไอศกรีม Paddle Pop

21.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • จุดเริ่มต้นของงาน Pitti Uomo ต้องย้อนกลับไปปี 1951 ที่ผู้ดีและชนชั้นสูงของอิตาลีอย่าง โจวานนี บัตติสตา จอร์จินี (Giovanni Battista Giorgini) ได้เริ่มจัดงานแฟชั่นต่างๆ ในเมืองฟลอเรนซ์ และได้เริ่ม Pitti Uomo ครั้งแรกในปี 1972
  • ทุกวันนี้งาน Pitti Uomo จะจัดขึ้นที่ป้อมปราการ Fortezza da Basso เป็นเวลา 4 วัน ระหว่างช่วงลอนดอนและมิลานแฟชั่นวีก
  • Pitti Uomo ครั้งล่าสุดจัดเป็นครั้งที่ 92 และมีคนเข้าชมมากกว่า 30,000 คน
  • ดีไซเนอร์รับเชิญปีนี้คือ โจนาธาน แอนเดอร์สัน (Jonathan Anderson) และ เวอร์กิล แอ็บโล (Virgil Abloh)

     “ใครจะกล้าใส่สูทสีส้ม?”…สุภาพบุรุษที่ไปงาน Pitti Uomo

     “ใครจะกล้าใส่ชุดสูท 3 ชิ้นสีม่วงเฉดสีเดียวกันกับไดโนเสาร์ Barney?”…สุภาพบุรุษที่ไปงาน Pitti Uomo

     “ใครจะกล้าใส่ชุดสูทสีเหลืองมะม่วงซันเดย์ พร้อมหมวกเฟโดรา แว่นตากันแดด รองเท้าหนัง monk strap กำไลลูกปัด 4 อัน และนาฬิกาโรเล็กซ์?”…แน่นอนว่าเป็นสุภาพบุรุษที่ไปงาน Pitti Uomo

 

 

     พูดได้ว่างานจัดแสดงสินค้าแฟชั่นสุภาพบุรุษ Pitti Uomo ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ได้กลายเป็นอีกหนึ่งงานแฟชั่นที่ได้รับการจับตามอง และยิ่งเพิ่มความน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี

     Pitti Uomo ไม่ใช่แค่งานแฟชั่นที่จัดเป็นเทศกาลพรมแดงให้คนมาอวดโฉมชุดสูทตัวเอง แต่เป็นศูนย์กลางที่ทุกภาคส่วนของวงการแฟชั่นผู้ชายจะมารวมตัวกัน เพื่อผลักดันให้วงการนี้ก้าวไปอีกขั้น ตามที่มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าธุรกิจจะสูงถึง 3.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2020

 

 

ความเป็นมาของ Pitti Uomo

     จุดเริ่มต้นของงาน Pitti Uomo (Uomo แปลว่าสุภาพบุรุษในภาษาอิตาเลียน) ต้องย้อนกลับไปในปี 1951 ที่ผู้ดีและชนชั้นสูงของอิตาลีอย่าง โจวานนี บัตติสตา จอร์จินี (Giovanni Battista Giorgini) ได้เริ่มจัดงานแฟชั่นต่างๆ ในเมืองฟลอเรนซ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมงานของดีไซเนอร์อิตาเลียน และช่วยรื้อฟื้นอุตสาหกรรมแฟชั่นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง โดยได้ทำการชักชวนให้เหล่าบายเออร์และสื่อต่างประเทศมาชมผลงานช่วงแฟชั่นวีก ซึ่งในสมัยนั้นจะเน้นไปที่ปารีสแฟชั่นวีกเป็นหลัก

     เพราะความสำเร็จของงานแฟชั่นเหล่านี้ ในปี 1972 เลยมีการจัดงาน Pitti Uomo เป็นครั้งแรกเพื่อโฟกัสแฟชั่นกลุ่มผู้ชาย โดยในงานจะเปิดโอกาสให้เหล่าดีไซเนอร์ได้โชว์ผลงานตัวเอง ซึ่งในช่วงแรก 90 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าจะเน้นเสื้อผ้าทางการและงานของดีไซเนอร์อิตาเลียนเป็นหลัก แต่เพราะความนิยมที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดีไซเนอร์และแบรนด์ต่างประเทศเลยเริ่มสนใจจะมาเปิดบูทและแสดงสินค้าที่งานนี้ด้วย

 

 

     ทุกวันนี้งาน Pitti Uomo จะจัดขึ้นที่ป้อมปราการ Fortezza da Basso เป็นเวลา 4 วัน ระหว่างช่วงลอนดอนและมิลานแฟชั่นวีก ซึ่งใน 1 ปีจะจัด 2 ครั้งช่วงเดือนมกราคมและมิถุนายน ภายในงานจะมีพื้นที่มากกว่า 60,000 ตารางเมตร แบ่งการจัดงานออกเป็นหลายโซน โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย กิจกรรมหลักคือการที่บายเออร์ทั่วโลกจะมาเลือกชมสินค้าเพื่อนำไปขายที่ร้านหรือห้างตัวเอง ซึ่งก็รวมถึงการซื้อขายเนื้อผ้าสำหรับเจ้าของร้านตัดสูทด้วย

 

ความสำเร็จของ Pitti Uomo 92

     Pitti Uomo ครั้งล่าสุดจัดเป็นครั้งที่ 92 (13-16 มิถุนายน 2017) มีผู้เข้าชมมากกว่า 30,000 คน โดย 19,000 คน เป็นบายเออร์ที่มาจากทั่วโลก ในส่วนของคนที่มาจัดแสดงสินค้าก็มีมากกว่า 1,220 แบรนด์ ซึ่ง 540 แบรนด์เป็นแบรนด์จากต่างประเทศ

     ในปีนี้มีการแบ่งโซนออกเป็น 15 ยูนิต ที่มีจุดประสงค์ต่างกันออกไป เช่น โซน Touch! ที่โฟกัสเสื้อผ้าสไตล์คอนเทมโพรารี โซน HI BEAUTY ที่รวบรวมผู้ผลิตน้ำหอมแบบเฉพาะ โซน I PLAY ที่เจาะกลุ่มสปอร์ตแวร์ และโซน Eye Pop ที่จัดแสดงสินค้ากลุ่มแว่นตา เป็นต้น

 

 

     อีกหนึ่งไฮไลต์ของ Pitti Uomo 92 คือนิทรรศการและอีเวนต์ต่างๆ ที่มีการจัดขึ้นมาพิเศษ หนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจในปีนี้ คือแบรนด์รองเท้าเจ้าพ่อพื้นแดงอย่าง Christian Louboutin ที่จัดการแข่งขัน Bike Polo ในจัตุรัส Piazza Santa Maria Novella โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 8 ทีม และผู้แข่งขันทุกคนจะสวมใส่รองเท้าจากคอลเล็กชัน Spring/Summer 2018 ของแบรนด์

 

 

ดีไซเนอร์รับเชิญ

     กลายเป็นอีกหนึ่งประเพณีของงาน Pitti Uomo ที่จะต้องมีการเชิญดีไซเนอร์แถวหน้ามาโชว์คอลเล็กชันล่าสุด ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีทั้ง ราฟ ซิมงส์ (Raf Simons), โกชา รับชินสกี (Gosha Rubchinskiy) และ ทิม คอปเปนส์ (Tim Coppens) เป็นต้น แน่นอนว่าทันทีที่ทาง Pitti Uomo 92 ประกาศว่าดีไซเนอร์ที่จะมาร่วมในปีนี้คือ โจนาธาน แอนเดอร์สัน (Jonathan Anderson) แห่งแบรนด์ J.W. Anderson และเวอร์กิล แอ็บโล (Virgil Abloh) แห่ง Off-White ก็เรียกกระแสได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งสองแบรนด์ต่างก็เป็นโชว์สำคัญช่วงแฟชั่นวีก (J.W. Anderson จะจัดที่ลอนดอน ส่วน Off-White จัดที่ปารีส)

 

 

     คอลเล็กชัน Spring/Summer 2018 ของ J.W. Anderson จัดขึ้นในสวนของ Villa La Pietra โดยโจนาธานได้รังสรรค์คอลเล็กชันที่เน้นไอเท็มเบสิกของผู้ชาย ทั้งเสื้อยืดลายกราฟิก กางเกงขาสั้น สเวตเตอร์ลายริ้ว เทรนช์โค้ตพิมพ์ลายหัวใจ และรองเท้าสนีกเกอร์สีกากเพชรที่มีการร่วมงานกับแบรนด์ Converse (ปีนี้โจนาธานยังจะมีคอลเล็กชันกับ Uniqlo อีกด้วย)

 

 

     สำหรับเวอร์กิลเขาได้เลือกใช้โชว์ Off-White ที่ Pitti Uomo 92 เพื่อสะท้อนปัญหาการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในอเมริกา ประเทศบ้านเกิด (พ่อแม่ของเขาอพยพมาจากประเทศกานา) โดยในโชว์มีการร่วมมือกับศิลปินร่วมสมัย เจนนี โฮลเซอร์ (Jenny Holzer) ในการยิงคำพูดคมๆ แบบไฟ LED ไปบนผนังของ Pitti Palace สถานที่จัดโชว์ ส่วนเสื้อผ้าก็ยังคงเน้นแนวสตรีท แต่เพิ่มการตัดเย็บ tailoring ให้ดูมีมิติและรูปทรงที่ใหม่ขึ้น

 

Pitti Uomo สร้างสรรค์อะไร

     แน่นอนชุดที่ผู้คนใส่ไปงาน Pitti Uomo ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสีสันและเสน่ห์สำคัญของงาน ซึ่งภาพจะถูกแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดียและสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งตัวชั่วข้ามคืน แต่เราก็ไม่ควรลืมหลักการสำคัญของงานนี้ที่เปิดโอกาสให้ทุกแบรนด์จากทั่วทุกมุมโลกได้มีจุดยืนในเวทีสากล

     ด้วยความสำเร็จที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของ Pitti Uomo ในขณะที่แฟชั่นวีกกลับดูมีบทบาทน้อยลง หรืออาจเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับแฟชั่นสุภาพบุรุษจะรวมอยู่ที่ Pitti Uomo ที่เดียว?

 

 

Photos: pittimmagine

อ้างอิง:

FYI
  • สุภาพบุรุษที่สวมใส่ชุดสูทสีสันจัดจ้านในงานนี้จะเรียกกันว่า ‘Pitti Peacocks’ ที่พวกเขามักจะนั่งตรงกำแพงเตี้ยสุดไอคอนิกที่งาน พร้อมให้คนมาถ่ายรูปแบบเผลอๆ ขณะพวกเขาสูบบุหรี่ พูดคุยกัน หรือกินไอติมเจลาโต
  • ป้อมปราการ Fortezza da Basso ที่ใช้จัดงาน Pitti Uomo สร้างขึ้นมาในช่วง ค.ศ. 1534-1536 และเริ่มใช้สำหรับจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X