×

ความผันผวนของตลาดคริปโต ท่ามกลางมาตรการ QT ยาแรงไม้ตายของ Fed

16.09.2022
  • LOADING...
มาตรการ QT

นับว่าเป็นปีแรกเลยก็ว่าได้สำหรับตลาดคริปโตที่กำลังถูกทดสอบด้วยภาวะทางเศรษฐกิจที่รุมเร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมาตรการ Quantitative Tightening หรือ QT ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่คริปโตจะได้เผชิญกับเหตุการณ์จากมาตรการนี้ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตลาดคริปโตปรับขึ้นได้จากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางที่เราอาจจะพอคุ้นหูกันมาบ้างอย่าง Quantitative Easing หรือ QE จากช่วงโควิดระบาดในปีที่ผ่านมา

 

โดยกระบวนการคือ ธนาคารกลางจะพิมพ์เงินใหม่ แล้วนำไปซื้อพันธบัตรจากธนาคารพาณิชย์ เพื่อลดดอกเบี้ย เมื่อเกิดการลดดอกเบี้ย เงินเหล่านั้นก็จะถูกธนาคารพาณิชย์นำไปใช้ปล่อยกู้ต่อ เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ซึ่งผลลัพธ์ที่มาจากการทำ QE ทำให้มีเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ระบบ ซึ่งจำเป็นต้องหาที่ออกของเงิน ส่งผลให้หุ้นขึ้นกระจุยและเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่กับตลาดคริปโต ทั้งที่เศรษฐกิจโดยรวมอาจจะยังไม่ได้เฟื่องฟูตามราคาหุ้นหรือคริปโตที่พุ่งนำไปก่อนแล้ว แน่นอนว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อ QE ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่หวัง เงินล้นระบบจนเกิดภาวะเงินเฟ้อ ทางธนาคารกลาง หรือ ​Fed ก็ต้องมีมาตรการไว้คอยรับมือขั้วตรงข้ามของ QE อย่าง QT เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น แต่ QT คืออะไร แล้วส่งผลอย่างไรกับตลาดคริปโต เราจะมาทำความรู้กันไปพร้อมกัน

 

QT คืออะไร และสำคัญอย่างไร

Quantitative Tightening หรือ QT คือขั้นตรงข้ามกับการทำ QE ซึ่งเป็นนโยบายที่ธนาคารกลางจะดึงเงินที่เคยอัดฉีดเข้าระบบตอน QE ออก ไม่ว่าจะเป็นการขายสินทรัพย์อย่างพันธบัตรรัฐบาลคืนให้ตลาดการเงิน เพื่อให้คนอื่นในตลาดมาซื้อไป เป็นการลดปริมาณเงินที่ถือครองในระบบ หรือปล่อยพันธบัตรรัฐบาลที่ซื้อจากธนาคารพาณิชย์หมดอายุ โดยกระทรวงการคลังของรัฐนั้นจะต้องจ่ายคืนเงินต้นให้กับธนาคารกลาง แต่แทนที่จะซื้อพันธบัตรตัวใหม่เหมือนที่ผ่านมา ตรงกันข้ามคือไม่ซื้อ แถมนำเงินส่วนนั้นลบออกไปจากระบบบัญชีเฉยๆ เหมือนไม่เคยมีเงินส่วนนี้เกิดขึ้น

 

พูดอีกนัยหนึ่ง การทำ QT จะทำให้เงินในระบบลดลงนั่นเอง ซึ่งความสำคัญของเงินในระบบที่ลดลง จุดประสงค์ก็เพื่อระงับความร้อนแรงของเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ โดยแผนการจากรายงานล่าสุดของ Fed จะลดเงินในระบบลงถึง 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งเริ่มแล้วในเดือนกันยายนที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน และจะคงปริมาณเท่านี้ต่อไปอีก 3 เดือน

 

QT ส่งผลอย่างไรต่อตลาดคริปโต

ความจริงแล้ว QT ไม่ได้ส่งผลแค่กับตลาดคริปโตเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยรวมต่อตลาดทุนและตลาดการเงินทั่วโลก จากปริมาณเงินในระบบที่ลดลงจากมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นผลให้คนส่วนใหญ่เน้นการถือเงินสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกุลเงินดอลลาร์ เอาไว้มากกว่าการนำเงินลงไปลงทุน เมื่อคนส่วนใหญ่เน้นถือเงินสด สินทรัพย์เสี่ยงทั้งหลายก็มีแนวโน้มจะปรับตัวลง ประกอบกับความกังวลของผลกระทบจากมาตรการนี้ของนักลงทุน ก็เป็นตัวกระตุ้นไปในทิศทางนั้นด้วยเช่นกัน แม้แต่ตลาดคริปโตเองก็ไม่อาจเลี่ยงได้ ซึ่งผลกระทบจะกินเวลานานขนาดไหนคงไม่สามารถตอบเป็นระยะเวลาได้อย่างแม่นยำ แต่เราต้องเผชิญผลจาก QT ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าอัตราการเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลง และจนกว่าบัญชีงบดุลของ Fed จะถูกลดถึง 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งเป็นปริมาณเงินที่เยอะเกินกว่าจะสามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้ อีกทั้ง Fed เองอาจขยายเวลาทำต่อไปหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มทำ QT ในเดือนมิถุนายน เรียกได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการลดปริมาณเงินไม่เป็นไปตามเป้าของ Fed เท่าไรนัก เนื่องจากในช่วงเดือนมิถุนายนมีการประกาศเริ่มทำ QT ลดปริมาณเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนจนถึงเดือนสิงหาคม แต่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมากลับลดเงินในระบบไปได้เพียง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบอกว่าอัตราดอกเบี้ยอาจถูกขึ้น แรงขึ้น และกระชั้นขึ้น เพื่อให้แผนสามารถสำเร็จได้ในสิ้นปีหน้า หรือไม่ก็คงแผนเดิม แต่ยืดระยะเวลาของดอกเบี้ยที่สูงนี้ไปอีกกี่ปีก็ไม่รู้จนกว่าจะได้ผลตามเป้า ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไหนก็กระทบต่อตลาดทุนทั้งคู่ ฉะนั้นอย่าลืมบริหารความเสี่ยงและวางแผนการลงทุนในช่วงนี้กันด้วย

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising