จากกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่รองนายกรัฐมนตรียูเครน และรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมากดดันให้เว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกแบนบัญชีหรือจำกัดสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้งานชาวรัสเซีย เพื่อปิดกั้นช่องทางขนเงินเข้าประเทศ พานให้เกิดคำถามในใจหลายคนว่า ทำไมเว็บเทรดเหล่านั้นถึงสามารถแบนบัญชีผู้ใช้งานได้ ทั้งๆ ที่โลกคริปโตเคอร์เรนซีเป็นระบบ Decentralized (กระจายอำนาจ) และไร้คนกลาง คำตอบง่ายๆ ก็คือเว็บซื้อขายเหล่านั้นยังเป็นระบบ Centralized นั่นเอง
อันที่จริงเว็บเทรดหรือตลาดซื้อขายที่เราใช้งานกันมีทั้งหมด 2 ประเภท คือ Centralized Exchange (CEX) และ Decentralized Exchange (DEX)
กระดานเทรดชื่อดังทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Binance, FTX, Coinbase, KuCoin หรือกระดานเทรดสัญชาติไทย Bitkub, Zipmex, Satang Pro ฯลฯ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นกระดานเทรดแบบ Centralized ทั้งสิ้น แม้จะเชื่อมต่อกับบล็อกเชน แต่ก็มีคนดูแลข้อมูลเรื่องราวต่างๆ ภายในเว็บซื้อขาย มีการทำ KYC เพื่อยืนยันตัวผู้ใช้งาน สามารถร้องเรียนปัญหา หรือกู้เหรียญได้ ซึ่งถ้าหากเป็นเว็บเทรดแบบ Decentralized ระบบการดูแลผู้ใช้เหล่านี้จะหายไปทั้งหมด
อย่างที่เราทราบกันดีว่าโลกคริปโตนั้นถูกรันด้วยระบบบล็อกเชน และไร้คนกลางในการควบคุม เป็นการติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้ใช้งานกับผู้ใช้งาน โดยมีโค้ดและระบบเป็นตัวเชื่อม ฉะนั้นเว็บเทรดใน Decentralized จะขับเคลื่อนบนบล็อกเชนร้อยเปอร์เซ็นต์ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้อง KYC ก่อนเข้าใช้งาน เพราะผู้พัฒนาไม่สนใจว่าใครเป็นคนเทรด และหน่วยเงินตราในการซื้อขายก็เป็นทรัพย์สินดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งเว็บเทรดประเภทนี้ ได้แก่ PancakeSwap, Uniswap เป็นต้น
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนักเทรดหลายคนถึงเลือกทำธุรกรรมซื้อขายนอกกระดานเทรดดัง หรือเลือกเก็บเงินไว้ใน Hardware Wallet แทนการเก็บเงินไว้ใน Exchange
ภาพ: Shutterstock
