สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โครเอเชียเข้าสู่ปีใหม่ ปี 2023 ด้วยการเริ่มใช้สกุลเงินยูโร รวมถึงเข้าเป็นสมาชิกยูโรโซน (Eurozone) และสมาชิกพื้นที่เชงเก้น (Schengen Area) อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 เป็นต้นไป หลังจากที่รัฐบาลโครเอเชียเคยลงนามแสดงความจำนงต้องการเข้าเป็นสมาชิกเชงเก้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2011 ที่ผ่านมา และเข้าเป็นสมาชิกประเทศล่าสุดของสหภาพยุโรป (EU) เมื่อช่วงกลางปี 2013 ได้สำเร็จ
การตัดสินใจปรับเปลี่ยนการใช้สกุลเงินคูนา (Kuna) มาเป็นสกุลเงินยูโร ทำให้โครเอเชียนับเป็นประเทศที่ 20 ในเขตยูโรโซนที่ใช้เงินสกุลดังกล่าวนี้ และเป็นประเทศที่ 27 ในพื้นที่เชงเก้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้พลเมืองยุโรปในบรรดาประเทศสมาชิกเชงเก้นกว่า 410 ล้านรายสามารถเดินทางเข้า-ออกพรมแดนกันได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น
โดยอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ 2 ประการของประเทศสมาชิก EU อย่างโครเอเชีย นั่นคือ “ตั้งแต่ 1 มกราคมนี้เป็นต้นไป วันนี้จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในหนังสือตำราประวัติศาสตร์หลายต่อหลายเล่ม ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงเวลาแห่งความสุขและความภาคภูมิใจของชาวโครเอเชียนี้ เปรียบเสมือนเป็นเครื่องยืนยันถึงการเดินทางอันน่าทึ่ง ความมุมานะอุตสาหะ และความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกคุณ”
ขณะที่อังเดรย์ เปลนโควิช นายกรัฐมนตรีโครเอเชีย ระบุว่า ประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐยูโกสลาเวียและต่อสู้ในสงครามประกาศเอกราชในช่วงทศวรรษ 1990 มาวันนี้บรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ทางรัฐชาติ และทางการเมืองแล้ว โดยการเข้าเป็นสมาชิกพื้นที่เชงเก้นมีความหมายอย่างมากสำหรับชาวโครเอเชีย พวกเขาสามารถขยายพื้นที่การท่องเที่ยวผ่านทางรถยนต์ได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการเข้าคิวเพื่อรอข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างฮังการีและสโลวีเนียจะกลายเป็นเพียงแค่อดีตไปแล้ว
โดยรัฐบาลโครเอเชียหวังว่าการเข้าเป็นสมาชิกเชงเก้นจะมีส่วนช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศนี้ ซึ่งคิดเป็นราว 20% ของ GDP ของประเทศ และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวปีละหลายล้านรายเดินทางมาเยือนประเทศแห่งนี้ อีกทั้งการเข้าเป็นสมาชิกยูโรโซนยังมีส่วนช่วยปกป้องภาคเศรษฐกิจของโครเอเชียจากภาวะวิกฤตเงินเฟ้อที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้อีกด้วย
แฟ้มภาพ: lara-sh / shutterstock
อ้างอิง: