โรนัลโดส่งสัญญาณ ขออำลายูเวนตุส?

ดูเหมือนว่าความเคลื่อนไหวในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดการซื้อขายนักฟุตบอลจะมีเรื่องให้น่าติดตามกันเพิ่มขึ้น หลังจากที่ คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ผู้อยู่บนจุดสูงสุดของโลกฟุตบอลเช่นเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี ได้ขอนั่งเป็นตัวสำรองในเกมแรกของฟุตบอลเซเรียอา ฤดูกาลใหม่ 2021/22

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณที่น่าสนใจทันที เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรนัลโดมีกระแสข่าวการย้ายทีม เพียงแต่กระแสข่าวดังกล่าวไม่ดังมากนัก และตัวของดาวเตะวัย 36 ปีเองก็ออกมาเคลื่อนไหวสยบกระแสข่าวลือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผ่านการโพสต์บนโซเชียลมีเดียของตัวเอง

สรุปแล้วโรนัลโดต้องการจะย้ายทีมหรือไม่ มีโอกาสแค่ไหนที่เขาจะย้ายทีม แล้วเรื่องนี้จะนำไปสู่บทสรุปใดได้บ้าง? มาลองอ่านสถานการณ์ไปด้วยกันกับ THE STANDARD

เรื่องของโรนัลโดกลายเป็นเรื่องขึ้นมา เมื่อมีการประกาศรายชื่อผู้เล่นในเกมเซเรียอา และพบว่า กัปตันทีมชาติโปรตุเกสมีชื่อเป็นตัวสำรอง โดยที่สื่อหลายสำนัก รวมถึงผู้สื่อข่าวที่มีชื่อเสียงในเรื่องของตลาดนักเตะอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน ยืนยันว่า นี่เป็นการเรียกร้องจากเจ้าตัวเองในการขอนั่งเป็นตัวสำรอง
เหตุผลนั้นเป็นเพราะโรนัลโด ‘ต้องการความชัดเจน’ เกี่ยวกับเรื่องอนาคตของตัวเอง หลังมีความสับสนว่าสุดท้ายแล้วเขาจะมีโอกาสในการย้ายออกจากตูรินหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวสะพัดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ฮอร์เก เมนเดส เอเจนต์ส่วนตัวของเขา ได้พยายามติดต่อกับหลายสโมสรระดับชั้นนำ เพื่อสอบถามความเป็นไปได้ในการจะคว้าตัวเขาไปร่วมทีม
โดยค่าตัวของโรนัลโดที่มีการประเมินในเวลานี้อยู่ที่เพียง 25 ล้านยูโรเท่านั้น เนื่องจากมีระยะเวลาในสัญญากับยูเวนตุสเหลือเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ซึ่งยูเวนตุสเองก็คิดว่าหากขายไปตอนนี้ อย่างน้อยยังได้เงินกลับมา ดีกว่าเสียไปแบบฟรีๆ
กรณีระหว่างโรนัลโดกับยูเวนตุสนั้นมีสัญญาณของความระหองระแหงมาตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าต่างฝ่ายจะต่างไม่ต้องการร่วมทางกันอีกต่อไป โดยเฉพาะฝ่ายยูเวนตุสที่ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจากวิกฤตโควิด และดูเหมือนเงินค่าตัว 100 ล้านยูโร และค่าเหนื่อยอีกมหาศาลที่จ่ายให้แก่โรนัลโดจะไม่ได้รับผลตอบรับที่คุ้มค่านัก เพราะความหวังสูงสุดอย่างรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเลย (2018/19 รอบ 8 ทีม, 2019/20 รอบ 16 ทีม, 2020/21 รอบ 16 ทีม)
การตัดโรนัลโดออกจากสโมสร คือการลดภาระที่ใหญ่หลวงของสโมสรลง เพียงแต่ปัญหาคือการย้ายทีมของนักเตะระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีสโมสรไม่กี่แห่งในโลกที่จะสามารถจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่สุดยอดซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างโรนัลโดไหว ต่อให้จะมีมูลค่าทางการตลาดสูงแค่ไหนก็ตาม
อีกทั้งด้วยวัยที่ล่วงมาถึง 36 ปี ต่อให้ยังคงรักษาสภาพร่างกายได้อย่างมหัศจรรย์ และฟอร์มการถล่มประตูก็ร้อนแรงแทบไม่แผ่ว ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าการลงทุนกับโรนัลโดจะคุ้มค่า
วิกฤตโควิดยังทำให้ทุกสโมสรต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เงินมากกว่าเดิม ทำให้ ‘ทางออก’ สำหรับโรนัลโดเหลือไม่มากนัก
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เพิ่งได้ ลิโอเนล เมสซี มาร่วมทีม ให้ความสามารถในการจะจ่ายเงินให้แก่โรนัลโดอีกคนนั้นแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และดูไม่มีความจำเป็น ขณะที่เรอัล มาดริด ทีมเก่านั้นอยู่ในวิกฤตทางการเงินขั้นสาหัสไม่ต่างจากบาร์เซโลนา และโรนัลโดก็พยายามออกมาปกป้องเกียรติของทีมเก่าด้วยการโพสต์ทางโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทีมที่ดูน่าสนใจในเวลานี้คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ดูจะถอดใจกับการคว้าตัว แฮร์รี เคน มาจากท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งนักเตะระดับโรนัลโดในสนนราคา 25 ล้านยูโร อาจเป็นการลงทุนที่ถูกและคุ้มค่าพอ และโรนัลโดเองก็จะได้เล่นกับทีมระดับท็อปด้วย
ปัญหาคือความผูกพันระหว่างโรนัลโดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แน่นแฟ้นพอสมควร ทำให้การจะเลือกย้ายไปอยู่กับ ‘เพื่อนบ้านที่เสียงดังน่ารำคาญ’ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
ส่วนการจะกลับมาโอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเวลานี้ขุมกำลังในแนวรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่าแน่นทุกจุดแล้ว โดยมีการต่อสัญญากับ เอดินสัน คาวานี ไปเมื่อปลายฤดูกาลที่แล้ว และยังได้ จาดอน ซานโช มาเสริมแนวรุกอีกราย โรนัลโดไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ในเวลานี้แทบไม่มีทางออกฉุกเฉินให้แก่โรนัลโดหรือยูเวนตุสเลย และลึกๆ แล้วต่างฝ่ายต่างก็ยังคงไม่แน่ใจกันและกันว่าหากจะจบลงด้วยการแยกทางกันตรงนี้จะเป็นผลดีที่สุดต่อทุกฝ่ายหรือไม่
นั่นเป็นเหตุผลที่โรนัลโดเองก็ไม่เคยแสดงออกว่าต้องการจะย้ายทีม จนกระทั่งเริ่มมีการส่งสัญญาณครั้งนี้ในการที่จะขอนั่งเป็นตัวสำรองก่อน
ฟากยูเวนตุสเองก็พยายามสยบกระแส โดยยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร โดยมีการพูดคุยกันก่อนแล้ว ขณะที่ทางด้าน มักซิมิลิอาโน อัลเลกรี โค้ชที่กลับมาคุมทีมอีกครั้งยืนยันว่า การดร็อปโรนัลโดเป็นตัวสำรองเป็นการตัดสินใจของเขาเอง
เรื่องนี้จะมีโอกาสพัฒนาไปอีกขั้นต่อเมื่อมีสโมสรที่พร้อมจะติดต่อและยื่นข้อเสนอมาอย่างจริงจัง
แต่หากไม่มีข้อเสนอใดเข้ามา โรนัลโดจะอยู่กับยูเวนตุสต่อไปในสัญญาปีสุดท้าย แล้วค่อยดูทิศทางในฤดูกาลหน้าอีกครั้งว่าจะสามารถเดินทางไปที่ใดต่อได้ ซึ่งจากการประเมินทิศทางข่าวแล้ว มีโอกาสที่จะออกหน้านี้มากที่สุด
เพียงแต่ก็ประมาทตลาดนักเตะไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงวันท้ายๆ ที่สามารถเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายได้เสมอ เช่น หาก คีเลียน เอ็มบัปเป บีบเปแอสเชและย้ายไปเรอัล มาดริด ได้สมใจ บางทีคนที่อาจจะมาแทนก็คือโรนัลโด ที่จะหมายถึงการได้เล่นร่วมกับเมสซีและเนย์มาร์ อาจจะฟังดูเป็นเกมเพลย์สเตชัน แต่ไม่ใช่จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นจริง