บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ที่แข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 13,483 ล้านบาท เติบโต 21% และกำไรสุทธิ 4,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง กล่าวว่า การเติบโตนี้มีปัจจัยหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยในครึ่งแรกของปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยกว่า 17.5 ล้านคน สอดคล้องกับประมาณการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 35-36 ล้านคนในปีนี้
นอกจากนี้การพัฒนาโครงการรูปแบบผสม (Mixed-Use Development) ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท ส่งผลให้มีพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์, เซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม รวมถึงรายได้จากธุรกิจที่พักอาศัยที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดขายคอนโดมิเนียมเอสเซ็นท์ในจังหวัดนครสวรรค์และนครปฐม โดยมียอดขายกว่า 90% และ 100% ตามลำดับ และล่าสุดได้เปิดขายคอนโดเอสเซ็นท์ บางนา ในเดือนมิถุนายน
ในด้านการขยายธุรกิจระดับนานาชาติ บริษัทฉลองความสำเร็จครบรอบ 5 ปีของ Central i-City ในมาเลเซีย และเตรียมพัฒนาโครงการ The World’s New Magnitude ซึ่งประกอบด้วยโครงการมิกซ์ยูส 5 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 2.2 ล้านตารางเมตร โดยโครงการแรกคือ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งจะเปิดโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ในเดือนกันยายนนี้ และเตรียมเปิดอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า Central Park ในปี 2568
ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 เซ็นทรัลพัฒนามีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 42 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 40 แห่ง – เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 โครงการ ต่างจังหวัด 23 โครงการ และมาเลเซีย 1 โครงการ, ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง, ศูนย์การค้าเมกาบางนา ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ยังบริหารศูนย์อาหาร 36 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 9 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 37 โครงการ