บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีการถือหุ้นในบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 เพื่อตอบสนองต่อข้อสงสัยที่ปรากฏในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการครอบงำกิจการ
เซ็นทรัลพัฒนาระบุว่าบริษัทถือหุ้นในดุสิตธานีจำนวน 145,238,320 หุ้น คิดเป็น 17.09% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยถือหุ้นในสัดส่วนนี้มาตั้งแต่ปี 2561 และ “เคารพในการบริหารงานของผู้ถือหุ้นใหญ่ และสนับสนุนการดำเนินงานด้วยดีมาโดยตลอด” พร้อมยืนยันว่า “การเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งกรรมการเป็นไปตามแนวทางการมีส่วนร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้นซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติตามปกติในการดูแลเงินลงทุน โดยไม่มีอำนาจในการควบคุมในดุสิตแต่อย่างใด”
ทางบริษัทอธิบายว่าได้ร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับดุสิตธานีในการพัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มาตั้งแต่ปี 2560 โดยใช้งบลงทุนมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวมกว่า 46,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เซ็นทรัลพัฒนายันถือหุ้นดุสิตธานี 17% ไม่มีอำนาจควบคุม พร้อมยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจดำเนินการของ ‘ชนัตถ์และลูก’
- ประมวลภาพ ศุภจี ลาออกจากซีอีโอ ‘ดุสิตธานี’ มีผลทันที เตรียมนั่ง รมว.พาณิชย์ ชี้เศรษฐกิจไทยรอช้าไม่ได้
- สินี-สุนงค์ โต้ ‘ชนินทธ์’ ปมกล่าวหาเปิดประตูเชิญชวนคนนอกที่ไม่เคยบริหาร ‘ดุสิตธานี’ มาก่อนเข้ามามีอำนาจควบคุม ชี้ไม่เป็นความจริง เป็นการจงใจหมิ่นประมาทใส่ความ
- ชนินทธ์เปิดข้อมูล 2 น้องสาวจับมือคนนอกหวังยึดกิจการ ‘ดุสิตธานี’ ระบุกลุ่มเซ็นทรัล พยายามซื้อหุ้น DUSIT เพิ่ม
เซ็นทรัลพัฒนาเน้นย้ำว่าการส่งตัวแทนเข้าเป็นกรรมการมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญสนับสนุนการดำเนินงานของดุสิตธานีให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า “มีเจตนาอันดีและดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลตามแนวทางของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” รวมถึงการกำกับดูแลเรื่องการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์อันเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด
นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนายังยืนยันอย่างชัดเจนว่า “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการตัดสินใจดำเนินการของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่บริหารงานดุสิตธานี โดยบริษัทระบุว่าได้ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจมาตลอด 45 ปี และได้รับการรับรองและตรวจสอบอย่างโปร่งใส พร้อมทั้งขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฎหมายหากมีการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริงและก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณะ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 เอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการร่วมกันของกลุ่มบุคคลกระทำการครอบงำกิจการ (acting in concert) ผ่านการถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจดทะเบียน โดยไม่ได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (tender offer) ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่ง ก.ล.ต. ระบุว่าหากตรวจพบการกระทำผิดหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
การชี้แจงของเซ็นทรัลพัฒนาและการตรวจสอบของ ก.ล.ต. เป็นการดำเนินการตามกระบวนการปกติในการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ โดยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังอยู่ระหว่างดำเนินการ