วันนี้ (8 กันยายน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ได้ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ศาลฎีกาพิพากษาให้ 7-Eleven ชนะคดี กรณีถูกกล่าวหาก็อปปี้สินค้าบานาน่า จากกรณีคนเขียนบทความไม่ปฏิบัติตามสัญญา ต้องลงประกาศพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย
ในแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 21-22 เมษายน 2558 CPALL ถูก ชิน รติธรรมกุล เขียนและเผยแพร่บทความหมิ่นประมาทจำนวน 2 ตอน ในเว็บไซต์โอเคเนชั่น ในทำนองว่า บริษัทเป็นบริษัทใหญ่ แต่ไปรังแกผู้ประกอบการรายย่อยที่เสนอสินค้าเข้ามาขายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ด้วยการลอกเลียนสูตรสอดไส้ครีมคัสตาร์ดรสกล้วยของผู้ประกอบการรายย่อย แล้วนำไปทำการค้าหาประโยชน์เอง อันเป็นการรังแกเอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อย
“บทความดังกล่าวถูกส่งต่อในสังคมออนไลน์ และเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ อย่างแพร่หลายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ในการประกอบการของ CPALL”
CPALL จึงได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่ชินต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และเสนอสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการ
ต่อมาพนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องชินเป็นจำเลย ข้อหาหมิ่นประมาทตามบทกฎหมายดังกล่าว ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2843/2559 ซึ่งชินได้เปิดเผยความจริงว่า ได้รับข้อมูลและเนื้อหาบทความดังกล่าวมาจาก นางสาว พ. โดยที่ชินเองก็ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ และได้จัดทำบทความไปโดยไม่เคยสอบถามความเป็นจริงจากบริษัท
ทาง CPALL ได้แสดงหลักฐานในการดำเนินคดีให้เห็นว่า บริษัทไม่มีการกระทำใดที่จะไปกระทำหรือเอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อยตามที่กล่าวหาในบทความ ซึ่งชินได้ทำหนังสือแสดงความรู้สึกเสียใจและขอโทษบริษัทต่อหน้าศาล โดยชินยินดีที่จะแก้ไขฟื้นฟูความเสียหายของบริษัทด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
และจะเผยแพร่บันทึกประนีประนอมยอมความ และเอกสารย่อคำฟ้องคดีอาญาที่แสดงถึงเหตุการณ์ในเรื่องนี้ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ 29 มีนาคม 2560 และจะลงติดต่อกับจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ทาง CPALL จึงไม่ดำเนินคดีและถอนคำร้องทุกข์โดยไม่ติดใจดำเนินคดีอาญา และไม่ติดใจเรียกค่าเสียหายจากชิน คดีจึงได้ระงับไปตามคดีอาญาแดงที่ อ.987/2560
แต่ชินกลับไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ได้กระทำต่อหน้าศาลดังกล่าว บริษัทจึงจำเป็นต้องฟ้องชินในข้อหาผิดสัญญาต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.860/2560 และเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดังกล่าว และคดีถึงที่สุดแล้ว โดยศาลพิพากษาว่า ชินเป็นฝ่ายผิดสัญญา และต้องลงประกาศบันทึกฯ ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับคำบังคับต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 8 เดือน 26 วัน
“ชินต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทเป็นเงินจำนวน 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่บริษัทด้วย”
CPALL ย้ำว่า มีความจำเป็นต้องชี้แจงให้ประชาชน และเรียนย้ำต่อคู่ค้าของบริษัทได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บริษัท และเพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงการใช้วิจารณญาณ ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่ หรือส่งต่อข้อมูลใดๆ ในสังคมออนไลน์ ตลอดถึงเพื่อป้องปรามมิให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นใดแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยการใส่ความผู้อื่น หรือการทำการตลาดด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่เกิดกับบริษัทอีกต่อไปด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เตรียมพบกับฟอรัมที่ผู้บริหาร ‘ต้องดู’ ก่อนวางแผนกลยุทธ์ปีหน้า! The Secret Sauce Strategy Forum คัมภีร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตปี 2022
📌 เฟรมเวิร์กกลยุทธ์ใช้ได้จริง
📌 ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทย–โลก
📌 เทรนด์ผู้บริโภค–การตลาด
📌 เคสจริงจากผู้บริหาร
ซื้อบัตรได้แล้วที่ www.zipeventapp.com/e/the-secret-sauce
#TheSecretSauceStrategyForum2022