เกิดอะไรขึ้น:
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563 บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า CP ALL LAOS Co. Ltd. (ซึ่ง CPALL ถือหุ้น 100%) ได้เข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลักกับ 7-Eleven, Inc. เพื่อจัดตั้งและดำเนินกิจการร้าน 7-Eleven ใน สปป.ลาว โดยได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ใน สปป.ลาว เป็นเวลา 30 ปี ทั้งนี้ คู่สัญญาอาจตกลงต่ออายุสัญญาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20 ปี โดยดีลนี้เป็นการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติมหลังจากเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. (CPALL ถือหุ้น 100%) ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7- Eleven ในกัมพูชาด้วยระยะเวลาเท่ากันกับลาว
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (31 สิงหาคม) ราคา CPALL ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 64.75 บาท ก่อนจะกลับมาปิดที่ระดับ 63.50 บาท ซึ่งเท่ากับวันก่อนหน้า ขณะที่ SET Index ปรับตัว 12.65 จุด หรือลดลง 0.96%DoD สู่ระดับ 1,310.66 จุด
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่า ความคืบหน้าการลงทุนใน สสป.ลาว ครั้งนี้เป็นเพียงปัจจัยหนุนเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้น ซึ่งยังไม่ได้มีผลกระทบต่อผลประกอบการในระยะสั้นนี้ แต่จะเป็น Upside ต่อประมาณการผลประกอบการในระยะยาวมากกว่า ทั้งนี้ ในระยะถัดไปต้องติดตามรายละเอียดแผนการขยายสาขา รวมถึงกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านจากทางบริษัทอย่างเป็นทางการ
มุมมองระยะยาว:
SCBS ได้ประมาณเบื้องต้นโดยอิงสัดส่วนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ 4,000 คน โดยหากใช้บรรทัดฐานของประเทศไทยมาเทียบกับ สปป.ลาว จะหมายว่าจะต้องมีร้านสะดวกซื้อทั้งหมดใน สปป.ลาว จำนวนประมาณ 2,000 ร้านจากจำนวนประชากรทั้ง 9 ล้านคน และมีประมาณ 4,000 ร้านในกัมพูชาจากประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และไต้หวัน มีสัดส่วนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อประมาณ 2,000 คน
SCBS คาดว่า การลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านช่วงแรกจะมีผลขาดทุนน้อยมาก เนื่องจากฐานในประเทศไทยมี Operational Leverage ที่จะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจระยะเริ่มแรกในประเทศเพื่อนบ้านได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล