สถานการณ์ที่ชุมชนริมทางรถไฟสายท่าเรือเป็นภาพสะท้อนวิกฤตโควิดได้ในทุกมิติ ตั้งแต่การตรวจหาเชื้อและการรอเตียง ซึ่ง ‘พี่นก’ ประธานชุมชนริมทางรถไฟสายท่าเรือ บอกกับ THE STANDARD ว่าชุมชนแห่งนี้มี 545 หลังคาเรือน มีประชากรรวมประชากรแฝงประมาณ 3,200 คน เคยตรวจโควิดไปแล้วประมาณ 70% ช่วงที่มีการตรวจเชิงรุกที่ชุมชนคลองเตย แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดหนักขึ้นไม่สามารถหาที่ตรวจเชื้อได้ ชาวบ้านบางส่วนใช้บริการตรวจผ่านคลินิกแห่งหนึ่ง ค่าบริการ 800 บาท ทั้งที่ไม่ทราบมาก่อนว่าผลตรวจจากคลินิกแห่งนี้ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานเพื่อหาเตียงรองรับได้
พี่นกบอกว่าจุดเริ่มต้นของการทำพื้นที่กางเต็นท์ให้ผู้ติดเชื้อในชุมชนเริ่มจากมีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งต้องไปกางเต็นท์นอนอยู่คนเดียวนอกบ้าน เพราะบ้านมีสภาพคับแคบ กลัวคนในบ้านติดเชื้อด้วย ตนเห็นแล้วสงสารมากจึงประสานไปที่จุดกักตัวชั่วคราว วัดสะพาน คลองเตย แต่ได้รับแจ้งว่าที่นั่นก็เต็ม จึงประกาศเสียงตามสายว่าจะทำโครงการนี้ หากมีใครคัดค้านขอให้ส่งจดหมายมาที่ประธานชุมชน เวลาผ่านไป 1 วันไม่มีใครคัดค้าน จึงเริ่มทำสถานที่กันตั้งแต่วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม และเสร็จในวันอาทิตย์ มีคนในชุมชนที่ติดเชื้อ 5 คนแยกตัวมานอน และทุกคนยังรอเตียงอยู่ ขณะที่บางคนติดเชื้อแล้วแต่ไม่มีใบรับรองผลตรวจที่ใช้หาเตียงได้ก็เป็นปัญหาที่ยังไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร
พี่นกบอกด้วยว่าทางสำนักงานเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่มาพูดคุย ขอให้นำทุกคนไปกักตัวที่วัดสะพาน เพราะเตรียมสถานที่ให้แล้ว แต่ผู้ติดเชื้อในชุมชนพอใจจะอยู่ที่นี่มากกว่า ถ้าจะต้องไปขอไปโรงพยาบาล แต่ถ้าจะต้องไปที่วัดสะพานก็มีค่าแค่เหมือนเปลี่ยนที่รอเตียง
THE STANDARD ได้พูดคุยกับผู้ติดเชื้อรายหนึ่งในชุมชน เธอติดเชื้อพร้อมลูกชายวัย 7 ขวบ ขณะที่สามีตรวจแล้วยังไม่พบเชื้อ ส่วนลูกสาวอีกคนวัย 3 ขวบไม่มีใครยอมตรวจให้ เพราะบอกว่ายังเด็กเกินไป เธอเป็นอีกคนที่ไปตรวจโควิดที่คลินิกและไม่สามารถใช้ยื่นหาเตียงได้ ทั้งที่ทราบแล้วว่าตัวเองติดเชื้อแต่ก็ต้องหอบลูกไปนอนรอที่จุดตรวจเชิงรุกของกรุงเทพมหานครตั้งแต่ตี 1 เพื่อจะได้ผลตรวจที่สามารถขอเตียงได้ แต่ที่สุดแล้วเธอก็ยังต้องนอนรอเตียงอยู่ในเต็นท์ต่อไปพร้อมลูกชาย ตอนนี้ห่วงลูกสาววัย 3 ขวบมาก เพราะไม่ทราบว่าติดเชื้อหรือไม่ ขณะที่ตัวเธอเองตอนนี้เริ่มแน่นหน้าอก ทราบดีว่าเตียงในโรงพยาบาลเต็ม แต่ขอแค่ได้ไปพบหมอเพื่อตรวจอาการว่าเชื้อลงปอดแล้วหรือยัง แล้วจะให้กลับมานอนที่เต็นท์แบบเดิมเธอก็ยินดี แต่ตอนนี้ก็ได้แต่รอเตียงต่อไป