ทีมวิจัยจากราชวิทยาลัยลอนดอน (Imperial College London) เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า โครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักรส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงถึง 2 ใน 3 หรือกว่า 60% นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่พบว่าโครงการฉีดวัคซีนเริ่มทำลายความเชื่อมโยงระหว่างการติดเชื้อกับกรณีการเสียชีวิต
งานวิจัยดังกล่าวซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร อ้างอิงข้อมูลการแพร่ระบาด ณ ปัจจุบันและการสุ่มเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อด้วยวิธี Swab จากประชาชนในแต่ละเดือน ภายหลังเริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศเมื่อเดือนมกราคม
ซึ่งตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมพบว่า กรณีการติดเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรลดลงถึง 2 ใน 3 หรือราว 60% คาดว่าเป็นผลจากทั้งการฉีดวัคซีนและมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี
ขณะที่การสุ่มตรวจเชื้อรอบล่าสุดจากประชาชน 140,000 คน ระหว่างวันที่ 11-30 มีนาคม พบผู้ติดเชื้อราว 0.2% หรือประมาณ 1 ใน 500 คน
ซึ่งในกลุ่มประชากรอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป พบว่ามีอัตราการติดเชื้อน้อยที่สุดราว 1 ใน 1,000 คน คาดว่าเป็นผลจากการฉีดวัคซีนที่มุ่งเน้นไปที่ผู้สูงอายุ
ผลการวิจัยยังพบว่าโครงการฉีดวัคซีนเริ่มทำลายความเชื่อมโยงระหว่างกรณีการติดเชื้อกับกรณีผู้ติดเชื้อที่อาการรุนแรงหรือเสียชีวิต
จากการวิจัยพบว่า ความเชื่อมโยงระหว่างกรณีการติดเชื้อโควิด-19 และการเสียชีวิตนั้นเริ่มแตกต่างกัน โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีน พบว่ากรณีการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงจนต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือถึงขั้นเสียชีวิตนั้นมีจำนวนลดลง
ขณะที่ปัจจุบันมีประชากรสหราชอาณาจักรได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วมากกว่า 5.6 ล้านคน และราว 31.7 ล้านคน หรือกว่า 60% ของประชากรผู้ใหญ่ของสหราชอาณาจักรได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว
ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ปรับเปลี่ยนข้อแนะนำในการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนอายุต่ำกว่า 30 ปีให้ใช้วัคซีนตัวอื่นแทนวัคซีนของ AstraZeneca เนื่องจากพบข้อมูลบ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงที่ก่อให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยยังเตือนให้ระมัดระวัง เนื่องจากอัตราการติดเชื้อลดลงในช่วงสิ้นสุดการวิจัย ขณะที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรเริ่มต้นผ่อนคลายล็อกดาวน์ทั่วประเทศและเด็กๆ เริ่มกลับไปโรงเรียน ซึ่งการศึกษาวิจัยในอนาคตจำเป็นต้องประเมินผลกระทบเรื่องการผ่อนคลายมาตรการป้องกันที่ส่งผลต่ออัตราการติดเชื้อด้วย
ทั้งนี้สหราชอาณาจักรจะยกเลิกการล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบล่าสุด ตั้งแต่วันนี้ (12 เมษายน) โดยอนุญาตให้ร้านค้าและสถานประกอบธุรกิจที่ไม่จำเป็นกลับมาเปิดได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับร้านตัดผม ฟิตเนส และร้านอาหาร
ภาพ: Jane Barlow / PA Images via Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: