เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว นายวัฒนา หรือ ตุ่ม ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา หลังศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีพยายามฆ่าผู้อื่น หมายเลขดำ อ.2868/60 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวัฒนา ภุมเรศ เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 ช่วงเวลากลางวัน จำเลยได้ประกอบทำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบขึ้นเองเป็นระบบไฟฟ้า หรือตั้งเวลาเป็นตัวจุดระเบิดประกอบกับวัตถุระเบิดแรงต่ำ ชนิดไปป์บอมบ์ ใส่ไว้ในท่อ PVC 4 ชุด และใส่ในกระถางต้นไม้ 1 ชุด ที่บ้านพักย่านบางเขน ก่อนนำไปใส่ไว้ในแจกันดอกไม้ 1 ชุด และขึ้นรถโดยสารลอบไปติดไว้ที่ฝาผนังภายในห้องวงษ์สุวรรณ รพ.พระมงกุฎเกล้า จนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 21 ราย ทรัพย์สินเสียหายหลายรายการมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ที่ห้องพิจารณาคดี 807 โดยมีญาติมาให้กำลังใจ คดีนี้ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีพนักงานสอบสวน สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เบิกความเกี่ยวกับภาพวงจรปิดที่พบชายต้องสงสัยรูปพรรณตรงกับจำเลย รวมทั้งแผนผังประกอบระเบิดที่บ้านพักจำเลย ซึ่งจำเลยทดลองแล้ว พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาจึงมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง
จึงพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ให้จำคุกตลอดชีวิตฐานทำให้เกิดระเบิดจนผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ให้จำคุก 3 ปี ฐานประกอบวัตถุระเบิดซึ่งทำให้เกิดระเบิด, ให้จำคุก 1 ปี ฐานครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ปรับ 1,000 บาท ฐานนำวัตถุระเบิดไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จึงรวมจำคุกทั้งสิ้น 26 ปี 12 เดือน และปรับ 500 บาท
พร้อมให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีครอบครองวัตถุระเบิดที่บ้านพักจำเลยด้วย ที่ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ในข้อหาประกอบ ทำ มีวัตถุระเบิด และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ให้จำคุก 8 ปี ปรับ 1,950 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 ปี ปรับ 975 บาท