เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 ส.ค.) ศาลสูงสุดของคอสตาริกาประกาศคำตัดสินกรณีการแบนกฎหมายสมรสของคู่รักเพศเดียวกันของฝ่ายนิติบัญญัติว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมถึงเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยจะให้เวลานับจากนี้ 18 เดือนในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ใหม่
การแบนดังกล่าวเป็นผลมาจากการผลักดันของสมาชิกในสภานิติบัญญัติที่เป็นนักบวชและนักเทศน์เคร่งศาสนาที่นั่งอยู่ในสภาถึง 14 ที่นั่งจากทั้งหมด 57 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมากกว่าปีก่อนๆ โดยพวกเขามองว่ากฎหมายการสมรสของคู่รักเพศเดียวกันขัดต่อหลักคำสอนและความเชื่อของกลุ่มตน
เฟอร์นันโด กัสติโญ หนึ่งในผู้พิพากษาศาลสูงสุด ระบุว่าการประกาศแบนนี้จะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติภายใน 18 เดือนนับจากนี้ แม้ฝ่ายนิติบัญญัติจะไม่ดำเนินการแก้ไขตัวบทกฎหมายนี้ก็ตาม อันเป็นผลมาจากอำนาจของรัฐธรรมนูญที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกันภายในประเทศแห่งนี้
ทางด้านประธานาธิบดีการ์ลอส อัลบาราโด อดีตนักร้องเพลงร็อกและนักเขียนชื่อดังที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไปเหนือนายฟาบริซิโอ อัลบาราโด นักเทศน์เคร่งศาสนาที่ปฏิญาณตนจะต่อต้านการสมรสของคู่รักเพศเดียวกันในคอสตาริกาให้ถึงที่สุด โดย ประธานาธิบดีการ์ลอสได้ทวีตข้อความระบุว่า “พวกเราจะยังคงเดินหน้าต่อสู้เพื่อการันตีว่าจะไม่มีประชาชนคนไหนที่จะต้องถูกเลือกปฏิบัติเพียงเพราะรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา ซึ่งความคุ้มครองโดยรัฐนี้จะถูกมอบให้กับประชาชนทุกคนภายใต้เงื่อนไขของความเท่าเทียมกัน”
โดยคำตัดสินของศาลสูงสุดนี้สอดคล้องกับมติของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งทวีปอเมริกา (IACHR) เมื่อช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ที่กำหนดให้รัฐสมาชิกทุกประเทศที่ร่วมลงนามในข้อตกลงด้านสิทธิมนุษยชนแห่งทวีปอเมริกา (American Convention on Human Rights) ต้องออกกฎหมายรับรองสิทธิของคู่รักเพศเดียวกันให้มีสิทธิเท่าเทียมกับคู่รักต่างเพศในสังคมทุกประการโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งคอสตาริกากำลังจะเป็นหนึ่งในประเทศที่จะประกาศใช้กฎหมายนี้อย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: