CNN รายงานว่า ทำเนียบขาวได้ยื่นของบประมาณฉุกเฉินต่อรัฐสภาจำนวน 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.04 หมื่นล้านบาท) เพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 โดยในจดหมาย รัสเซลล์ วอจต์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการและงบประมาณของสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลต้องการทรัพยากรทั้งหมดอย่างน้อย 2.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งงบประมาณส่วนหนึ่งอาจโยกจากส่วนที่จัดสรรไว้ก่อนแล้ว เพื่อมอบให้กับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการต่อสู้กับโรคระบาด
ด้าน ริชาร์ด เชลบี ประธานคณะกรรมาธิการจัดสรรงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการได้พูดคุยกับทำเนียบขาวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
สำหรับคำขอเบิกจ่ายงบ 1.25 พันล้านดอลลาร์นั้น แบ่งเป็นงบประมาณฉุกเฉินเพิ่มเติมจำนวน 535 ล้านดอลลาร์ ที่ก่อนหน้านี้จัดสรรให้กับการป้องกันและรักษาโรคอีโบลา แต่จะถูกโยกไปให้กับหน่วยงานที่นำไปต่อสู้กับไวรัสโคโรนา
จดหมายของทำเนียบขาวระบุว่า เวลานี้การตอบสนองต่อวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนาควรเป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญเป็นอันดับแรกๆ โดยข้อเสนอทั้งสองนี้จะช่วยเพิ่มงบประมาณใหม่จำนวน 1.8 พันล้านดอลลาร์สำหรับการตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ชัค ชูเมอร์ ส.ว. จากนิวยอร์ก ผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา มองว่าคำขอทรัมป์สายเกินไป และบ่งชี้ถึงการขาดความสามารถของทรัมป์ อีกทั้งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขาและคณะบริหารไม่ได้ดำเนินมาตรการรับมือกับวิกฤตการระบาดแบบจริงจังอย่างที่ควรจะเป็น
“เราไม่เห็นสัญญาณว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีแผนหรือมาตรการเร่งด่วนอะไรในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา เราต้องการผู้นำที่แท้จริง” ชูเมอร์กล่าว
ภาพ: ShutterStock
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: